While I thought that I was learning how to live, I have been learning how to die - Leonardo da Vinci

บทความเหล่านี้ หากเป็นประโยชน์กับท่าน ผมก็ดีใจ หากจะนำไปใช้ที่อื่น ผมก็ยินดี แต่กรุณาอ้างอิงที่มานิดนึง จัดเป็นมารยาทพื้นฐานในการใช้บทความของผู้อื่นใน internet หลายเรื่องผมต้องค้นคว้า แปลเอกสาร ตรวจสอบความถูกต้อง กลั่นกรอง เรียบเรียง ใช้เวลา ใช้สมอง ใช้ประสบการณ์ การก๊อปไปเฉยๆ อาจทำให้คนอื่นคิดว่าคนที่นั่งคิดนั่งเขียนแทบตายห่ากลายเป็นคนก๊อป ผมเจอเพจที่เอาเรื่องของผมไปตัดโน่นนิดนี่หน่อยให้เป็นงานของตัวเอง ไม่อ้างอิงที่มา ไม่ละอายใจหรือ .. สงสัยอะไร comment ไว้ ผมจะมาตอบ แต่ถ้าใครมาแสดงความไพร่หรือด่าทอใครให้พื้นที่ของผมสกปรก ผมจะลบโดยไม่ลดตัวลงไปยุ่งเกี่ยว อยากระบายไปหาที่ของตัวเองครับ หมายังขี้เป็นที่เป็นทางเลยจ้ะ นี่ก็เคยเจอ ไม่รู้พ่อแม่สอนมายังไง!!!

วันอังคารที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

ข้าวผัดกุนเชียงปลา

ด้วยความที่อยากกินข้าวผัดอร่อยๆ มาหลายวัน มันจึงเลี่ยงไม่ได้ว่าจะต้องลงมือทำเอง (ซึ่งหาโอกาสได้ยากมาก)
ผมไปจ่ายตลาดเมื่อเสาร์เย็น เลยซื้อกุนเชียงปลากับไส้กรอกมาเตรียมไว้ด้วย กะว่าจะทำวันอาทิตย์ กลายเป็นไปตัดหญ้าเพลินเสียครึ่งวัน ก็หมดปัญญาจะทำอะไรต่อแล้วครับ
เมื่อเย็นวาน ผมอยากกินจนได้กลิ่น(เคยเป็นไหม) ผมรีบกลับบ้านเพื่อข้าวผัด 1 จานใหญ่ มาดูกันว่าผมใส่อะไรไปบ้าง

 


ส่วนประกอบ
1. ข้าวสวย หุงสวยๆ ให้เป็นเม็ดได้จะดี ถ้าข้าวนิ่มให้ตักใส่ตู้เย็นไปสักชั่วโมง จะช่วยให้แข็งขึ้น เพราะตู้เย็นช่วยดูดความชื้นในข้าวออกไป
2. กระเทียมสับหยาบ 7-8 กลีบใหญ่ ผมไม่เอาเปลือกซึ่งมันจะทำให้หอมกว่าเวลาเจียว แต่ผมไม่ชอบความเหนียวของมัน
3. แครอทหั่นลูกเต๋าเล็กๆ มันเป็นผักที่ย่อยยาก การหั่นเล็กทำให้ไม่ต้องเคี้ยวมากและดูสวยดี
4. ถั่วฝักยาว 3 ฝัก หั่นบาง
5. พริกยาวหั่นเฉียง 1 เม็ด เพิ่มความหอม
6. มะเขือเทศ 3 ลูกไม่เอาเม็ด (จะทำให้ข้าวผัดแฉะ)
7. หอมใหญ่ 1 หัว หั่นบาง
8. ต้นหอม 3 ต้น หั่นบาง
9. ไข่ไก่ 3 ฟอง
10. กุนเชียงปลา 1 ท่อน หั่นบาง ผมชอบมากกว่ากุนเชียงหมู มันหวานน้อยกว่า กลิ่นดีกว่า สัมผัสต่อลิ้นดีกว่า นี่มากเกินไป ใช้แค่ครึ่งท่อนก็พอ (นี่มันกลายเป็นกุนเชียงผัดข้าวไปละ)
11. ไส้กรอก ทีแรกคิดจะใส่ด้วยครับ แต่กุนเชียงเยอะแล้ว เลยเก็บใส่ตู้เย็นไปก่อน
12. แตงกวาหั่นแช่เย็นไว้ กินแกล้มข้าวตัดความเลี่ยนครับ ถ้ารู้สึกจืดไป จับจิ้มน้ำปลาพริกก็อร่อย
เครื่องปรุง
1. ซีอิ๊วขาวที่บ้านหมดครับ ผมใช้น้ำปลาแทน ไม่ใส่มาก ผมไม่ชอบกลิ่นน้ำปลาสักเท่าไหร่ มันหวานคาวแปลกๆ
2. แม๊กกี้ ผมชอบความหอมของมัน ใส่มากกว่าน้ำปลานิดหน่อย ขวดใหญ่แบบใช้ผัดไม่มี ผมก็ใช้ขวดเล็กที่ไว้เหยาะไข่ดาวนั่นแหละครับ
3. ซอสหอยนางรมชนิดความเค็มต่ำ จะได้ใส่ได้มากขึ้น ได้ความเข้มข้นมากขึ้น (อันนี้เรียนรู้มาจากเมนูผัดผักกระเฉดที่ทำแกล้มเหล้ากันอยู่บ่อยๆ)
4. พริกไทยป่น จะได้ไม่ต้องตำ
!
น้ำปลาพริก (ต้องมี)
1. พริกชี้ฟ้าสีเขียวที่ยังอ่อน หั่นบาง
2. มะนาว 2 ลูก
3. แม๊กกี้ มันหอมกว่าน้ำปลานี่ครับ
น้ำปลาพริก ปรุงให้รสเปรี้ยวนำมากๆ จะได้ไม่ต้องฝานมะนาวมาบีบให้เลอะมืออีกรอบ การหั่นพริกบางๆ ช่วยให้น้ำมะนาว+แมกกี้แทรกเข้าไปในเนื้อพริก ตอนเคี้ยวจะกรอบและไม่เผ็ดมาก พริกขี้หนูหรือพริกสีแดงจะเผ็ดเกินไปสำหรับผม กลิ่นแรงไปด้วย
หลังจากเตรียมข้าวของด้วยเวลาราวชั่วโมงครึ่ง! ก็ได้เวลาสำแดงฝีมือผัดข้าวเป็นครั้งแรกในชีวิต...
ตั้งกระทะให้ร้อนก่อนครับ แล้วใส่น้ำมันพืชลงไป กระเทียมตาม คนๆ อย่าให้ไหม้ พอเหลืองได้ที่ผมใส่แครอทกับถั่วฝักยาวตามลงไปผัด คลุกกลับไปมาจนสุกแล้วดันไปไว้ข้างๆ
เทไข่ลงไปคนจนมันสุกและแตกเป็นชิ้นเล็กๆ ตามด้วยกุนเชียง คลุกไปกับไข่ แล้วเอาตะหลิวกดให้แนบกระทะ ให้สุกมากหน่อย (ได้กลิ่นไหม้นิดๆ จะอร่อย 55+)
คว่ำข้าวลงกระทะ เหยาะน้ำปลา แม๊กกี้ ซอสหอย อย่าหนักมือครับ เดี๋ยวชิมแล้วยังเติมได้ คลุกกลับไปมาให้ทั่วๆ กดข้าวกับกระทะบ้างให้มันสุก แห้ง พอได้ที่ก็เอาของที่เหลือทั้งหมดลง ต้นหอมรอก่อน สุกมากไปจะหมดกลิ่นหอมยามเคี้ยว
ผัดไปมาจนหอมใหญ่กับมะเขือเทศสุก มันจะได้ความหวานโดยไม่ต้องใส่น้ำตาล ค่อยลงพริกไทยเท่าที่ชอบๆ (ผมโรยทั่วกระทะเลย) ต้นหอมตาม ผัดต่อจนพอใจ ก็จะได้ 1 จานใหญ่ ขนาด 4 คนแดก ที่ให้รสชาดแบบจีนๆ ถ้าทำจานเล็กๆ มันก็ไม่คุ้มงานเตรียมของนะครับ ทำทั้งที กินได้สัก 3-4 มื้อจะได้หายอยากไปพักนึง

ข้าวผัดอร่อยของผมคือ แห้ง รสชาดกลมกล่อม(ห้ามเค็ม) ไม่ต้องใส่ผงชูรสหรือน้ำตาล โซเดียมมีในเครื่องปรุงมากพออยู่แล้ว ก็โอเคครับ จัดว่าดีทีเดียวสำหรับครั้งแรก เสียแต่ข้าวบ้านผมนิ่มไปหน่อย (พ่อแม่ผมชอบข้าวนิ่มครับ ผมชอบข้าวแข็ง แต่เมื่อเราไม่ได้หุงข้าวเอง มีอะไรก็กินไป ไม่ควรเรื่องมาก)
ผักที่ใส่ไม่มีอะไรซีเรียส ผมแค่รื้อตู้เย็น มีอะไรน่าใส่ก็หยิบๆ มา ไม่ได้ตั้งใจว่าจะต้องใส่โน่น นั่น นี่
คราวหน้าๆๆ ผมอาจทำ
- ข้าวผัดปลากระป๋อง(นึกถึงตอนอยู่โรงเรียนประจำวะ) ต้องศึกษาก่อนว่าจะทำยังไงไม่ให้เลี่ยนเหมือนที่แม่ครัวเขาทำ เชื่อไหมว่าน้องผมไม่กินปลากระป๋องอีกเลย เออ เขาอยู่หลายปีกว่า
- ข้าวผัดไส้กรอก น่าจะทำแบบข้าวผัดกุนเชียงได้ แต่แครอทกับถั่วควรเพิ่มปริมาณ
- ข้าวผัดซีอิ๊วดำหมูหมัก ต้องศึกษาวิธีหมักหมูให้นุ่มก่อน ซีอิ๊วดำกับซีอิ๊วหวานนี่มันเหมือนกันไหม การใส่คะน้าน่าจะเข้ากันได้ดีรึเปล่า แต่คะน้าต้องสุกขนาดไหน
คนทำกับข้าวเก่งๆ นี่น่าทึ่งแฮะ มันเป็นเรื่อง know how ทั้งนั้นเลย ถ้าไม่ลองทำเอง ไม่มีวันซาบซึ้ง

งานนี้ผมใช้เวลา 2 ชั่วโมง ซึ่งไม่ได้รู้สึกว่ามันนาน เพลินครับ สนุกดี ผมอาจชอบการทำอาหารก็ได้ (ว๊าย เพิ่งค้นพบตัวเอง) แต่ไม่ค่อยมีเวลาทำหรอกครับ ส่วนใหญ่วันหยุดผมจะจับงานกรรมกรในบริเวณบ้านไปเรื่อย ที่รออยู่ก็เช่น ตัดหญ้า(หน้าฝนก็จะหนักหน่อย) เอาหญ้าขนในบ่อขึ้น ล้างไผ่กิมซู 1 กอ ไผ่เลี้ยง 2 กอ ต้องตัดออกหลาย 10 ลำ น่าเสียดาย ยังคิดจะทำกระต๊อบเล็กๆ ข้างกอไผ่ ไว้นั่งสมาธิหรือไปนอนให้ผีไล่!!!
ดังนั้น การศึกษาเรื่องทำกระต๊อบอาจสนุก อุปกรณ์มีครบแล้ว แต่จะมีเวลาทำรึเปล่า ดูเหมือนจะเป็นงานละเอียด.

ไม่มีความคิดเห็น: