While I thought that I was learning how to live, I have been learning how to die - Leonardo da Vinci

บทความเหล่านี้ หากเป็นประโยชน์กับท่าน ผมก็ดีใจ หากจะนำไปใช้ที่อื่น ผมก็ยินดี แต่กรุณาอ้างอิงที่มานิดนึง จัดเป็นมารยาทพื้นฐานในการใช้บทความของผู้อื่นใน internet หลายเรื่องผมต้องค้นคว้า แปลเอกสาร ตรวจสอบความถูกต้อง กลั่นกรอง เรียบเรียง ใช้เวลา ใช้สมอง ใช้ประสบการณ์ การก๊อปไปเฉยๆ อาจทำให้คนอื่นคิดว่าคนที่นั่งคิดนั่งเขียนแทบตายห่ากลายเป็นคนก๊อป ผมเจอเพจที่เอาเรื่องของผมไปตัดโน่นนิดนี่หน่อยให้เป็นงานของตัวเอง ไม่อ้างอิงที่มา ไม่ละอายใจหรือ .. สงสัยอะไร comment ไว้ ผมจะมาตอบ แต่ถ้าใครมาแสดงความไพร่หรือด่าทอใครให้พื้นที่ของผมสกปรก ผมจะลบโดยไม่ลดตัวลงไปยุ่งเกี่ยว อยากระบายไปหาที่ของตัวเองครับ หมายังขี้เป็นที่เป็นทางเลยจ้ะ นี่ก็เคยเจอ ไม่รู้พ่อแม่สอนมายังไง!!!

วันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ฌาน โดย ทมยันตี



เรื่องนี้ก็น่าอ่านครับ เพราะมันชื่อว่า ฌาน ล่ะมั๊ง .. ปกติ ผมไม่อ่านนิยายแบบว่าแนวๆ รักๆ ใคร่ ที่เอามาทำหนังช่อง 7 อย่างนั้นน่ะครับ ไม่ได้ดูถูกอะไรคนที่ชอบนะครับ แค่รสนิยมมันต่างกันเท่านั้นเอง .. ผมหยิบเอาหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่าน ก็เพราะชื่อเรื่องแท้ๆ

และต้องยอมรับว่า ไม่ผิดหวังจริงๆ ครับ การดำเนินเรื่อง ตื่นเต้น สนุกสนาน และได้ความรู้ สอดแทรกแนวคิดทางพุทธไว้มากมาย เรียกว่าอัดแน่นเลยดีกว่า ส่วนใหญ่ล้วนข้องเกี่ยวกับการเดินไปสู่การเจริญวิปัสนากรรมฐาน การควบคุมจิตใจ มีการพูดเรื่องภพภูมิ เหมือนเราจะได้ทบทวนสิ่งที่เคยรู้มาหลายๆ อย่าง อีกทั้งยังได้รับคำเตือนจากวิถีแห่งพุทธที่เลือนรางไป ยามเราเติบโตขึ้น
แต่ผู้อ่านก็ต้องคิดไว้ก่อนนะครับว่า มันคือนิยาย และนิยายสามารถสร้างจินตนาการได้ ไม่รู้จบ ผมขอคำนับคุณทมยันตี ที่อักษรของเขา ทำให้ผมได้สัมผัสความสวยงามได้มากมายขนาดนี้ การพูดถึงสัตว์ในแง่มุมที่แตกต่างจากหนังสืออื่นๆ ในโลก ก็สร้างความประทับใจให้ผมมากเช่นกัน ..
ตัวหนังสือ มี 2 เล่มครับ
เล่ม 1 .. เรื่องราวเริ่มขึ้นในป่าแห่งหนึ่ง เมื่อแม่เสือคาบเด็กน้อยมาเพื่อเป็นอาหารให้ลูกๆ ทั้ง 2 ของตน ด้วยชะตากรรม ทำให้เจ้าเสือพบกับพระธุดงค์ที่ปลีกวิเวกออกมาบำเพ็ญเพียรในป่า ท่านบอกให้คายออกมา ขอบิณฑบาท แล้วฝากให้เจ้าเสือนั้นช่วยเลี้ยงไว้ ... แค่นี้ก็มันส์แล้วใช่ไหม ผมฮากลิ้งเลยทีเดียวตอนอ่านถึงตรงนี้
ต่อให้อยากอีกสักหน่อยก็ได้ครับ เจ้าเด็กน้อยนั้นเติบโตขึ้นอย่างลูกเสือ ล่า และกินอย่างเสือ พอรู้ความ พระท่านก็จับมาสอนให้รู้จักธรรมะ ให้รู้จักการทำสมาธิ และฌาณ .. แนวทางไม่ใช่อย่างที่ผมเรียนรู้มาหรอกครับ แต่ก็มีอะไรน่าสนใจอยู่มาก และค่อนข้างถูกต้อง แม่นยำ .. ดีครับ สนุก ได้ความรู้ ได้ความคิด และรื้อฟื้นความต้องการหลุดพ้นของเราได้เป็นอย่างดี .. ก็ พอนานๆ เข้า เจออะไรๆ ล่อลวงมากเข้า มันก็หย่อนยานน่ะนะครับ
เล่ม 2 .. พรวดพราดก็มาโผล่ในงานบรรยายด้านควอนตัมฟิสิกส์เลยครับ ซึ่งคุณทมยันตีก็ศึกษามาแน่นอีกเหมือนกัน  เล่นเอาผมตะลึงไปเลย พร้อมๆ กับรำพึงออกมาว่า กูว่าแล้วไง .. นิยายเรื่องนี้ มีศาสตร์หลายอย่างสอดแทรกไว้ ทำให้ได้รับความบันเทิงในการอ่านมากทีเดียว แต่แนวคิดและคำสอนทางพุทธ ก็มีอยู่อย่างมากมายเช่นกัน .. อ่านแล้วก็เลือกเอาครับ ว่าต้องการอะไร.

2 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

กราบขอบพระคุณมากๆสำหรับหนังสือ ดีใจมากเลย ขอให้คุณคิดหาอะไรก็มีคนนำมาให้เช่นกันนะคะ

Suvarnapadma กล่าวว่า...

ลิงก์ไม่ได้ครับ รบกวนแก้ให้หน่อยได้ไหมครับ