While I thought that I was learning how to live, I have been learning how to die - Leonardo da Vinci

บทความเหล่านี้ หากเป็นประโยชน์กับท่าน ผมก็ดีใจ หากจะนำไปใช้ที่อื่น ผมก็ยินดี แต่กรุณาอ้างอิงที่มานิดนึง จัดเป็นมารยาทพื้นฐานในการใช้บทความของผู้อื่นใน internet หลายเรื่องผมต้องค้นคว้า แปลเอกสาร ตรวจสอบความถูกต้อง กลั่นกรอง เรียบเรียง ใช้เวลา ใช้สมอง ใช้ประสบการณ์ การก๊อปไปเฉยๆ อาจทำให้คนอื่นคิดว่าคนที่นั่งคิดนั่งเขียนแทบตายห่ากลายเป็นคนก๊อป ผมเจอเพจที่เอาเรื่องของผมไปตัดโน่นนิดนี่หน่อยให้เป็นงานของตัวเอง ไม่อ้างอิงที่มา ไม่ละอายใจหรือ .. สงสัยอะไร comment ไว้ ผมจะมาตอบ แต่ถ้าใครมาแสดงความไพร่หรือด่าทอใครให้พื้นที่ของผมสกปรก ผมจะลบโดยไม่ลดตัวลงไปยุ่งเกี่ยว อยากระบายไปหาที่ของตัวเองครับ หมายังขี้เป็นที่เป็นทางเลยจ้ะ นี่ก็เคยเจอ ไม่รู้พ่อแม่สอนมายังไง!!!

วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2556

ความรักหัวขวด .. it’s complicate

การรักใครสักคน มันเป็นเรื่องซับซ้อน และสร้างความสับสนได้ดี ถึงขนาดว่า chaos theory ก็เอามาอธิบายไม่ได้ .. ถ้าคุณอยากจะใช้ชีวิตแบบคนสับสน และสูญเสียการควบคุม ก็ลองรักใครสักคนแบบหัวปักหัวปำดู .. ถ้าไม่อยากจะอ้วก ก็อย่าอ่านต่อเลยครับ วันนี้ผมจะน้ำเน่าให้มันสุดทิศสุดทางไปเลย เว้นวรรคตามด้วยนะครับ จะได้อารมณ์มากขึ้น .. อ่ะ เริ่มเลยละกัน
คืนนี้พระจันทร์ทรงกลด แสงจันทร์สาดส่องไปทั่วพื้นพิภพ กลบแสงดาวเสียสิ้น สายลมอ่อนๆ พัดพลิ้ว กลิ่นโมกข์ หอมเย็นชื่นใจ ผมอยากให้เธอมาอยู่เคียงข้างเสียจริง .. แล้วผมก็หอนเสียงยาว อย่างห้ามใจไม่ได้ ทำเอาเด็กๆ ในบ้านหอนรับกันเกลียว ทีนี้เลยหอนรับกันไปทั้งบาง จนแม่ลุกมาด่า
มันคล้ายๆ กับเรื่องหมาเห็นเครื่องบิน แต่การที่หมา มานั่งดูพระจันทร์ มันเป็นเรื่องที่ยากกว่า ประเด็น ไม่ได้อยู่ที่ความสูง จนสุดเอื้อม แต่อยู่ที่ความเป็นไปได้ต่างหาก เธอไม่ได้สูงส่งอะไร ก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ที่ออกจะเตี้ยๆ ด้วยซ้ำไป .. ผมกำลังพุ่งประเด็นไปที่สถิติ โอกาสที่เครื่องบินจะตก มันมีไม่ถึง 1 เปอร์เซนต์ แล้วโอกาสที่พระจันทร์จะพุ่งมาชนโลกล่ะ แม่งเป็นไปไม่ได้เลย มันเป็นเรื่องของแรงกระทำ มหาศาล .. แรงโน้มถ่วง แรงเหวี่ยงหนีศูนย์ แรงผลัก และวงโคจร ระหว่างดวงดาวน่ะครับ .. มีแต่พระเจ้าเท่านั้น ที่ทำได้ งั้นเราจะโยนเรื่องพระจันทร์พุ่งชนโลก ให้พระเจ้าไปจัดการต่อก็แล้วกัน
ผมได้รู้จัก และรักเธอ เมื่อนานมาแล้ว มันคือ ความอ่อนไหว ล้วนๆ .. และมันมีความแตกต่างมหาศาลจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง อายุ เพศ(เออใช่) การศึกษา การอบรมเลี้ยงดู สภาพแวดล้อม สถานภาพทางสังคม พื้นฐานทางความคิด ความสนใจ วุฒิภาวะทางอารมณ์ ความสูง ขนาด สีขน รวมทั้งสายพันธุ์ .. เอ คนรึหมากันแน่วะเนี่ย ผมเองก็ชักสับสน เอาเถอะ มาว่ากันต่อ .. ไอ้ที่สำคัญ เธอมีแฟนแล้ว .. ฮ่ะๆ ให้มันได้อย่างนี้สิ ชักเริ่มซับซ้อนขึ้นแล้วครับ
ตอนนั้น ผมหน้ามืดตามัวมาก ขนาดที่คิดว่า กูจะแย่ง ความรักทำให้ผมตาบอดได้เลย แต่คุณธรรมมันก็ยังอยู่ เลยทำไม่ได้ มันทั้งทำไม่ได้และไม่ได้ทำนั่นแหละครับ ผมรู้จักแฟนเธอด้วย เขาเป็นคนน่ารักทีเดียว จนบางครั้ง ผมนึกอยากจะรวบเสียทั้งคู่ .. อ้าวเฮ้ย ชักมั่วแล้ว
ที่ยิ่งไปกว่านั้น เธอคิดว่าผมเป็นแค่พี่ (ไปหาเพลง พี่ชายฟังนะ..สัดเอ๊ย ซึ้งฉิบหาย เตรียมกระโถนกันไว้เปล่าเนี่ย) บางที ผมนึกอยากจะกระชากคอเธอมาบอกว่า กูไม่ได้คิดกับมึงแบบน้องนะ กูรักมึง มึงดูไม่ออกเหรอ ควาย ทำไมมึงโง่อย่างงี้วะ .. แต่ก็ไม่ได้ทำ นั่น มันออกจะ hard core ไปหน่อย เกิดโดนเธอถีบขึ้นมา คงไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน .. จริงๆ แล้ว ผมไม่เคยพูด ไม่เคยทำอะไรเลย กลัว ว่าเธอจะไม่คุยด้วยอีก และมันเป็นเรื่องน่าอายจริงๆ
ด้วยเวลาอันยาวนาน มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย จนสุดท้าย เรากลายเป็นคนแปลกหน้า ไม่ใช่เพราะผมไปทำมิดีมิร้ายอะไรเธอนะ ไม่เคยสักครั้ง ทั้งๆ ที่มีโอกาส พ่อแม่สอนมาดีน่ะ เรื่องความยับยั้งชั่งใจ .. ผมยังคงประคองตัวเป็นพี่ที่ดี พยายามทำตัวดีๆ คำน้อยไม่เคยว่าให้สะเทือนใจ (ทั้งๆ ที่บางที อยากจะด่าแม่) ทำตัวใส ซื่อ(บื้อ) บริสุทธิ์ สม่ำเสมอ .. เลิกคิดเรื่องความต้องการครอบครอง แค่เธอพูดคุย ไว้วางใจ มันก็พอแล้ว และผมพร้อมจะทำทุกอย่าง เพียงเพื่อได้เห็นเธอมีความสุข เป็นห่วงเป็นใย สารพัด จนน่ารำคาญ .. นักบุญแท้ๆ
แต่มันคงไม่ดีพอ เธอเลยไม่เคยจะใส่ใจ ไม่เคยสนใจความรู้สึก กลับทำแต่เรื่องให้ผมเจ็บปวด และโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ก็เข้าใจ มันก็แค่ ไม่สนใจน่ะ อาจเพราะสำหรับเธอ ผมไม่ได้มีความหมายอะไรเลย .. ผมทั้งโกรธ ทั้งเสียใจ จนพาลโกรธตัวเองไปด้วย นี่มันรุนแรงมากนะ กับอาการเสีย self .. ความรู้สึกตอนนั้น มันเฮงซวยมากครับ .. และผมก็ได้เข้าใจ คำว่า ใจสลาย พังทลาย ในคราวนี้เอง
ผมไม่เห็นหน้าเธอมาหลายเดือน มันนาน จนคิดว่าลืม เพราะบางครั้งที่นึกถึงเธอ มันรู้สึกเฉยๆ ไปแล้ว ไม่เจ็บปวด ไม่ทุรนทุราย .. จนเมื่อวันก่อน ได้เห็นหน้าเธออีกครั้ง แววตาเธอเป็นประกาย แค่เธอยิ้มให้ ผมก็แทบจะลงไปกองอยู่กับพื้น .. รอยยิ้มที่ช่างสดใส รอยยิ้มที่ทำลายความด้านชา และความรู้สึกร้ายๆ ให้กลายเป็นผุยผง รอยยิ้มที่ทำให้โลกทั้งใบ กลายเป็นสีชมพู .. ให้ตายห่าสิ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า .. ผมหวั่นไหว ..
แล้วไงต่อล่ะ .. แค่นี้มันก็คงแย่พอแล้วมั๊ง มันจะแย่กว่านี้อีก ถ้าผมปล่อยให้ตัวเองมีความหวัง บางคนบอกว่า ความหวัง ทำให้เราอยู่ได้ดี แต่เชื่อผมเถอะ มันไม่ใช่ทุกเรื่องหรอก ความหวังบางอย่าง ก็ทำร้ายเรา และทำให้เราต้องอยู่กับความปวดร้าวอันน่ารำคาญ มันทรมานเสียยิ่งกว่าการขี้ไม่หมดเสียอีก .. ทั้งหมดที่ผมต้องทำ ก็แค่ ลืมๆ มันไปซะ ก็เท่านั้นเอง .. นั่นล่ะยากสัตว์ๆ เลย ..
ผมจะลืมได้ยังไง กับสายตาว่างเปล่า ที่ทำให้ผมต้องเสียน้ำตา .. หรือรอยยิ้ม กับสายตาเป็นประกาย ที่ทำให้ใจผมพองโต .. บางที ผมก็ยังอยากให้เธอรู้ ว่าผมยังอยู่ข้างเดียวกับเธอเสมอ ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ผมพร้อมจะช่วย พร้อมจะทำทุกอย่าง ถ้าเธอจะยังจำ คำพูดของผมได้ .. แต่ก็นะ เธอก็คงแค่ ไม่สนใจเหมือนที่เคย มันอาจเป็นแค่เสียง หมาเห่า น่ารำคาญ สำหรับเธอ ก็เท่านั้น .. แต่เธอรู้ไหม หมาก็มีหัวใจนะ
โอเคจบ เหนื่อยว่ะ .. นิทานของผมมันน้ำเน่าใช้ได้ไหม ถ้าพอเอาดีได้ ผมจะเริ่มไปเขียนนิยายขาย หารายได้เพิ่มอีกสักหน่อย พักนี้ตังค์ไม่ค่อยพอใช้ ลูกบ๊าคใช้เงินตั้งเกือบ 3 ใน 4 ส่วนของเงินเดือนผม โตแล้วจะมานั่งไถแม่อยู่ ก็ใช่ที่ .. ลูกมันต้องกิน ต้องใช้ .. คำพูดนี้คุ้นๆ แฮะ อ้อ เมื่อ 2 ปีก่อน มีคนใช้คำพูดนี้กับผม ผ่านคนที่อยากจะช่วยจนตัวสั่น แต่กลับไม่ยอมช่วยด้วยตัวเอง กลายเป็นมานั่งปั่นหัวคนนั้นคนนี้ ให้ทำนั่นทำนี่ ทั้งๆ ที่คนก็มีมาแล้ว ยิ่งเห็นความตอแหล ผมยิ่งเซ็ง .. แล้วจะให้ผมทำไงกับไอ้คนที่นั่งหัวโด่อยู่นี่ล่ะ ตอนคุณไป ผมไม่ได้ไปมีส่วนด้วยสักนิด แล้วผมต้องไปรับผิดชอบอะไรตรงไหนด้วยไม่ทราบ .. ไม่เข้าใจว่า เอาสมองส่วนไหนคิดกัน อาจเป็น หัวแม่ตีน ..
ตายห่า .. ลืมข้อความ climax ได้ไงวะเนี่ย .. ถ้าเลิกกันเมื่อไหร่ บอกด้วย เค้ารอตัวเองอยู่นะ จนกว่าชีวิตจะหาไม่ ชั่วฟ้าดินสลาย ..
แล้วต่อด้วยเพลงนี้เลย love song .. อันนี้เสียงดี .. อันนี้ภาพวีดีโอดี .. ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้หรอกครับ แต่หวานสัด .. ไหนๆ ก็ได้อ้วกกันแล้ว เอาออกมาให้หมด แล้วจะสบายครับ

ไม่มีความคิดเห็น: