While I thought that I was learning how to live, I have been learning how to die - Leonardo da Vinci

บทความเหล่านี้ หากเป็นประโยชน์กับท่าน ผมก็ดีใจ หากจะนำไปใช้ที่อื่น ผมก็ยินดี แต่กรุณาอ้างอิงที่มานิดนึง จัดเป็นมารยาทพื้นฐานในการใช้บทความของผู้อื่นใน internet หลายเรื่องผมต้องค้นคว้า แปลเอกสาร ตรวจสอบความถูกต้อง กลั่นกรอง เรียบเรียง ใช้เวลา ใช้สมอง ใช้ประสบการณ์ การก๊อปไปเฉยๆ อาจทำให้คนอื่นคิดว่าคนที่นั่งคิดนั่งเขียนแทบตายห่ากลายเป็นคนก๊อป ผมเจอเพจที่เอาเรื่องของผมไปตัดโน่นนิดนี่หน่อยให้เป็นงานของตัวเอง ไม่อ้างอิงที่มา ไม่ละอายใจหรือ .. สงสัยอะไร comment ไว้ ผมจะมาตอบ แต่ถ้าใครมาแสดงความไพร่หรือด่าทอใครให้พื้นที่ของผมสกปรก ผมจะลบโดยไม่ลดตัวลงไปยุ่งเกี่ยว อยากระบายไปหาที่ของตัวเองครับ หมายังขี้เป็นที่เป็นทางเลยจ้ะ นี่ก็เคยเจอ ไม่รู้พ่อแม่สอนมายังไง!!!

วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2562

จับหนูไปปล่อยป่า!

จับหนูไปปล่อย!
วิธีจับหนูคนอื่นเขียนกันเยอะแล้ว ดังนั้นผมจะเขียนวิธีปล่อยให้ปลอดภัยทั้งเราและหนูละกัน
หลังจากจับผู้บุกรุกห้องเครื่องได้ 3 ตัว เลยคิดว่าน่าเขียนรีวิว! เพื่อสร้างความเข้าใจในตัวหนูบ้าง เพราะคนจำนวนหนึ่งเลือกที่จะฆ่ามันโดยไม่ลังเล ด้วยการถ่วงน้ำ!
ลองนึกตามผมนะ ถ้าคุณถูกกดให้จมน้ำ กลั้นหายใจจนกลั้นไม่ไหว จากนั้นสำลักน้ำเข้าไปเต็มปอด อากาศหยุดไปเลี้ยงสมองและอวัยวะส่วนอื่นๆ ร่างกายคุณจะเริ่มชักกระตุก สุดท้ายจากไปแบบไม่สงบ .. หลังจากนั้นนิติเวชจะผ่าศพคุณ เพื่อหาคำตอบเบื้องต้นว่าคุณขาดใจตายขณะอยู่ในน้ำ หรือตายบนบกแล้วเอามาโยนทิ้งน้ำ พร้อมค้นหาร่องรอยการถูกฆาตกรรม!!!
ระหว่างถูกกดน้ำจนตายสนิท ใช้เวลาไม่กี่นาที คุณคิดว่าจะทรมานได้ขนาดไหน นี่คือเหตุผลที่ผมจะไม่มีวันจับอะไรกดน้ำ มันโหดร้ายเกินไป แต่ผมยังมีฆ่าตะขาบ แมงป่อง งูพิษ บ้าง จำเป็นครับ บ้านผมมีคนแก่และหมา ทุบหัวทีเดียวเขาจะไม่ทรมาน สัตว์บางอย่างไม่ควรเลี้ยงจริงๆ เหมือนคนบางประเภทที่อันตรายเกินคบหา แต่ไม่ว่าอย่างไร คนชั่วน่ากลัวกว่าสัตว์มีพิษเสมอ สัตว์ต้องการเพียงอยู่รอด คนชั่วต้องการเอาเปรียบและทรยศหักหลัง ซึ่งทั้งหมดนั้นจะเกิดขึ้นได้ บนความไว้ใจ!
โบราณว่าไว้ไม่ผิด อย่าคบคนชั่วเป็นมิตร ผมพิสูจน์มาแล้วว่าจริง คนเลวจะเลวกับทุกคน อย่าได้คิดว่าจะมีข้อยกเว้น .. โอเค เรื่องนี้ผมจะเขียนแบบ go so big! (ไม่ใช้ far ครับ มันธรรมดาเกินไป)
ทีนี้ หนูถูกระบุว่าเป็นพาหะนำโรค เช่น โรคฉี่หนู, กาฬโรค(จากยุคกลาง), ไข้รากสาด, ไข้กระต่าย, พยาธิใบไม้/ตัวกลม .. การเอามันจุ่มน้ำ มิแย่กว่าหรือ แล้วคุณจะจัดการยังไงกับน้ำนั้น
ความหมายคือ มันไม่ได้เป็นโรคทุกตัว, ไม่ได้เป็นพาหะทุกตัว ยกตัวอย่างโรคไวรัสตับอักเสบในคน ที่น่ากลัวมากสำหรับผม เพราะมันแพร่กระจายได้ง่ายเท่าโรคหวัด บางคนเป็น บางคนไม่เป็น บางคนไม่เป็นแต่เป็นพาหะ เราต้องฆ่าคนให้หมดด้วยไหม
หนูยังจัดเป็นแหล่งโปรตีนที่คนบางกลุ่มและสัตว์นักล่าบางประเภทชื่นชอบ ซึ่งเรื่องโรคดูเหมือนจะเป็นปัญหาแต่กับคน ถึงกระนั้น คนทั่วไปคงไม่ได้เชี่ยวชาญขนาดที่เห็นแล้วรู้ทันทีว่ามันมีเชื้อโรคไหม ที่ปลอดภัยจึงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรง

เมื่อผมจับหนูได้
1. ผมจะเอากรงที่มีหนูใส่ถุงพลาสติกหูหิ้วที่ใหญ่กว่ากรง ไม่ผูกปากถุง ตัวผมเคยขาดอากาศหายใจ (ป่วยจนต้องให้ออกซิเจนหลายวัน) รู้ดีว่ามันทรมานขนาดไหน ผมใช้ถุงเพื่อ ขนอาจหลุด ไรที่อาจมีอยู่บนตัวหนูที่ไม่เคยอาบน้ำ อาการตื่นเต้นจนฉี่แตก ทั้งหมดนั่นจะได้อยู่ในถุง
2. อย่าปล่อยใกล้บ้าน เดี๋ยวมันกลับมา
! ผมขับรถไปประมาณ 1-2 กิโลเมตร จะมีป่าข้างทางให้เลือกปล่อยได้ตามชอบ
3. เลือกที่รกร้าง มันจะได้ไม่ไปเข้าบ้านคนอื่นต่อ เช่น ป่าหญ้า ป่ากระถิน ป่ายูคาลิป ที่ห่างไกลผู้คน
4. ขณะพาไป อย่าเปิดแอร์ลงตีน ป้องกันกลิ่นสาบหนูฟุ้งขึ้นมา (ถ้าเอาไว้ท้ายรถ จะระบายกลิ่นยังไงวะ)
5. ปล่อยเสร็จ เปิดกระจกเหมือนสูบบุหรี่(คู่หน้าเปิดหมด คู่หลัง 4-5 นิ้ว) กดแอร์ลงตีน จะไล่กลิ่นออกได้เร็วมาก ปกติถ้าหนูตัวไม่เปียก มันก็ไม่มีกลิ่นสาบหรอกครับ ผมแค่รู้สึกว่าทำแล้วสบายใจ ได้ถ่ายเทอากาศบ้าง ทำไมผมไม่แนะนำให้เปิดสุดทั้งหมด ลองไปดูเพิ่มเติมเรื่องอากาศพลศาสตร์นะ
6. ถุงพลาสติกให้ใช้กับหนูครั้งเดียว การทิ้งให้ทำแบบเดียวกับขยะติดเชื้อ คือเอาส่วนสกปรกไว้ด้านในม้วนกลมๆ ผูกไว้ อย่าให้ใครสัมผัสต่อได้แค่นั้นแหละ
7. ล้างกรงให้สะอาด ใช้สายยางฉีดก็ได้ ไม่งั้นตัวใหม่จะไม่เข้า จากกลิ่นของตัวเก่าที่หลงเหลืออยู่
ถ้าคุณคิดว่าทั้งหมดนี่เป็นเรื่องตลก ผมก็ขอบอกว่า อย่างน้อยผู้ชายอีก 2 คนที่ทำงานผม ทำคล้ายกัน คือยอมเสียเวลาและยุ่งยากเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อยเพื่อไม่ต้องทำลายชีวิตใคร เมื่อวานผมยังคิดจะซื้อตะกร้าเลี้ยงหนูมาขังสะสมไว้ ให้น้ำให้อาหาร หลายวันค่อยเอาไปปล่อยที แต่พอใคร่ครวญว่าจะเอาตะกร้าไว้ตรงไหน ในบ้านหมาคงไม่ยอม นอกบ้านอาจเป็นการสะสมอาหารไว้ให้งูจับกินง่ายขึ้น อย่ากระนั้นเลย
เผื่อใครจะสงสัยอย่างผม ว่าทำไมกรงหนูมันขึ้นสนิมเร็วนักวะเจอน้ำทีเดียวขึ้นพรึ่บ ดูสกปรก ผมนั่งนึกอยู่หลายวัน คิดว่าเขาคงเคลือบอะไรที่โดนน้ำแล้วละลายไป ไม่งั้นวางขายโดนความชื้น เป็นสนิม คนคงไม่อยากจะซื้อ ผมคิดว่าความต้องการให้สนิมขึ้นเร็ว เพื่อให้มันดูกลืนกับสภาพแวดล้อม และคงทำให้รู้สึกน่าเข้ากว่ากรงสีโลหะ!

คนบางส่วนแสดงความเห็นว่ามันแพร่พันธุ์ได้เร็ว หนูตัวหนึ่งออกลูกได้เท่านั้นเท่านี้ตัว ต้องฆ่าตัดตอน ..
จริงหรือ .. เรา จำเป็น ต้องทำ กรรมนั้นจริงหรือ คุณรู้รึเปล่าว่างูจงอางวางไข่ปีละ 20-30 ฟอง ซึ่งฟักได้เกือบทั้งหมด แต่เหลือรอดจนโตได้ไม่กี่ตัว นั่นอันตรายมากใช่ไหม ทำไมไม่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ไปล่ะ ทำไมมันอยู่ในบัญชีสัตว์อนุรักษ์ ความอันตรายที่แท้จริงคืออะไร ถ้าเปิดใจ เราจะเรียนรู้ได้ทุกสิ่ง เข้าใจอะไรได้มากขึ้น
คนที่บอกว่าต้องฆ่าหนูตัดตอน เขาคิดจะเป็นโพธิสัตว์ผ่านการทำลายชีวิตอื่นหรือ ทางพุทธดีชั่วมันลบล้างกันไม่ได้นะ เข้าใจอะไรผิดรึเปล่า คนเราบางทีก็งงๆ หลงผิดเป็นถูกอยู่มากเหมือนกัน

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับหนู
หนูเริ่มมีการแพร่พันธุ์หลังยุคไดโนเสาร์ คือราว 65 ล้านปีก่อน ชื่อสายพันธุ์หลักคือ แรทตัส (rattus) ชื่อเพราะแฮะ มันเป็นสัตว์ฟันแทะ กินเมล็ดพืชเป็นหลัก ผักหญ้าก็กิน ยังกินแมลงได้ทุกชนิดรวมถึงแมลงสาบ ซากสัตว์ สัตว์ตัวเล็ก หอยทากก็ไม่เว้น หากินได้ทั้งบนบกและในน้ำ ฟันแข็งแรงและงอกออกมาเรื่อยๆ (มันจึงต้องแทะๆๆ) อัตราการเผาผลาญพลังงานค่อนข้างสูง หัวใจเต้นเร็ว ตื่นตัวตลอดเวลา .. มันจึงอายุสั้นมาก
ข้อดีคือ มันช่วยควบคุมปริมาณสัตว์ แมลง และพืชบางชนิดไม่ให้มีมากเกินไปจนรบกวนระบบนิเวศ และช่วยกระจายพันธุ์พืชให้เกิดความหลากหลายไปด้วย ตัวมันเองก็ถูกควบคุมเช่นกัน มันเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีแก่สัตว์นักล่าที่อยู่เหนือมันในห่วงโซ่อาหาร เช่น งูทุกชนิด เหี้ย ตะกวด ตุ๊กแก กระรอก นก(เช่นนกแสก นกเค้า เหยี่ยว ..) หมา แมว ....
ถ้ามันเป็นอย่างที่บางคนตื่นกลัว ด้วยเวลา 65 ล้านปี ป่านนี้โลกคงมีหนูอยู่ทุกตารางนิ้ว ทุกชีวิตจะเป็นประโยชน์กับอะไรสักอย่างเสมอ ยกเว้นคนถ่อย! ก็อาจมีประโยชน์กับคนถ่อยๆ ด้วยกัน .. ศีลเสมอกันจึงคบหากัน คือคำพูดที่เป็นจริง

สวัสดี ผู้บุกรุก
เรื่องมันเกิดเมื่ออาทิตย์ก่อน ผมมักเปิดกระโปรงเช็คระดับของเหลวอาทิตย์ละครั้ง  คราวนี้เจอรอยตีนเล็กๆ เพียบ ขี้หนู 3 กอง เปลือกหอยทากตัวเล็ก หอยทากครึ่งตัวที่แห้งแล้ว กับร่องรอยของเหลวจากตัวหอยทากที่แห้งสนิท ที่พอเอาผ้าหมาดๆ เช็ด มันเป็นเมือกขึ้นมา
ผมใช้วิธีมาตรฐาน เอาผ้าขนหนูเช็ดมือชุบผงซักฟอกบิดหมาดเช็ดถูไปจนสะอาด เช็ดน้ำเปล่าอีกรอบ ตามด้วยโซแนค พ่นบนฝาครอบส่วนที่เป็นพลาสติก ใช้ผ้าเกลี่ยน้ำมันให้ทั่ว พ่นสายไฟและขั้วต่อ พ่นรอบช่องทางขึ้นจากด้านล่าง ผมเลี่ยงส่วนที่เป็นโลหะเพราะจะทำให้ควันขึ้นเมื่อเครื่องร้อน ตามอู่อาจใช้น้ำมันก๊าดพ่นบางๆ จนทั่ว ซึ่งผมไม่มี
ผมกลายเป็นโรคประสาทนิดๆ ไม่รู้มันหนูที่บ้านหรือที่โรงงาน ผมเปิดกระโปรงเช็คเช้าเย็น ปรากฎว่าเป็นหนูที่บ้าน กลิ่นโซแนคทำให้มันไม่เข้า 3 วัน วันที่ 4 เริ่มพบรอยเท้า วันที่ 5 เจออึ 2 ก้อน ... คงต้องจับตัวกันสักที

วิธีที่ผมจัดการกับเจ้าหนูตัวน้อย
คืนวันที่ 25 ฝนตกพรำทั้งคืน
3 ทุ่ม ผมใช้กรงดักหนูกับหนังหมูพะโล้ชิ้นใหญ่ วางกรงไว้ข้างกันชนหน้าด้านที่แสงส่องไม่ถึง เที่ยงคืนเดินไปดู เหยื่อหาย กรงไม่ปิด คงเกี่ยวกลไกลึกไป ผมวางกับดักอีกรอบ เกี่ยวกลไกให้หมิ่นขึ้น ตี 3 ลุกมาเข้าห้องน้ำ ได้ผลเหมือนเดิม คราวนี้ผมเกี่ยวที่ปลายสุดๆ พร้อมเอียงองศา แตะนิดเดียวคงปิดลงมา
เช้าตรู่มีหนูตัวเปียกติดอยู่ 1 ตัว ผมนั่งยองๆ ดู มันกระโดดไปมาแล้วร้องเสียงดัง ไม่ใช่คุกคามแต่คล้ายจะบอกว่า ปล่อยกูที ได้โปรด จากนั้นเอาจมูกมาโผล่ที่ด้านข้าง ทำตาปริบๆ ใส่ผม ผมเอาใส่รถไปปล่อยระหว่างทางไปทำงาน พอหัวพ้นกรงก็กระโดดเข้ารกเข้าพงไป พอถึงโรงงานผมล้างกรงผึ่งไว้ทั้งวัน

คืนวันที่ 26 ฝนไม่ตก
ผมใช้ไส้กรอกนึ่งชิ้นเท่าหัวแม่โป้ง วางกรงที่เดิม เที่ยงคืนได้หนู 1 ตัวอ้วนๆ อาจเพิ่งติด ดูไม่ตื่นตระหนกเท่าไหร่ คงแค่งงๆ เราสบตากันอย่างสงบ ผมว่ามันคงรู้สึกว่าผมไม่คุกคาม ไม่มีรังสีอำมหิตน่ะนะ ผมไม่อยากให้มันถูกขังจนถึงเช้าจึงขับรถเอาไปปล่อยท่ามกลางความมืดยามเที่ยงคืนเป๊ะ! เอากรงกลับมาล้าง วางกับดักต่อ ถึงเช้าไม่มีหนูมาติด
คืนวันที่ 27 ฝนไม่ตก
ผมทำความสะอาดฝาครอบเครื่องอีกที หนูตัวแรกคงเอาหนังหมูเข้ามากินก่อนถูกจับได้ พ่นโซแนคอีกรอบ ไม่แน่ใจว่ายังมีหนูอีกไหม ผมว่ามันมีอยู่ทั่วไป ยังแปลกใจที่จอดมาครึ่งปีไม่เคยมากวน ผมลองวางอีกรอบ ใช้ไส้กรอกเหมือนเดิมแต่ลนไฟให้มีกลิ่นหน่อย เพราะเพิ่งเอาออกมาจากตู้เย็น วางกรงดักตอน 3 ทุ่ม เที่ยงคืนไปดูไม่มีอะไร เช้ามากรงหาย! อ่าว
เดินไปเจอด้านข้างรถ หมามันตะปบ ตะกุยไปทั่ว จนกรงกระเด็นไปเป็นเมตร คงเพราะเจ้านี่เป็นหนูรุ่นๆ ดูแตกตื่น เลยวิ่งพล่านอยู่ในกรง กลายเป็นเรียกร้องความสนใจหมา พอหมาสนใจก็ยิ่งกลัวเข้าไปอีก เมื่อผมนั่งยองๆ ดู มันถอยไปสุดกรงอีกด้านสบตาผม จมูกมีรอยถลอกเลือดซึมอยู่นิดๆ งานผมวันนี้คือเอาหนูไปปล่อยระหว่างทาง เย็นกลับมาเกลี่ยหินที่หมาขุด และข้างๆ รถได้รอยเล็บหมาเพิ่มมา 3-4 ขีด สงสัยต้องจับตัดเล็บสักที
คืนวันที่ 28 ฝนไม่ตก
แต่ผมคิดว่าตัวสุดท้ายที่จับได้ ใช้เวลามากกว่า 2 ตัวแรก มันน่าจะไม่ได้มาเป็นประจำแต่ได้กลิ่นอาหารเลยมากิน ผมอาจผิดเองที่ไปล่อมันมาเข้ากรงทั้งๆ ที่มันไม่ได้อยากจะเข้าไปในห้องเครื่อง ดังนั้นวันนี้ผมไม่ดัก และจะยังไม่ดักต่อ โดยจะเปิดกระโปรงเช็คไปทุกวันสักพัก เราจะได้ไม่ต้องไปพรากครอบครัวใคร ผมอาจโชคดี ถ้าไอ้ตัวแสบนั่นเป็นตัวแรกที่จับได้ตัวเดียว
ความจริงผมเคยพยายามช่วยลูกหนูที่ตกลงมาจากชั้นบนของบ้าน(เป็นไม้ มีร่องใหญ่บางจุด) ราว 2 ครั้ง โดยเอาใส่กล่องใสๆ ที่เขาใส่ข้าวกล่องขายน่ะ เอานมใส่ถ้วย ใช้ไซริงค์ขนาดเล็กป้อนนมให้ มันก็ไม่กินนะ เอาแต่ร้องอย่างเดียว ผมเลยเอาขึ้นชั้นบนไปไว้ใกล้ๆ บริเวณที่มันตกลงมา ผ่านไป 2-3 ชม ไปเช็คใหม่ มันหายไปละ แม่มันคงมารับ ไม่ก็ตุ๊กแก งูเขียว แมวจร แต่ 3 อย่างหลังนี่มักจะเจอนอกบ้าน
หนูบ้านธรรมดายังสามารถเอามาฝึกได้ เพราะหนูทุกชนิดฉลาดพอๆ กับหมา แต่มันอายุสั้น ผมคงไม่พาตัวเองไปผูกพันกับอะไรทั้งสิ้น ลองดูคลิปนี้ Truth About Rats: Rat Tricks จะเห็นว่ามันทำอะไรได้บ้าง น่าทึ่งมากครับ
เชื่อไหมว่าหนูทุกตัวที่ผมจับได้พยายามสื่อสารกับผม ทั้งๆ ที่มันเพิ่งเจอมนุษย์จังๆ เป็นครั้งแรก มันฉลาดพอที่จะใช้ eye contact กับเรา ผมเห็นสายตาอ้อนวอนของมันแล้วผมทำไม่ลงหรอก ผมขอบังอาจแนะนำให้ดูหนังนาซีสักเรื่อง ไม่ว่าจะอ้อนวอนยังไง คุณก็ถูกยิงหัวอยู่ดี(นั่นยังจัดว่าเมตตากว่าห้องรมแก๊ส) เผื่อจะเข้าใจความรู้สึกรักตัวกลัวตายของสัตว์บ้าง คนกับสัตว์ผมว่าไม่ต่าง นี่เรียกว่าเอาใจเขามาใส่ใจเรา ซึ่งคนบางคนอาจไม่เคยถูกสอนเรื่องนี้

หากแผ่เมตตาทุกวัน
สัตว์โลกเอ๋ย อย่าได้เบียดเบียนกันเลย
เรายังจะเบียดเบียนผู้อื่นได้หรือ
คนมากมาย มือถือสาก ปากถือศีล
ฉาบหน้าดูดีงาม ใจหยาบกระด้างน่าขยะแขยง
เรากล้าเป็นเช่นนั้นหรือ ..

27 กันยายน 2562 มาสรุปผลให้ทราบครับ
โซแนคใช้ได้ผลราว 2-3 สัปดาห์ ด้วยความที่เครื่องร้อน พ่นเย็นนี้ พรุ่งนี้เย็นมันก็ระเหยไปมากแล้ว ให้พ่นกันทุกวันคงไม่ไหว
ผมวางกรงดักอีกครั้ง แต่ไม่ว่าจะล่อด้วยอะไรก็ไม่เข้า หนูเป็นสัตว์ที่ฉลาดและเรียนรู้ได้เร็วมาก เร็วกว่าคนบางกลุ่มด้วยซ้ำ
ถัดมาผมใช้ลูกเหม็นราว 10 ลูก ใส่กล่องพลาสติกกลมๆ แบบมีฝาปิด พอถึงบ้านผมก็เปิดฝาเอาไปวางข้างล้อซ้ายด้านใน ดันไปสุดแขน เพราะคาดว่าเขาเดินมาทางนี้แหละ กลิ่นลูกเหม็นฟุ้งกระจายไปหลายเมตร เช้ามาปิดฝาเก็บเข้าที่ร่ม ได้ผลราว 2-3 สัปดาห์เช่นกัน หลังจากนั้นเริ่มมีอึและรอยเท้า ล่่าสุดผมไปเปิดดูหลังกลับบ้านได้สักชั่วโมง เจออึใหม่ๆ ก้อนโตๆ คงชินกลิ่นลูกเหม็นละ
เมื่อหาอ่านใหม่จึงได้ไอเดียพริกป่นที่ฟังดูน่าจะเวริค ผมใช้ฝาถังพลาสติกเหลี่ยมขนาดใหญ่ หงายมันขึ้นแล้วโรยพริกป่นให้ทั่วชั้นหนึ่ง โรยพริกไทยให้ทั่วอีกชั้น วางที่พื้นแล้วเลื่อนเข้าไปใต้ห้องเครื่องให้ตรงกับโพรงด้านล่าง กะว่าถ้าหนูจะขึ้นก็ต้องยืนบนพริกก่อน หรือ หนูมักดมทุกอย่าง ผมหวังเอาว่าถ้าแสบจมูกเขาคงจะไม่อยากเข้าใกล้
จากนั้นเอาพริกป่นละลายน้ำสักถ้วยแล้วใช้แปรงทาสีขนาด 1 นิ้วทาไปบนส่วนที่เป็นพลาสติคในห้องเครื่อง เขาแนะนำให้ฉีดพ่น ผมมีฟ็อกกี้แต่ไม่มีผ้ากรอง ทาเอาก็สะดวกดี

คืนแรกเจออึ 1 ก้อน กับหอยทากตัวโตเดินอยู่บนฝาครอบเครื่อง มาได้ไงวะ คาดว่าหนูคงคาบมาหาที่กินอุ่นๆ ในห้องเครื่อง พอแสบตาแสบจมูกเลยรีบออกไปโดยไม่สนใจหอยทาก ผมจับนางออกมาไว้ใต้ต้นไม้ ตรวจดูสายไฟคร่าวๆ แล้วปิด คืนต่อๆ มาไม่พบร่องรอยหนูเข้า ผมกะว่าอีก 2-3 วันคงเช็ดคราบพริกป่นในห้องเครื่องออก มันน่าเกลียดดีจัง ส่วนถาดวางต่ออย่างเดิม แล้วดูผล

สัตว์เลี้ยงแสนรัก ! กับแนวคิดด้านสมดุลย์ธรรมชาติในครัวเรือน !!!
ผมเลยปล่อยให้ที่บ้านมีงูเขียวตัวยาวเกินเมตร 2-3 ตัว ที่นานๆ ผมจะได้เห็นสักครั้ง ตัวแรกเป็นเขียวพระอินทร์ลายเข้มสวย(หรือเขียวดอกหมาก) ปกติมันจะเลื้อยครืดคราดอยู่ในเหล็กกล่องที่ชายคาหน้าบ้าน นานๆ จะออกมาให้เห็นสักครั้ง อีกตัวเป็นเขียวจิ้งจกที่เลื้อยไปมาระหว่างบุหงาส่าหรีกับชมพู่สูง 6 เมตร ที่ออกลูกเต็มต้นแต่ไม่เคยได้แดก มันสูงจนผมไม่เสี่ยงขึ้นไปห่อน่ะนะ ก็จะมีหนอนทุกลูก คิดซะว่าปลูกไว้เลี้ยงนกละกัน ผมแค่คอยกวาดใบที่ร่วงชิบหายกับลูกเน่าๆ ถืิอว่าทำกุศลกันไป
ตัวสุดท้ายเป็นเขียวพระอินทร์ที่สิงสถิตย์อยู่ด้านหลังบ้านบนหูกระจงแถวหลังคาโรงจอดรถที่ต่อจากห้องน้ำ บางทีมาอยู่บนต้นหมากแล้วก็ตกลงมาให้ผมต้องช่วยกันหมาให้ เจ้าตัวนี้เคยพุ่งออกมาเหนือหัวผมครั้งหนึ่ง ขณะนั่งซักผ้าอยู่ข้างห้องน้ำ จู่ๆ หนู 2 ตัวกระโดดข้ามหัวผมไป ตอนแรกผมขำ อะไรวะ พลันนึกสงสัย อะไรไล่มันมา เงยหน้าขึ้นไปเจองูเขียวห้อยลงมา 2 ฟุต กำลังจะยกหัวกลับเข้าเหล็กกล่อง ผมกระโจนตามหนูทันที รอจนมันกลับเข้าไปทั้งตัวค่อยซักผ้าต่อ ถ้าตกใส่หัวผมคงแต๋วแตก
ผมยังมีงูสิงหางลายยาว 2-3 เมตรอีกตัว เจ้านี่ดูตลกและสีไล่เฉดเหลื่อมสวยทีเดียว เมื่อแรกพบ มันจะยกหัวดูเราก่อนว่านั่นตัวอะไร ดูน่ารักทั้งๆ ที่ผมกลัวงู ถ้าเราไม่ทำอะไร มันจะเลื้อยไปเรื่อยๆ อย่างสบายใจ ผมมักกลัวหมามาเจอแล้ววุ่นวายก็จะบอกมันว่า ไปที่อื่นไป๊ ซึ่งมันไม่สนใจหรอกครับ ผมต้องเดินเข้าหา ใช้ไม้กระทุ้งพื้นแสดงอาการคุกคาม มันก็จะพุ่งหนี
เกือบ 10 ปีก่อน ผมโดนงูสิงโยกหัวใส่ครั้งหนึ่งเพราะเดินเร็วเกินไป มันเป็นช่องหน้าห้องน้ำที่ผมทำประตูกั้นสูงไว้เกือบเอว เพื่อปล่อยหมาวิ่งเล่นด้านคลองตอนเย็น มันเป็นตอนเที่ยงที่ปกติผมกลับไปหาลูกๆ ทุกวัน และจะผ่านประตูนั้นไปเข้าบ้านด้านข้าง ด้วยความตกใจที่จวนตัว มันยกหัวขึ้นสูงเกิน 2 ฟุต โยกหัวเข้าใส่ ห่างเข่าผมแค่ฟุตเดียว ผมรั้งขากลับแล้วถอยทันที 2-3 ก้าว เรามองกันนิ่งๆ ชั่วเสี้ยววินาที เมื่อแน่ใจว่าผมไม่เป็นอันตราย มันหันกลับเลื้อยออกช่องข้างที่กั้นไป ผมว่ามันแค่ขู่ว่าอย่าเข้ามานะ มากกว่าจะคิดฉกกัด ถ้าฉกตามขาผม มีหรือจะพลาด เมื่อเจองูใดๆ ในสถานการณ์แบบนี้ให้ทำอย่างผม งูเห่า/จงอางจะ sensitive มากกับความเคลื่อนไหว คุณต้องไวและไม่ละสายตา
งูสิงเป็นงูที่ค่อนข้างดุเมื่อประจันหน้าแบบเลี่ยงไม่ได้ แต่ไม่หาเรื่องกับอะไรที่มันไม่คิดจะกิน ผมเคยเห็นมันเล่นกับหมาผมราวรู้เชิงกันดี อาจเจอกันบ่อย หมาไม่เข้าประชิด งูยกหัวขู่แต่ไม่ฉกจริงจัง ครั้งนั้นผมลากพลั่วอันใหญ่ติดมือไปด้วย เพราะเห็นแต่ไกลยังไม่รู้งูอะไรตัวใหญ่สัส พอมันเห็นตัวอะไรใหญ่กว่าหมาเข้ามาใกล้ มันก็พุ่งลงคลอง พอให้ผมเห็นชัดว่าเป็นงูสิง ถ้าเห็นงูแล้วดูไม่ทัน แยกไม่ได้ว่ามีพิษหรือไม่ ผมจะประสาทแดกไปเป็นเดือน
ทั้งงูเขียวและงูสิงเป็นงูพิษอ่อนและเป็นพิษเขี้ยวหลัง ความหมายคือเมื่อกัดคนมักไม่ถึงเขี้ยวพิษ นอกจากสัตว์ที่เป็นเหยื่อของมัน ที่มันจะงับแล้วพยายามขยับปากให้เหยื่อเข้าไปในปากแน่นๆ คนที่โดนคงซวยเต็มที เพราะมันเป็นงูที่ค่อนข้างหนีไว
นึกถึงตอนผมเล่นกับร๊อตไวเลอร์ลูกๆ ผมว่ะ เวลาเขางับมือผม ผมจะเอาสันมือดันเข้าปากไปสุดกรามในทางขวาง เขาก็จะถอยๆ ไม่งับ ทำไม่กี่ครั้งเขาก็ไม่อยากงับมือผมเล่นอีก ผมไม่สอนให้ลูกๆ เลียและตะปบ มันเลอะเทอะเกินไป
งูแสงอาทิตย์หน้าบ้านตัวยาวเมตรกว่า มันไม่มีพิษ (พี่นิคจับงับนิ้วให้ดูแล้ว) และชอบกินงูที่สุด ผมหวังผลนี้ ซึ่งหลายปีมานี้ผมเจองูก้นขบตัวอ้วนๆ ครั้งเดียว ผมว่าตัวกว้างนิ้วครึ่งได้ มันขึ้นมาบนกระเบื้องปูพื้นแล้วเลี้อยไม่ไป หมาอยู่ในบ้านก็เกาะประตูเห่าๆๆ ผมใช้ไม้เขี่ยใส่กระแป๋งใบใหญ่ไปเทริมคลอง ลงดินได้มันก็พุ่งพรวดๆ หนี งูท้องแดงเริ่มไม่มีให้เห็น ทั้งที่เมื่อก่อนเจอเกือบทุกวัน เจ้า 2 อย่างนี่ก็ไม่มีพิษ เก็บไว้ให้มันควบคุมอาหารงู ผมไม่เจองูสิงมาพักใหญ่ อาจเพราะหมาไปกวนมัน เลยทำให้หนูกล้าออกมาเพ่นพ่านมากขึ้น (ทำความรู้จักกับงูได้ที่นี่)
บ้านผมมีตุ๊กแก 4-5 ตัวที่โตวันโตคืน 2 ตัวอยู่ในรอยแตกระหว่างห้องน้ำ โผล่หัวออกมาทีผมงิตื่นเต้น หัวมันกว้างเกือบ 2 นิ้ว! พอเดินเข้าไปดูใกล้ๆ มันก็ถอยกลับเข้าไป ผมว่างูเขียวข้างต้นคงไม่อยากยุ่งกับมันเท่าไหร่ ตัวใหญ่ไปกลืนยาก ดีไม่ดีจะโดนแดกซะเอง อีก 2 ตัววิ่งๆ อยู่ผนังรอบบ้าน ที่จะวิ่งพรวดๆ อยู่เหนือหัว ตอนผมเปิดประตูเข้าออกหรือเดินผ่าน นานๆ จะกระโดดมาจับจิ้งจกกินตรงมุ้งลวด ตัวยาวกว่าตะเกียบ! ในครัวมีอีกตัวใหญ่ยักษ์ ผมว่ามันแบ่งอาณาเขตหากินของมัน เจ้านี่จะกินลูกหนู ลูกนก จิ้งจก ตะขาบ แมงป่อง แมงมุม แมลงทุกชนิด

คุณจำหนังทีวีเรื่องตุ๊กแกได้ไหม มันทำให้ผมกับน้องกลัวตุ๊กแกมาจนโต ไม่รู้ว่าอารมณ์นั้นเกิดขึ้นกับเด็กอีกกี่คน ที่แย่คือตอนเด็กๆ ผมไม่รู้เรื่องรู้ราว คิดว่างูและตุ๊กแกทุกตัวเป็นอันตราย เลยฆ่าไปหลายตัว ผมยังคงเสียใจ และนั่นเป็นเหตุให้ตอนเด็กๆ ที่บ้านเจองูเห่าบ่อยมาก นี่ไม่เจอมาหลายปีละ แต่ก็ต้องมีสติ เดินดูตีน ดูกิ่งไม้เหนือหัว อย่าเดินเร็วเกินไป มันจะได้หนีทัน งูท้องแดงเป็นงูที่ไม่ค่อยหนี มันจะหยุดเมื่อตกใจ ถึงไม่มีพิษแต่ฟันคมกริบราวมีดโกน โดนเข้าไปคงไม่สนุกเท่าไหร่ ยิ่งผมมีอาการเลือดเหลวจากยาละลายลิ่มเลือด แค่โดนมีดบาดแผลเล็กๆ เลือดยังซึมออกมาได้เรื่อยๆ เป็นวัน
เมื่อ 10 ปีก่อนบ้านผมเต็มไปด้วยกบบัว เขียด อึ่งอ่าง คางคก เกลื่อนไปหมด ร้องกันระงมให้เพลินทั้งคืน ฟังดูดีใช่ไหม แต่ที่เจอประจำคืองูเห่า สามเหลี่ยม งูกินปลา หลังจากผมเลิกฆ่างูไม่มีพิษ ผมปล่อยให้ก้นขบ แสงอาทิตย์ งูเขียว งูสิง โตของมันไป กบเขียดเริ่มน้อยลงมาก งูพิษเริ่มไม่มีให้เห็น แต่ก็ได้หนูมาแทน ทั้งหมดที่เล่ามาอาจเป็นทางเลือกให้พิจารณา

ตัวอย่างการเข้าไปแทรกแซงสมดุลธรรมชาติของมนุษย์ จนเกิดความเสียหาย
คุณเคยได้ยินเรื่องงูเห่าอยุธยาไหม จัดเป็นอาหารขึ้นชื่อ(ที่ผมจะไม่มีวันกิน) เมื่อเป็นแหล่งปลูกข้าวขนาดใหญ่ จึงมีแมลงมาก หนูมีอาหารก็ดำรงอยู่ ขยายพันธุ์ กลายเป็นอาหารของงูเห่าตัวอ้วน ทีนี้ค่านิยมคนไทยชอบกินงูเห่า พอมีคนกินจึงมีคนจับขาย งูเห่าถูกจับจนเกือบหมด ทำให้ไม่มีงูไปควบคุมประชากรหนูที่เพิ่มปริมาณจนไร่นาเสียหาย ต้นเหตุที่แท้จริง ความเสียหายมาจากความเห็นแก่ตัวของคนใช่ไหม เดี๋ยวนี้เป็นยังไง เราเริ่มกลับมาอนุรักษ์งูกันใหม่ เพื่อให้ช่วยเรื่องการเกษตร
หรือการกินหูฉลาม คุณรู้ไหมว่าฉลาม 1 ตัวต้องตายอย่างสูญเปล่าแค่ไหน เพราะเขาตัดเอาแค่ครีบข้าง ครีบหาง แล้วทิ้งตัวมันลงทะเลโดยที่มันยังไม่ตาย มันต้องดิ้นพราดทรมานอยู่อีกนาน คุณว่าถ้ามันเกิดขึ้นกับคุณ คุณจะโอเคไหม คุณยังจะสนับสนุนการประมงที่โหดร้ายทารุณ ด้วยการซื้อผลิตภัณฑ์ของพวกเขาเช่นนั้นหรือ อย่าลืมว่า ตราบใดที่ยังมีคนกิน มันก็จะมีคนลงทุนล่ามาขาย สัตว์ป่าก็ไม่ต่าง
แล้วทำไมไม่เอาเนื้อมันมาด้วย จะได้คุ้มๆ กับความตายหน่อย เพราะเนื้อฉลามรสชาดแย่เกินไป มันคาวจนต้องปรุงรสด้วยเครื่องเทศเพื่อกลบกลิ่น เช่นผัดฉ่า คุณไม่สามารถเอามานึ่งมะนาวหรือทำต้มยำน้ำใสเพื่อลิ้มรสปลาๆ ของมันได้ ยังมีความเรือกลื่นเพราะในเนื้อมีปริมาณน้ำสูงกว่าเส้นใยโปรตีน ดังนั้นเขาเลยเอามาแต่ครีบซึ่งเป็นกระดูกอ่อน ซึ่งทำอะไรกินไม่ได้ นอกจากเอามาตุ๋นแปรรูปให้มันพอกินได้ แล้วขายค่านิยมว่ามันแพง หายาก กินแล้วได้สวรรค์วิมาน .. คำถาม ท่านยังมีความเมตตาหรือไม่
ฉลามเป็นตัวควบคุมสมดุลของสัตว์ทะเล ที่ไหนมีฉลาม ที่นั่นทะเลสมบูรณ์ เพราะความที่มันเป็นนักล่าบนสุดในห่วงโซ่อาหาร มันจึงช่วยทำให้ทฤษฎีธรรมชาติคัดสรรของดาร์วินเป็นจริง (สัตว์อ่อนแอจะต้องตายไป) ยังควบคุมปริมาณสัตว์น้ำทุกระดับ ถ้าฉลามร่อยหรอหรือสูญพันธุ์ ป่าสาหร่ายจะไปก่อนจากผลงานของปลากินพืชที่ปกติมีมากกว่าสัตว์กินเนื้อ ตามมาด้วยแนวปะกะรังซึ่งเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์เกิดใหม่ ในขณะที่เรายังกินกุ้งหอยปูปลา แต่ตัวที่เกิดใหม่ไม่รอด วันหน้าเราจะกินอะไร นี่เรียกว่าเราจะแดกจนไม่มีให้แดก
โบราณคดีบอกว่า ฉลามอยู่มา 400 ล้านปีแล้ว เราโฮโมเซเปียนมีอายุราว 3 แสนปี แต่เราทำให้ฉลามเกือบหมดไปจากโลก ช่างน่าละอายใจ อยากรู้เพิ่มเติมไปอ่านต่อที่นี่ ฉลามและครีบกับวิกฤตการณ์ของมนุษย์ เขียนได้ละเอียดระดับเปิดหูเปิดตา
ที่มันพีคคือ ปัจจุบันครีบฉลามทุกชิ้นมีสารพิษที่มีผลต่อระบบประสาท ทั้งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเช่นไซอาโนแบคทีเรีย หรือสารสังเคราะห์จากน้ำมือมนุษย์เช่นสารปรอท บีเอ็มเอเอ และโลหะหนักชนิดอื่นๆ การปนเปื้อนโลหะหนักมักมาจากการคมนาคมทางทะเล ขยะ ระบบบำบัดน้ำเสียที่ไร้ประสิทธิภาพ .... ซึ่งคนขายไม่ได้บอก อันนี้ก็ช่วยไม่ได้ที่ไม่ใส่ใจหารู้เอง ส่วนคนที่โดนฉลามกัด ก็เพราะโง่ ความรู้ไม่พอแล้วแส่เข้าไปให้มันกัด
ที่น่าเศร้าที่สุดสำหรับผมคือ เรามีคนกลุ่มใหญ่ที่กำลังพยายามอนุรักษ์ ฟื้นฟู ทั้งสัตว์และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้โลกน่าอยู่ขึ้น แต่ยังมีคนกลุ่มเล็กที่ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน คอยเป็นตัวถ่วงและขัดขวางสิ่งที่ตนเองไม่ทำ จากนั้นฉกฉวยประโยชน์อันเป็นผลมาจากความทุ่มเทของคนอื่น
มนุษย์เป็นสัตว์ที่รู้วิธีเห็นแก่ตัว พร้อมเหตุผลที่จะบอกว่าตัวเองชอบธรรมได้เสมอ เราบางคนมีความโสโครกทางใจยิ่งกว่าสัตว์ใดๆ ในโลก การทำลายล้างธรรมชาติล้วนเกิดจากน้ำมือมนุษย์ ภายในเวลาไม่กี่ร้อยปี.

เอ๊ะ นี่กูไปไกลโข! จบๆๆๆ