While I thought that I was learning how to live, I have been learning how to die - Leonardo da Vinci

บทความเหล่านี้ หากเป็นประโยชน์กับท่าน ผมก็ดีใจ หากจะนำไปใช้ที่อื่น ผมก็ยินดี แต่กรุณาอ้างอิงที่มานิดนึง จัดเป็นมารยาทพื้นฐานในการใช้บทความของผู้อื่นใน internet หลายเรื่องผมต้องค้นคว้า แปลเอกสาร ตรวจสอบความถูกต้อง กลั่นกรอง เรียบเรียง ใช้เวลา ใช้สมอง ใช้ประสบการณ์ การก๊อปไปเฉยๆ อาจทำให้คนอื่นคิดว่าคนที่นั่งคิดนั่งเขียนแทบตายห่ากลายเป็นคนก๊อป ผมเจอเพจที่เอาเรื่องของผมไปตัดโน่นนิดนี่หน่อยให้เป็นงานของตัวเอง ไม่อ้างอิงที่มา ไม่ละอายใจหรือ .. สงสัยอะไร comment ไว้ ผมจะมาตอบ แต่ถ้าใครมาแสดงความไพร่หรือด่าทอใครให้พื้นที่ของผมสกปรก ผมจะลบโดยไม่ลดตัวลงไปยุ่งเกี่ยว อยากระบายไปหาที่ของตัวเองครับ หมายังขี้เป็นที่เป็นทางเลยจ้ะ นี่ก็เคยเจอ ไม่รู้พ่อแม่สอนมายังไง!!!

วันศุกร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2556

บทกวีจีนโดย หลี่ไป๋–หนังจีน–และตัวผมเอง



1.  มาเริ่มกันที่ท่านหลีไป๋ก่อนนะครับ ท่านเป็นกวีในสมัยราชวงศ์ถัง เขียนบทกวีไว้มากมาย ซึ่งผมมีโอกาสได้อ่านเกือบทั้งหมดที่มีการแปลเป็นไทย มีที่ชอบมากๆ อยู่ 2 บทนี้ จนอยากจะเอามานำเสนอให้คุณได้อ่านและซาบซึ้งไปด้วยกัน

ค่ำคืนแจ่มกระจ่างแห่งฤดูใบไม้ผลิ หลังจากพายุฝน ผ่านพ้น
ดาวประกายพฤกษ์ พราวแสงอยู่เหนือลำน้ำ
ทางช้างเผือก ขาวสะอ้าน ราวหิมะ
ฟากฟ้ามืดทมึน ห้วงมหรรณพแผ่ไพศาล
บรรพตอุดร เลือนรางอยู่ในความมืด
ดวงจันทร์คล้ายกระจกใส ผุดขึ้นมาจากความว่าง
และเมื่อค่อยโคจรขึ้นสูงหว่างฟากฟ้า สาดส่องแสงโสม
หยาดน้ำค้างพราวพร่าง บนกลีบดอกไม้.

ดื่มเดียวดายใต้เงาจันทร์ 月下獨酌  Drinking Alone under the Moon
花間一壺酒。 ไหสุราประหนึ่งดัง ดอกไม้
獨酌無相親。 ไร้เพื่อนดื่มเคียงกาย ผู้เดียว
舉杯邀明月。 ยกจอกขึ้นเชื้อเชิญจันทร์ กระจ่างใส
對影成三人。 ทอแสงรวมเงาข้า เป็นสาม
月既不解飲。 จันทร์เจ้าลอยเลื่อน ไม่อาจ ดื่มได้
影徒隨我身。 เงาเจ้าคล้อยเคลื่อนตาม ติดไหว
暫伴月將影。 มีทั้งจันทร์และเงาอยู่เป็นเพื่อน
行樂須及春。 เริงรื่น ก่อนฤดูไม้พรรณพฤกษ ผลิใบ
我歌月徘徊。 เมื่อข้าร้องเพลง จันทร์ทอแสง
我舞影零亂。 เมื่อข้าเริงระบำ เงาสั่นไหว
醒時同交歡。 เมื่อยังตื่น ร่วมสรวลเสเฮฮา
醉後各分散。 เมื่อเมาแล้ว ต่างต้องแยกจากกัน
永結無情遊。 มิตรภาพของเรายังคงอยู่ตลอดไป
相期邈雲漢。 และพบกันใหม่ในธารดารา (ธารดาราหมายถึงทางช้างเผือก)

2.  บทกวีจีนจากหนังเรื่อง "A Simple Life" กวีบทนี้ ผมนั่งจดมาจากหนังเลยครับ ซึ่งผมเข้าใจว่า มันสรุปปรัชญาของสรรพสิ่งทั้งหลาย อันนี้ผมไม่รู้ว่า เขาแต่งขึ้นมาใหม่ หรือเอามาจากบทกวีโบราณ แต่ผมรู้สึกว่า บทกวีจีนมันเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก แค่บทเดียว มันมีความลึกซึ้งและครอบคลุมทุกเรื่อง ยิ่งอ่านหลายรอบ ยิ่งรู้สึกลึกซึ้งกับมันมากขึ้น

การพบกันใหม่กับการจากลา ทัดเทียมกันได้ยาก
ลมทิศตะวันออกพัดเอื่อย สิ่งเหี่ยวแห้งกลับเบ่งบาน
ตัวไหม พ่นใยไหมจนตัวตาย
เทียนหยดน้ำตาออกมา จนหมดเล่ม
กระจกตอนเช้า สะท้อนเส้นผมยุ่งเหยิง
แสงจันทร์เย็นยะเยือก กล่าวขานบทกวี
ไม่มีถนนที่มุ่งไปยังหุบเขามหัศจรรย์
นกอินทรีสีน้ำเงิน ถูกเฝ้าแสวงหา

3.  หลังจากได้สัมผัสบทกวีจีนแท้ๆ ผมก็เกิดอารมณ์ร่วม ถ้าจะพูดให้สวยงามคือ มันสร้างแรงบันดาลใจให้ผมอยากแต่งกวีจีนดูบ้าง ปรากฏว่า ยากมากครับ โคลงบทนี้ เกิดจากจินตนาการล้วนๆ ใช้เวลาแต่งประมาณ 3 ชั่วโมง และคิดว่าคงเป็นกวีจีนบทเดียวที่ผมจะแต่งได้ในชีวิตนี้ เชิญรับชมครับ

แสงจันทร์สาดสะท้อน ความงาม บนพื้นน้ำ
สายลมยามดึก ชุ่มชื่น กลิ่นไอลมหนาว
กิ่งหลิวพัดพลิ้ว ล้อแสง หิ่งห้อย
กลิ่นหอมดอกไม้ พาให้ อ่อนไหว
หมอกบางสร้างภาพ อบอุ่นอ่อนโยน
ดวงดาวสุกสว่าง ดุจประกายเพชร บนผืนไหม
ค่ำคืนแสนหวาน ท่ามกลางแมกไม้
พรมหญ้าหนานุ่ม เมรัย เสิศรส


5 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ขอโทษนะครับ
พอดีว่าผมสนใจเรื่องบทกวีของหลี่ไป๋
แล้วอยากหาเป็นหนังสืออ่าน หรือสื่ออื่น
รบกวนช่วยแนะนำหน่อยได้ไหมครับ
ว่าหาซื้อได้ที่ไหน หรือหาอ่านได้ที่ไหนอะครับ
ขอบคุณล่างหน้าครับ

Unknown กล่าวว่า...

""บุปผา..ที่สุดย่อมต้องโรยรา""
""สุริยา..สูงสุดย่อมคล้อยต่ำ""
""ดวงจันทรา..เต็มดวงยังเว้าแห่วง""
""ลิขิตจากฟ้า..หรือว่าไม่อาจฝืนได้""
%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%
สยบ เทพ

Unknown กล่าวว่า...

很好。

Unknown กล่าวว่า...

สวัสดีค่ะ พอดีกำลังศึกษาเกี่ยวกับ เต๋าเต๋อจิงเพื่อเอามาเขียนนิยาย ขออนุญาตใช้ข้อมูลจากบล็อกของคุณ victor phichaisrisawad ในการศึกษา และอาจมีกาจอ้างอิงข้อมูลบางส่วนเพื่อเปรียบเทียบกับหนังสือเล่มอื่น พอดีว่าส่งอีเมลไม่ได้ ขอแจ้งทางนี้ก็แล้วกันนะคะ

ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ

Unknown กล่าวว่า...

เอ๊อะ จะคอมเมนต์ในอีบทความ ดันเมนต์ผิด ขออภัยด้วยค่ะ TT