While I thought that I was learning how to live, I have been learning how to die - Leonardo da Vinci

บทความเหล่านี้ หากเป็นประโยชน์กับท่าน ผมก็ดีใจ หากจะนำไปใช้ที่อื่น ผมก็ยินดี แต่กรุณาอ้างอิงที่มานิดนึง จัดเป็นมารยาทพื้นฐานในการใช้บทความของผู้อื่นใน internet หลายเรื่องผมต้องค้นคว้า แปลเอกสาร ตรวจสอบความถูกต้อง กลั่นกรอง เรียบเรียง ใช้เวลา ใช้สมอง ใช้ประสบการณ์ การก๊อปไปเฉยๆ อาจทำให้คนอื่นคิดว่าคนที่นั่งคิดนั่งเขียนแทบตายห่ากลายเป็นคนก๊อป ผมเจอเพจที่เอาเรื่องของผมไปตัดโน่นนิดนี่หน่อยให้เป็นงานของตัวเอง ไม่อ้างอิงที่มา ไม่ละอายใจหรือ .. สงสัยอะไร comment ไว้ ผมจะมาตอบ แต่ถ้าใครมาแสดงความไพร่หรือด่าทอใครให้พื้นที่ของผมสกปรก ผมจะลบโดยไม่ลดตัวลงไปยุ่งเกี่ยว อยากระบายไปหาที่ของตัวเองครับ หมายังขี้เป็นที่เป็นทางเลยจ้ะ นี่ก็เคยเจอ ไม่รู้พ่อแม่สอนมายังไง!!!

วันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2562

ปืนประจำตระกูล! และวิธีบำรุงรักษา**

เมื่อวันอาทิตย์ผมเอาปืนมาล้าง แล้วคิดว่าบันทึกเกร็ดประวัติศาสตร์ของครอบครัวไว้บ้างก็ดี เผื่อวันหน้าตกทอดไปถึงหลาน มันจะได้รู้ที่มา เดี๋ยวเขียนเสร็จผมจะ print ไปเก็บไว้กับปืนสักสำเนา เผื่อมันจะอ่าน! อาจต้องใช้เครื่องพิมพ์แบบ dot metric เครื่องพิมพ์ทั่วไปนานเข้าหมึกจะจาง

ถ้าต้นตระกูลหมายถึงต้นนามสกุล ของผมก็ไม่ยาวครับ เพิ่งเปลี่ยนจากแซ่มาใช้นามสกุลรุ่นก๋ง(ปู่)นี่เอง พ่อแม่ของย่าชวดมาจากจีน(ผมต้องเรียกยังไงเนี่ย) ซึ่งภายหลังเขาเปลี่ยนมาใช้นามสกุลไทย ที่ตอนนี้ใช้กันอยู่หลายครอบครัว เพราะย่าชวดผมมีพี่น้องตั้ง 8-9 คน ถ้าจะนับญาติ ก็ทั้งคลองกระมัง พ่อผมเคยทำแผนผังตระกูล คนมากมายผมรู้จักไม่กี่คน ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นพ่อ ชอบคบผู้ใหญ่ครับ เป็นเรื่องเป็นราวดี
สกุลผม ได้มาตอนที่ก๋งไปสงครามโลกครั้งที่ 2 ท่านเป็นทหารเกณฑ์ในหมวดสัตวรักษ์ มณฑลทหารบกที่ 2 ฉช ในปี 2478 (นี่คงทำให้ผมชอบสัตว์มากกว่าคนกระมัง มันอยู่ในสายเลือด!) เสธ.ดำเป็นคนตั้งให้! ท่านเป็นใครก็ไม่รู้ ลูกน้องเรียกท่านอย่างนั้นจนติดปาก คิดแบบกำปั้นทุบดิน ท่านคงเป็นนายทหารชั้นเสนาธิการคนหนึ่งแน่ๆ ก๋งเล่าให้ลูกๆ ฟังตอนพ่อผมยังเด็ก ยังไม่สนใจรายละเอียดมากนัก ส่วนตัวผมเกิดไม่ทันทั้งก๋งและย่า แต่กลับทันย่าชวด

เมื่อวานไม่รู้นึกยังไง อยากทำความสะอาดปืนเป็นอย่างมาก ไม่ได้หยิบมาดูน่าจะเกินครึ่งปี! ซึ่งพอมาหาอ่าน มันควรทำทุกเดือน .. จริงหรือ
ปืนเป็นงานศิลป์อย่างหนึ่งเหมือนกัน ผมว่าผมชอบงานที่ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ในการผลิต มันคลาสสิค! เมื่อเดือนก่อนผมเกือบจัดระนาดไป เล่นไม่เป็น ไม่คิดจะเล่น แต่พอรู้วิธีการผลิตแล้วอยากได้มาก
กีต้าร์เป็นตัวอย่างที่ดีของความรู้และความปราณีตในการผลิต ผมไม่แน่ใจนักว่าผมอยากเล่นจริงจังไหม แต่ผมยอมจ่ายอีกเท่าตัวเพื่อให้ได้งานที่ perfect กว่าเป้าหมายแรก การได้จับต้อง ลูบคลำ ทำความสะอาด มีความสุขแล้ว ได้เสพทั้งรูป เสียง กลิ่น ลองดมดูนะ มันหอมด้วย! ส่วนเรื่องชิมรส ยังครับ ผมเห็นผู้เชี่ยวชาญด้านไวโอลินเขาชิมกันด้วย ไม่แน่ใจว่าไวโอลินใช้น้ำมันรักษาเนื้อไม้ เช็ดสาย แบบกีต้าร์รึเปล่าสิ
บทเรียนจากการล้างปืนของอาผม ที่ทำให้ถึงแก่ชีวิตด้วยมะเร็งปอดในวัย 64 ปี นี่เป็นการสันนิษฐานของผมเองนะ เพราะท่านไม่สูบบุหรี่ ไม่กินเหล้า ไม่อยู่ในที่มีมลพิษ ดูแลตัวเองดีมาก ออกกำลังสม่ำเสมอ สิ่งเดียวที่ต้องสงสัยคือการล้างปืนทุกวัน เขาชอบปืนมาก จึงสะสมไว้มาก ก็ล้างวนๆ ไปอย่างมีความสุข ซึ่งส่งผลใน 30 ปีจากการทำอย่างต่อเนื่อง ด้วยน้ำมันล้างปืนยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งคงใช้ได้ดีกับคราบเขม่า แต่ผมไม่ได้ยิง ใช้ sonex น่าจะพอ จากที่เช็ดคราวก่อน ยังไม่มีปัญหาอะไร
ผมมีปืนประจำตระกูลอยู่ 3 กระบอก ปัญหาของผมคือ การล้างต้องล้างกันแค่ไหน ตอนคุณอายังมีชีวิตอยู่ นานๆ ท่านก็จะเดินมาบ้านผม บอกเอาปืนมา อาเอาไปล้างให้ ตอนนี้ต้องทำเองแล้วสิ ที่กังวลคือถ้าล้างไม่ครอบคลุม สนิมจะขึ้นรึเปล่า ยังเรื่องการใช้งาน รู้แค่ใส่ลูกยังไง ยิงยังไง แค่นั้นจริงๆ
จึงเกิดความคิดว่า กูไม่เล่นปืน แต่ปราถนาจะรักษาสมบัติของบรรพบุรุษไว้จนกว่าจะตายตามพวกท่านไป กูจะอยู่ไปแบบรู้แค่นี้น่ะรึ นั่นเป็นเหตุผลให้ผมศึกษา ซึ่งต้องอ่านหลายที่ ดูหลายคลิป อย่างไรเฟิลกับลูกซองนี่ไปได้คำตอบจากคลิปนอกกว่าครึ่ง คนไทยไม่เล่นแบบที่ผมมีเนอะ กว่าจะรู้เรื่องก็ใช้เวลาไป 2 วัน เลยรวบรวมไว้เผื่อเป็นประโยชน์กับคนอื่นด้วย
1. Smith & Wesson .38 Special (รุ่นที่ตำรวจยุคนั้นใช้ในราชการ) เจ้าหนูนี่เป็นของป้า ใช้ง่ายและสะอาดมาก ไม่เคยฆ่าอะไรแม้สัตว์สักตัว ยิงเกิน 100 นัดหรือยังก็ไม่รู้

ย้อนไปตอนผมยังเป็นเด็กน้อย ป้ามีหลาน 2+3 คน ตอนเช้าจะเดินไปส่งที่โรงเรียนใกล้บ้าน น่าจะราว 300 เมตร บ้านนอกๆ ส่งเสร็จก็เข้าร้านชำใกล้โรงเรียน เล่นไพ่ตองต่อ! (ท่านคิดเลขในใจเร็วผมใช้เครื่องคิดเลข) เป็นอย่างนี้อยู่หลายปี จนวันหนึ่งมีโจรมาหาเหยื่อแถวหน้าร้าน กระชากสร้อยป้าผมแล้วขับมอเตอร์ไซค์หนี ภายหลังจับได้ ป้ายังไปชี้ตัว แต่ไม่ได้ทองคืนอยู่ดี
ท่านเลยอยากได้ปืนไว้ป้องกันตัว แม่ผมกับอาช่วยกันออกเงินคนละครึ่ง โดยให้อาไปจัดการที่เหลือจนป้าได้ครอบครอง เมื่อเกือบ 40 ปีก่อน ราคาแค่ 6 พัน เดี๋ยวนี้มี 7 หมื่นยังซื้อไม่ได้ ค่าเงินของแต่ละยุค เทียบราคาทองก็เข้าใจง่ายดี แม้ทองมันมีขาลง ซึ่งไม่ได้ทำให้ข้าวของถูกลง แต่มีผลให้คนเล่นทองกระอักได้
เจ้าหนูนี่ ผมเอามาพกพาอยู่หลายปีตอนป้ายังอยู่ เพื่อป้องกันตัวน่ะครับ ผมไม่ใช่คนเกเร แต่ไม่ค่อยโอนอ่อนผ่อนตามใคร สังคมที่ผมอยู่ดันมีนักเลงเยอะ ซึ่งผมเสือกไม่กลัว จนล่วงวัยจึงบรรลุว่ามันหนัก สู้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่ให้ตกอยู่ในความเสี่ยงจะดีกว่า ลดอีโก้สักนิดเราก็เปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตรได้แล้ว
ฉันเป็นคนใจร้อน คงมีปืนไม่ได้ อาจเป็นคำพูดของคนที่ไม่เคยใช้ปืน ซึ่งผมไม่เห็นด้วยเลย จากประสบการณ์ของตัวเอง การมีปืนอยู่กับตัวทำให้ผมสงบกว่า ก่อนช่วงพกปืนผมใจร้อนมาก ไม่ลงให้ใครทั้งนั้น แต่สิ่งที่อาบอกและผมจำใส่ใจคือ ถ้าชักออกมาต้องยิงทันที ไม่ยิงจะแย่กว่า(อาจโดนยิงแทน) ถ้ายิงต้องยิงให้ตาย เคลียร์ง่ายกว่า นี่คือเหตุผลให้ผมไม่เคยชักปืนออกมาเลยในช่วงหลายปี ผมควบคุมตัวเองได้ดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะรู้ถึงผลลัพท์ของการกระทำ
อาผมก็ไม่เคยชักออกมาเหมือนกัน ท่านพกเห่าไฟใส่กระเป๋ากางเกงเสมอ(.38 สมิท 5 นัด ลำกล้องสั้น ด้ามไม่โต) ผมชอบที่มันดูแนบเนียนราวกระเป๋าสตางค์ คาดว่าตอนนี้คงอยู่ในกระเป๋าถือของลูกสาวคนหนึ่ง! ผมเคยถามว่าทำไมไม่พก 11มม. เพราะมันดูทรงพลังกว่า ท่านว่ามันใหญ่ เห็นได้ชัด ถ้ายิงเข้าจุดสำคัญก็อันตรายพอกัน และบอกผมว่าไม่ควรให้คนอื่นรู้ว่าเรามีปืนอยู่กับตัว
เมื่อป้าผมเสีย(ท่านเป็นโสด) เจ้าหนูนี่กลายเป็นมรดกตกทอดที่ไร้พินัยกรรม ทำให้ต้องระหกระเหินไปอยู่กับคนอื่นเสียหลายปี สุดท้ายก็กลับมาอยู่กับผม โดยที่ผมไม่ต้องทำอะไร ปืนอาจเลือกเจ้าของได้เหมือนกีต้าร์! หรือเป็นอิทธิฤทธิ์ของป้า!!! ความจริงมันก็ไม่ใช่เรื่องลึกลับเต็มรูปแบบนัก ผ่านไปอีกเป็น 10 ปี ผมเพิ่งมารู้ว่ามันมีกฎหมายเรื่องการตายและมรดกอยู่ จนท.ที่รับผิดชอบเรื่องการโอนปืนเขาก็ตรวจสอบให้เป็นไปตามกฎหมาย เพื่อป้องกันการถูกฟ้องร้องจากผู้มีสิทธิในภายหลัง เท่านั้นเอง
การบำรุงรักษา
กรณีที่ยิง ผมให้น้องทหารที่สนามยิงปืนล้างให้เลยครับ มันต้องถอดทุกชิ้น แล้วมันมีกลไกบางจุดที่ให้คนชำนาญทำ จะเร็วและแน่นอนกว่า
ถ้าไม่ได้ยิง การดูแลทั่วไปก็ไม่ยากเย็น ก่อนอื่นต้องเอาลูกออกให้หมด ใช้ผ้าชุ่มโซแนคเช็ดให้ทั่ว ทั้งภายนอก ภายในลำกล้อง รูรังเพลิงที่ลูกโม่ ตามด้วยผ้าเช็ดไวโอลินเพื่อให้ความลื่นหมดไป ผมชอบแบบไม่ลื่น มันจับได้มั่นคง มั่นใจกว่า เจ้านี่เป็นกระบอกเดียวที่ผมใส่ลูกไว้ พร้อมใช้งาน
ครั้งล่าสุดที่ผมเอาไปสนาม คือผมปลดโม่ไม่ออก ด้วยไม่มีความรู้สักนิด เลยเอาไปสนามให้ร้านปืนข้างสนามดูให้ เขาแค่ใช้นิ้วหมุนเกลียวแกนโม่ให้แน่นขึ้นก็ปลดได้แล้วครับ พอเอาลูกออก เขาก็ใช้ปากจับกับคีม ขันให้แน่นขึ้น แล้วสอนวิธีแก้ปัญหาถ้าเจอแบบนี้อีก วันนั้นเลยลองไป 2 ชุดที่ระยะ 10 เมตร แบบไม่เล็งดีๆ ก็เข้ากลุ่มครับ การยิงสนาม ผมชอบกะๆ เอามากกว่า ไม่ได้ไปยิงแข่งกับใครนี่ครับ นึกถึงสถานการณ์เร่งด่วน อาจไม่มีเวลาให้เล็ง
วิธีใช้
ครูฝึกตำรวจท่านหนึ่งบอกว่า การยิงต่อสู้แบบชักยิง ระยะหวังผลอยู่ที่ 10 เมตร ก็อาณาบริเวณบ้านอะนะ ถ้าเขาอยู่นอกรั้วแล้วไปยิง ก็คุกครับ คิดจะใช้ปืน ศึกษากฎหมายด้วยก็ดี เผื่อจำเป็น จะได้ทำให้มันถูกกฎหมาย!
ตอนอาอยู่ นานๆ ครั้ง ท่านจะชวนผมไปสนามยิงปืน ที่ท่านสอนผมคือ
- ยืดแขนให้ตรงถ้ามีพื้นที่ หรือเกร็งกล้ามเนื้อพองามถ้าที่ไม่พอ(หรือกรณีเร่งด่วน) เพื่อป้องกันปืนสะบัดตีหน้าเมื่อเข็มแทงชนวน
- ประคองสองมือถ้าสถานการณ์เอื้ออำนวย เพราะมันให้ผลลัพท์ที่ดีกว่า
- ให้ฝึกยิงทั้งแบบมือเดียวและประคองสองมือ
- การค่อยๆ รั้งไกเข้ามา จะยิงได้นิ่งกว่าการเหนี่ยวแบบกระชาก ฝึกซ้ำๆ จนเร็วขึ้น และกล้ามเนื้อนิ้วจดจำรูปแบบได้
- ฝึกโหลดลูกให้คล่องมือบ้าง .. มันมีตัวโหลด ซึ่งใช้พื้นที่มากในการจัดเก็บ ผมว่าเกะกะ เอามือรวบกระสุนมายัดใส่ลำเพลิง คลาสสิคกว่าเยอะ
ส่วนท่าในหนังที่ผมเล่าให้อาฟัง ท่านขำแล้วบอกว่า มันไม่จำเป็น คุณอาจลองดูว่าการทำท่าเท่ห์ๆ มันทำให้ยิงดีขึ้นหรือไม่ ในเวลาวิกฤติ ผมคงคาดหวังประสิทธิผลในการยิงมากกว่าความดูดี
อีกอย่างคือลูกปืนมันแพง ใช้ให้คุ้มค่า อย่ายิงส่งเดช .. ผมลองเช็คราคากระสุนคร่าวๆ กลางปี 2562 /2019
.22
LR - 50 นัด/กล่อง 1600-2000 บาท (ลูกละ 40 บาท)
.38 ลูกซ้อม 50 นัด/กล่อง 1300 บาท (ลูกละ 26 บาท)
.38 ลูกจริง/หัวรู(หัวระเบิด)  50 นัด/กล่อง 1900-2300 บาท (ลูกละ 46 บาท)
ลูกซองเกจ 12 ลูก 9/
SG/00BUCK 25 นัด/กล่อง 1300-1400 บาท (ลูกละ 56 บาท)
ลูกซองเกจ 12 ลูกโดดมีครีบ 25 นัด/กล่อง 1500-1700 บาท (ลูกละ 68 บาท)
การฝึกยิงแบบกะเอา ผมเพิ่มทักษะด้วยการซื้อปืนอัดลมแบบกระบอกละพันกว่ามา 2 กระบอก น้ำหนักมันเท่าของจริง แรงสะบัดไม่เลว ก็ช่วยได้ครับ มันส์ดีเหมือนกัน
ผมยังมีธนูขนาด 40 ปอนด์อีกคัน หนังสะติ๊กสำหรับยิงธนูอีกอัน กับลูกซ้อมอีก 3 โหล ถ้าว่ากันตามจริง แค่ลูกธนูหัวซ้อมธรรมดา อำนาจทำลายล้างยังสูงกว่าลูกปืน(ที่ไม่ใช่หัวระเบิด) ในระยะ 10 เมตร ถ้ากะเอาตายก็ใช้หัวธนูยิงปลา(มันจะเข้าเป็น 4 แฉก ช่วยยาก) เพียงแต่ธนูต้องการพื้นที่มากกว่าในการยิง จึงอาจไม่สะดวกเท่าไหร่
2. ลูกกรดยาว KRICO calibre .22LR rifle ของ Kriegeskorte & Co. BMBH. งานเยอรมัน


กระบอกนี้เป็นปืนยาวของก๋ง(คุณตา) ที่เขียนพินัยกรรมมอบให้ยาย หลังก๋งเสียไปเป็น 10 ปี ยายก็ยกให้แม่มา ความจริงถ้าเลือกได้สักอย่าง ผมอยากได้กระบี่มากกว่า ก๋งเป็นดาบตำรวจครับ ความขี้เมาของผมกับน้องอาจส่งผ่านมาทางดีเอ็นเอจากทั้งก๋งหนอและก๋งธีระ!
ตอนอายังอยู่ เขาจะล้างให้เป็นระยะ เมื่อวานผมเอามาเช็ด ยังไม่รู้จะเช็ดรูมันยังไง เล็กนิดเดียวเอง เลยเช็ดแต่ข้างนอก คาดว่าคงต้องซื้อแส้งู หรือเอาไปยิงสนามแล้วให้น้องทหารล้างให้ ค่าล้างไม่กี่บาท
ที่แย่คือ ผมเคยเอามานอนด้วยแล้วคงพลาดสักครั้งหรือหลายครั้งไปทับมัน ทำให้ลำกล้องคลอนจากร่องไม้! ทีแรกคิด ชิบหายแล้ว กูจะเอาไปซ่อมที่ไหน ผมเลยเอาเชือกผูกไว้ชั่วคราวก่อน ก็ดูขลังดี ฉุกเฉินน่าจะพอยิงได้!
วิธีใช้ปุ่มสไลด์
- กดลงสุด จะล๊อคให้ดึงสไลด์ไม่ได้ เมื่อดึงขึ้นจะเลื่อนสไลด์ได้ เป็นการยิงทีละนัด ไม่สะบัดปลอก จะยิงนัดถัดไปดึงปุ่มออก เลื่อนสไลด์ แล้วกดกลับไปเหมือนเดิม จะคัดปลอกให้หล่นใกล้ๆ พร้อมโหลดลูกใหม่เข้าลำกล้อง ประโยชน์คือเก็บง่าย ไม่ทิ้งหลักฐานในที่เกิดเหตุ เหมาะกับงานลอบยิง! ระยะหวังผลอยู่ที่ 50 เมตร
- ดึงปุ่มขึ้น ค้างไว้ จะเป็นกึ่งอัติโนมัต เหนี่ยวไก เข็มแทงชนวน โหลดลูกใหม่พร้อมคัดปลอกกระเด็นออก พอปล่อยไก จะดันลูกใหม่เข้าลำเพลิงพร้อมปิดช่อง วิธีนี้ถ้าเหนี่ยวไกซ้ำๆ จะยิงต่อเนื่องได้จนหมดแม็ก


การใส่แมกกาซีน แค่ดันเข้าไปให้สุด ปลดแม็กโดยมีปุ่มเล็กๆ ข้างแม็กให้กด ช่วงแรกผมเก็บรักษาแม็กกาซีนไม่ดี ทำให้ขึ้นสนิม ภายหลังหยุดสนิมได้แล้ว ยังใช้งานได้ดี สปริงไม่มีปัญหาอะไร แต่อยากได้ใหม่ พอลองหาในเนท ตกใจครับ ของ krico โดยตรงอันละ 5500 แพงสัส!


ที่โคนลำกล้องด้านขวาจะมีคาน safety เล็กๆ กระดกมาด้านหลังจะเห็นปุ่มสีแดงที่ซ่อนอยู่ นั่นคืออันตราย ระบบพร้อมทำงาน ถ้ากระดกปิดปุ่มสีแดงจะเหนี่ยวไกไม่ได้ ใช้กรณีที่ขึ้นลำแล้วยังไม่ยิง แต่ไม่ควรขึ้นลำทิ้งไว้นานๆ
การบำรุงรักษาและแก้ปัญหา
1. ถ้าไม่ยิงก็ไม่ต้องถอดชุดยิงออกมาล้าง หากจะล้างให้หมุนเกลียวด้านหลังออก จากที่หาดูได้เป็นคลิปปืนคนละรุ่นแต่ลักษณะปุ่มสไลด์แบบเดียวกัน ในชุดนั้นมีชิ้นส่วนหลายชิ้น ลองหายูทูปดูเอาครับ จะได้เห็นขั้นตอนในการรื้อที่ชัดเจน
ถ้าจะขัดคราบเขม่าดินปืนในลำกล้องก็ตอนนี้แหละ พ่นน้ำมันเข้าไปในลำกล้องให้ชุ่ม แล้วใช้แส้ทองเหลืองแทงจากโคนไปปลายกระบอก (ระวังอย่าให้โคนต่อแส้ครูดรู ถ้าเกลียวเสียก็จบนะ จะยิงไม่แม่น ซ่อมไม่ได้) เมื่อถูจนพอใจแล้ว ให้ตามด้วยแส้งูหรือสายเอ็นกับเศษผ้า
2. การล้างลำกล้องโดยไม่เอาชุดไกออก ดึงสไลด์มาให้สุดแล้วกดลง มันจะค้างอยู่ ให้พ่นน้ำมันล้างปืน หรือน้ำมันอเนกประสงค์ยี่ห้อที่ชอบๆ อย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าไปทางช่องคัดปลอก (น้ำมันจักรก็ใช้ได้) พ่นไปทางปลายกระบอกให้ชุ่มนิดๆ ทิ้งไว้สักพัก
จากนั้นใช้สายเอ็นตกปลาเบอร์ใหญ่หน่อย ผูกเศษผ้าให้แน่น แล้วใช้ปลายสายเอ็นอีกด้านแทงเศษผ้าขนาดเล็ก(1.5x1.5 นิ้ว) ดึงไปให้สุดที่ผูกผ้าไว้ก่อนหน้า ร้อยสายเอ็นจากด้านท้ายให้ทะลุผ่านปากกระบอก แล้วดึงออกมา กลับผ้าและเปลี่ยนผ้าในแต่ละครั้ง ทำซ้ำไปจนผ้าสะอาด
ที่ต้องระวังคืออย่าให้เศษผ้าหลุดคาอยู่ในรู! ผมเอาชัวร์อีกอย่าง คือไม่ใช้นิ้วแหย่เข้าไปในช่องคัดปลอก กันไว้ก่อน ผมไม่มีรอยสัก ไม่เคยฝังตะกรุด มีแต่แผลเป็นเต็มตัว คือตายยากแต่หนังไม่เหนียว ผมจะใช้ด้ามปากกาดันเศษผ้าให้เข้ารูแทนนิ้วมือ ก็ไม่ได้ยากกว่ากันสักเท่าไหร่
3. ชิ้นส่วนที่เป็นเหล็ก สามารถถอดออกจากโครงไม้ได้ด้วยน๊อตด้านล่าง ขันน๊อตออกจะยกขึ้นได้ทั้งยวง ใช้ในกรณีที่ต้องการทำความสะอาดระบบไก ปัญหาที่ผมทำกระบอกคลอน คือไปทำให้น๊อตมันคลาย ขันเข้าให้แน่นก็จบเรื่อง
3. ลูกซองแฝด HELICODOG ของก๋ง(ปู่) 

ผมถอดออกมาได้ 3 ชิ้น ตรงส่วนเป็นกลไกแทงชนวนต้องล้างไหม ของนี่เก่าจนแทบจะหาในกูเกิ้ลไม่เจอ ที่ผมอยากรู้คือวิธีบำรุงรักษา ที่ดูๆ คลิปรื้อปืนชนิดอื่น คล้ายมี know how บางอย่างที่ต้องรู้ ไกคู่ นกสับกับเข็มแทงชนวนมี 2 คู่ด้วยไหม! ที่ทำงานผมมีคนใช้ปืน แต่ไม่ได้เล่นปืนเก่า กลัวไม่รู้จริงแล้วทำเป็นรู้ ของกูจะพังเสียเปล่าๆ
ผมเจอกระบอกเดียวในเนท! ผมพยายามต่อ จนไปเจอในสารบัญปืนของโลก หนึ่งในนั้นมีเจ้านี่ มันระบุว่า
brand : Helicodog
country : FN
code : HLD
reference : model of shotguns
แล้วไอ่
FN นี่มันคืออะไรวะ ผมใช้เวลาอีกพักก็เจอว่า
What country is FN?  FN Herstal originated in the small city of Herstal, near Liège. The Fabrique Nationale d'Armes de Guerre (French for National Factory of Weapons of War) was established in 1889 to manufacture 150,000 Mauser Model 89 rifles ordered by the Belgium Government ...
Fabrique Nationale Herstal (English: National Factory Herstal), self-identified as FN Herstal and often referred to as Fabrique Nationale or simply FN, is a leading firearms manufacturer located in Herstal, Belgium, ...


จากวรรคแรก แปลแบบเดาส่ง มันคือเมืองสำหรับผลิตอาวุธสงครามที่ควบคุมโดยรัฐบาลเบลเยี่ยม พอใช้ FN Herstal หาต่อ ก็ได้คำตอบว่ามันตั้งอยู่ที่เฮอร์สเทลในเบลเยี่ยมนั่นแหละ ผมนึกย้อนไปในยุคปฎิวัติอุตสาหกรรม จะมีเมืองเกิดใหม่มากมายในยุโรป อเมริกา ส่วนใหญ่เป็นเหมืองหรือโรงงานผลิตอะไรสักอย่าง พอพ้นยุคบูมของมัน หลายเมืองถูกทิ้งร้างและลืมไป บางทีก็เปลี่ยนชื่อ แต่เจ้า FN herstal นี่ยังอยู่และปัจจุบันมี 3 สาขาใน 3 ประเทศคือ belgium, america และ UK แปลว่าโลก ไม่เคยขาดความต้องการด้านอาวุธเลย!









เจ้านี่สวย ของโบราณ งานมีรายละเอียด เช็ดนานเพราะพินิจพิจารณาสัดส่วน การเข้าไม้กับเหล็กแนบเนียนทีเดียว สัดส่วนที่เหมาะมือ ความงดงามของแต่ละจุด ลายด้นมือไม่รกทกแต่ดูค่อนข้างผู้ดี ปราณีต น่าหลงไหล
เดิมเป็นของบาทหลวงฝรั่งเศสชื่อคุณพ่อแปร์รัวย์ ท่านมาประจำอยู่ที่วัดใกล้บ้านในปี 1942-1948  (ภายหลังท่านย้ายไปที่อื่น) ท่านขายปืนให้ก๋งในปี 2485 (จากคำบอกเล่าของพ่อ)  2562-2485 = 77-2019 = 1942 ผมตรวจสอบกับบันทึกสังฆมณฑลก็ตรงปีนะ เจ้านี่เลยมาอยู่กับเรา ถึงวันนี้ก็ 77 ปีแล้ว! อายุจริงของมันเท่าไหร่ไม่รู้ รู้แต่ก๋งเคยเอาไปนอนเฝ้าวัดด้วย!
จากการประกาศว่าจะปล้น แต่ไม่รู้วันไหน(โจรโบราณเขาบอกก่อน) ผู้ศรัทธาจึงต้องมีศักยภาพในการดูแลตัวเองกันมากหน่อย การเฝ้าวัดในช่วงเวลานั้น มีการจัดทีมเปลี่ยนเวรยาม ส่งของว่างยามดึก อยู่กันมืดๆ เงียบเชียบ ทำกันทุกวันเป็นเดือนๆ
เป็นภาพที่ผมอยากเห็น วัดเก่ามันมีความคลาสสิค เป็นไม้ทั้งหมด หลังคาก็เป็นไม้ สวยแต่หลอน ในความรู้สึกผมตอนเป็นเด็ก กลางวันแสกๆ ให้เข้าไปคนเดียวยังไม่กล้า ก็ไม่ว่าใครตาย ก่อนฝังจะมีพิธีมิสซาซึ่งต้องเอาโลงศพไปวางหน้าแท่นบูชา หลังๆ นี่รู้สึกว่าไม่เอาเข้าไปละ ไว้ตรงมุขหน้าวัดแทน
หลังจากนั้นเคยใช้ยิงโจรขึ้นบ้านครั้งหนึ่ง ไม่รู้โดนไหม มันเป็นปืนเกจ 12 ลูก 9 น่ะนะ พ่อเล่าว่า ไอ้เสือเห่ากระโชก ก๋งก็คว้าเจ้านี่ซัดเปรี้ยงไปทางที่ไอ้เสือเห่าใส่ มีเสียงแหวกน้ำโครมๆ หนี นอกนั้นเคยเอาชีวิตใครมาอีกไหม ผมก็ไม่รู้ อาผมเคยเอาไปยิงนกกินบ้าง สมัยก่อนนกลงท้องนาเป็นฝูง ใช้ลูกปรายก็ไม่ต้องยิงหลายนัด แต่ถ้าจะยิงคน มันมีระยะหวังผลอยู่เหมือนกัน ห่างเกินไปก็ไม่ตาย
เคสนี้เคยเกิดกับก๋งที่เป็นญาติๆ ผม เจอลูกซองเข้าไปเต็มอก แต่ได้แค่รอยช้ำ โจรเข้าบ้าน ระยะยิงคือในบ้าน จะสักกี่เมตร ที่ผู้ใหญ่คุยกันว่าแม่พระช่วยไว้ ก็น่าจะฟังขึ้น ผมเคยเข้าไปในบ้านเขา ก๋งนอนชั้นล่างไม่กั้นห้อง สายประคำเต็มหัวนอน เส้นใหญ่ๆ ของโบราณ สวยมาก อื้ม ผมก็ชอบสายประคำกับพระเก่าๆ มีอยู่พอสมควร ไว้วันหลังเขียนด้วยดีกว่า!
การแยกชิ้นส่วน


ชิ้นส่วนนี้จะอยู่ใต้ลำกล้อง ถัดจากโกร่งไก ให้กดปุ่มที่ปลายสุดค้างไว้ กลไกจะปลดล็อค ให้ง้างแยกออกมาจากลำกล้อง จากนั้นดันกระเดื่องด้านหลัง หักลำกล้อง แล้วยกลำกล้องขึ้นจากร่องในพานท้าย




ระบบนกและไกปืนถ้าไม่พังอย่าไปยุ่งกับมัน ห้ามรื้อ เพราะเป็นการประกอบแบบเซาะร่องไม้ให้เข้ากับโครงเหล็ก เอาออกแล้วจะประกบเข้าที่ไม่ได้ อย่าคิดทำพานท้ายใหม่ มันยากมากที่จะเข้าไม้กับเหล็กได้เหมือนงานจากแหล่งผลิต บำรุงรักษาโดยพ่นโซแนคเข้าไปบางๆ ก็พอ
พ่อเล่าว่า เมื่อก่อนยิงนกเสร็จเขาล้างกันด้วยการเอาปืนใส่กะละมังซักผ้าแช่น้ำมันก๊าด!!! ผมคงไม่ห่วงเรื่องความทน แต่เคยเห็นเคสที่โดนปลวกกินพานท้าย เรื่องใหญ่เลยครับนั่น ของผมสีค่อนข้างดำ อาจด้วยน้ำมันก๊าดที่พ่อว่า กับน้ำมันที่อาเคยเช็ดไว้ (รึมันเป็นไม้ ebony) ผมเอาโซแนคทาซ้ำ บางครั้งผมกังวลเรื่องการยืดหดตัวของไม้ แต่ไม้พานท้ายอายุมากกว่า 80 ปี คงไม่น่าห่วงนัก ทั้งจากการคัดสรรและกระบวนการผลิต
การใช้งาน
เจ้าหนูนี่เป็นปืนนกใน ซึ่งคนไทยไม่นิยมเล่น ที่ผมหาเจอในไทยเป็นนกนอกทั้งหมด จากการอ่านๆๆ สิ่งหนึ่งที่บอกอายุได้คือความยาวลำเพลิง ปืนอายุมากกว่า 80 ปี ลำเพลิงจะไม่เกิน 65 mm ด้วยขนาดลูกและเทคโนโลยีของการผลิตในยุคนั้น เจ้านี่ยาว 65 mm เป็นนกใน งั้นไปหาคลิปต่างประเทศดูกัน

การใส่ลูก ด้านบนจะมีกระเดื่อง ใช้นิ้วโป้งดันไปทางขวา เป็นการปลดล็อคให้หักลำกล้องลงเพื่อใส่ลูก หลังยิงเสร็จ เมื่อหักลำกล้อง ลูกจะดีดตัวออกมาเอง พร้อมใส่ลูกใหม่ ทิ้งระยะให้มันด้วย จะได้ไม่พุ่งใส่หน้าตัวเอง
เมื่อสะบัดลำกล้องเข้าที่ จะเป็นการง้างนกสับไปในตัว ดังนั้นไม่ควรขึ้นลำทิ้งไว้นานๆ ตำราบอกว่า ถ้าต้องการลดนก ให้ดันกระเดื่องแล้วกดเหนี่ยวไก จากนั้นปล่อยพร้อมกัน เดี๋ยวผมขอไปลองก่อนละกัน ขอแนะนำว่าอย่าลองขณะมีลูกในรังเพลิงนะครับ
ถัดจากกระเดื่องจะมีปุ่มเล็กๆ ต่ำลงมา นั่นเป็นปุ่มเซฟตี้ เลื่อนเข้าหาตัวจะมีอักษร save ล็อคไกให้เหนี่ยวไม่ได้ ดันออกจากตัว จะเป็นการปลดล็อค ยิงได้ทันที
ลำกล้องซ้าย-ขวา สามารถบรรจุกระสุนต่างชนิด ให้เลือกยิงต่างสถานการณ์ ในปืนลูกซองแฝดสมัยใหม่บางรุ่น ขนาดลำกล้องต่างกันเพื่อให้ความบานและความแรงของลูกแตกต่าง แม้ใช้กระสุนขนาดเดียวกัน แต่ของผม(จากที่เขาสอนอ่านค่า) ลำกล้องปืนก๋งขนาดเท่ากันที่ 18.2 ดังนั้นเจ้านี่จะให้ผลเหมือนกันเรื่องความบานและระยะ ถ้าต้องการความแรงต่าง ผมต้องใช้กระสุนต่างชนิด
ไกหน้าคือกล้องขวาหวังผลให้เจ็บ ไกหลังคือกล้องซ้ายใช้ซ้ำเพื่อหยุดหรือสังหาร ไม่เคยมีใครเหนี่ยวไกทั้ง 2 ลำกล้องพร้อมกัน เพราะผิดวัตถุประสงค์ในการใช้งาน และจะรับแรงกระแทกไม่ไหว บ้างว่าถืงกับมือฉีก แต่ที่พ่อบอกผมคือ ประทับให้แน่น ไม่งั้นแรงกระแทกอาจทำให้ไหล่หลุด ผมยังไม่เคยลองเจ้านี่เลยครับ ผมมีกระสุน .38 อยู่ 4 ชุด .22 ราว 30 นัด คาดว่าน่าจะเพียงพอต่อการใช้งาน แต่ถ้าจำเป็นก็ไม่น่ายาก สภาพร่างกายผมได้อยู่แล้ว
คนโบราณมักใส่ลูกปรายกล้องขวาและใส่ลูกโดดในกล้องซ้าย เพื่อให้ไม่พลาดในนัดแรกที่จะไปเป็นกระด้ง ตามด้วยนัดหลัง เอาถึงตาย นี่คือข้อได้เปรียบของลูกซองแฝด แต่ยังมีความต่างของแฝดขนานและแฝดซ้อน ถ้าเป้าแนวระนาบ แฝดขนานจะกวาดตามเป้าได้ดีกว่าแฝดซ้อน ทำให้แฝดขนานได้รับความนิยมมากกว่าในกีฬาเป้าบิน ในขณะที่แฝดซ้อนใช้ได้ดีในการยิงเป้าที่ระยะใกล้-ไกล
ระยะหวังผล อยูที่ 25 เมตร ยิ่งไกลยิ่งบาน ทั้งความแรงที่ลดลง เกิน 25 เมตรอาจแค่ช้ำๆ
ทีนี้มันมีเรื่องขนาดปืนกับขนาดลูกปืน ที่ผมจะไม่กล่าวถึงให้ละเอียดมากนัก เพราะมันไม่เกี่ยวข้องกับปืนผม หาอ่านเพิ่มเติมไม่ยากครับอันนี้
ขนาดปืนลูกซอง
จากขนาดลำกล้อง 18.2 กับลูกสำรองที่ระบุไว้ว่าเกจ 12 ผมสรุปว่าเจ้าหนูนี่เป็นปืนเกจ 12 ละกัน ความจริงขนาดลำกล้องมีอีกนับสิบ แต่มากกว่าครึ่งเลิกใช้ไปแล้ว ไม่มีกระสุนขายแล้ว ส่วนเจ้าเกจ 12 ได้รับความนิยมสูงสุดต่อเนื่องมาเป็น 100 ปีจนถึงปัจจุบัน เพราะความยืดหยุ่นให้ใช้งานได้หลากหลาย กระสุนหาซื้อง่าย แรงกระแทกและประสิทธิผลกำลังดี ที่ต้องรู้ขนาดปืน เพราะเวลาซื้อลูกปืนจะได้ซื้อให้ตรงกับขนาดลำกล้อง


ทฤษฎีกล่าวว่า ขนาดปืนที่เรียกว่าเกจ(guage) คือการเอาตะกั่ว 1 ปอนด์(0.4536kg) มาปั้นเป็นลูกกลมๆ เท่าๆ กันได้จำนวนกี่ลูก แล้วเอา 1 ลูกจากที่ปั้นได้ ไปยัดใส่ลำกล้องได้พอดี
ดังนั้น เกจ 12 คือเอาตะกั่วหนึ่งปอนด์มาแบ่งเป็นลูกกลมๆ ได้ 12 ลูก ลูกหนึ่งๆ จะมีเส้นผ่านศูนย์กลาง .729 นิ้ว ทำให้เป็นมิลโดยเอาไปคูณ 25.4 = 18.5166 mm เอาไปใส่ลำกล้องได้พอดี จึงเรียกปืนที่ใช้ลำกล้องขนาดนั้นว่าปืนเกจ 12
อ่าฮะ งั้นไอ้ 18.2 ที่ปืนผมมันคืออะไรวะ แต่มันใส่ลูกที่พิมพ์ไว้ว่าเกจ 12 ได้แหละ

ขนาดลูกปืน


1. แยกตามขนาด
ให้ใช้ตะกั่ว 1 ออนซ์ แบ่งเป็นลูกกลมๆ ได้กี่เม็ด เขาว่าลูก 9 ได้รับความนิยมสูงสุดตลอดกาล จากความ flexible ของมัน แต่ที่ผมมีเป็นลูก 8 มันลงไว้ว่า SG/00 .. SG(อังกฤษ) = 00 BUCK(อเมริกา) ความหมายเดียวกันคือ มีลูกปรายอยู่ 8 เม็ด สีดำ 4 ลูกไม่ระบุอะไร ไม่รู้ลูกอะไรดิ
คร่าวๆ มีลูกอยู่ 3 แบบ
- ลูกโดด (
slugshot) ลูกเดียวเต็มลำกล้อง (มีกลม, มีกลีบ, ลูกสั้น, ลูกยาว)
- ลูกปราย (
buckshot) มีแบบ 6, 7, 8, 9, 11, 15, 19, 20, 21, 25 เม็ด ให้เลือก
- ลูกยิงนก (
birdshot) มีตั้งแต่ 40 เม็ดไปถึงหลายร้อยเม็ด เลือกเอาที่ชอบๆ ครับ

2. แยกจากประเภทวัสดุ
ยังแยกเป็นลูกเหล็กและลูกตะกั่ว ซึ่งพอสรุปได้ว่า ที่ขนาดเดียวกัน ลูกเหล็กจะมีปริมาณมากกว่าลูกตะกั่ว แต่ลูกตะกั่วจะให้แรงปะทะมากกว่า (ว่าด้วยเรื่องความถ่วงจำเพาะและการสะสมแรงจุดระเบิด) อีกเรื่องคือ ปริมาณลูกปรายยิ่งมาก แรงจะยิ่งน้อยลง ระยะหวังผลจึงลดตามไปด้วย


วิธียิงปืนทุกชนิด
1. จับให้มั่นคง ลูกโม่ก็ควรจับ 2 มือ ถ้าสถานการณ์มันเอื้ออำนวยให้จับได้
2. การเล็ง ผมมักกะๆ เอาแบบกลางอก มันดูเป็นการป้องกันตัวที่สมเหตุดี!
3. การเหนี่ยวไก ให้รั้งมานิ่มๆ อย่ากระชาก
4. ผมไม่เห็นด้วยกับการหลับตาข้างนึง การลืมตาทั้ง 2 ข้าง มีข้อดีตรงทำให้เราเห็นสภาพแวดล้อมในมุมที่กว้างกว่า

5. ศึกษากฎหมายอาญาว่าด้วยเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้ปืน!!!



ปืนบาดมือได้ด้วย!

แผลบนที่ใกล้ข้อนิ้วครับ ผมลูบที่ขอบเหล็กมันลบคมมาดีมากนะ แต่การกระแทกเข้าไปแรงๆ ทำให้หนังเปิด เนื้อยุบลึกลงไป เลือดซึมๆ ออกมา ผมดึงหนังออกทันทีก่อนที่มันจะเจ็บจนดีดดิ้นแล้วไม่กล้าดึง เอาทิชชู่กดจนเลือดหยุด จากนั้นก็ใส่ยาบ้างลืมบ้าง 1 อาทิตย์สะเก็ดแห้งและขอบเริ่มร่อน ใช้ที่ตัดเล็บค่อยๆ เล็มไปก่อน พอเนื้อขึ้นเต็ม สะเก็ดจะถูกดันให้นูนขึ้น โดนอะไรก็เจ็บเพราะมันแข็ง รอหลังอาบน้ำค่อยเอาแหนบดึงมันออกเบาๆ
ส่วนที่โคนนิ้วเป็นแผลเก่า ลูกชายทะเลาะกันตอนขวบนึง ผมเอามือรั้งไหล่อาบ๊าคออก (ผมรู้ว่าแมกซ์ไม่ตั้งใจ) เก๋าสัสแต่ไม่เหนียว เนื้อเปิดลึกลงไป 2-3 มิล เลือดไหลเป็นทาง พอผมร้องโอ๊ยเขาก็แยกกัน คงตกใจป๊าเป็นอะไร โอเคเลิกตีกันแล้วใช่ไหม ผมตรวจดูคร่าวๆ ไม่ได้แผลกันทั้งคู่ งั้นป๊่าไปหาหมอแป๊ปนะ ผมล้างสบู่ เอาผ้าพันมือห้ามเลือดชั่วคราว แวะ 4-5 คลีนิคไม่รับรักษา น้องผมพาไปโรงพยาบาล เจอไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เข้าไป ไอ้ที่แมนๆ นี่จะเป็นลมกันเลยครับ มันแซ่บหลาย ..
นั่นไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมลองความเหนียวของตัวเอง เมื่อเด็กๆ อายุได้ 3 เดือน แม็กซ์กับเฮคเตอร์ซัดกันตอน 4 ทุ่ม เพราะผมย้ายไปกรงใหญ่ขนาด 1.5x1.5 เมตร ผมก็แหมลูกหมามันจะสักแค่ไหนกัน ใช้มือเปล่าเลยครับ 2 ข้างง้างปากข้างละตัว !
ร๊อตไวเลอร์มีแรงกัดที่เหลือเชื่อมาก ทีนี้พอไม่ได้กัดปากกันตรงๆ มันก็ไม่เจ็บ จึงไม่ปล่อย งับย้ำๆ อยู่บนมือผมอย่างเมามันส์ ส่วนตัวผม พอเจ็บ แรงมันลด กว่าจะง้างปากแยกกันได้คงสักนาที (ที่แสนยาวนาน) แยกสำเร็จยังจับเช็ดตัว เช็คว่าได้แผลกันไหมขณะมือชาดิก ผมต้องรีบทำก่อนที่มันจะปวดไง ลูกหมาปลอดภัยดีทั้งคู่ ปะป๊าได้มาหลายรู เช้าต้องไปหาหมอเพราะมันบวมระบม .. 16 ปีผ่านไป รูๆ หายไปหมดละ เหลือเพียงรอยแผลเป็นเล็กๆ ยาวเซนต์กว่าที่สันมือ ไว้ให้คิดถึง.

2 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

รบกวนขอรูปถ่ายแม็กกาซีนของ .22คริกโก้ ว่าเป็นแบบตรงหรือโคง ของผมแม็กกาซีนหาย ขอบคุณมากครับ

victor phichaisrisawad กล่าวว่า...

แบบโค้งครับ ผมใส่รูปไม่ได้