While I thought that I was learning how to live, I have been learning how to die - Leonardo da Vinci

บทความเหล่านี้ หากเป็นประโยชน์กับท่าน ผมก็ดีใจ หากจะนำไปใช้ที่อื่น ผมก็ยินดี แต่กรุณาอ้างอิงที่มานิดนึง จัดเป็นมารยาทพื้นฐานในการใช้บทความของผู้อื่นใน internet หลายเรื่องผมต้องค้นคว้า แปลเอกสาร ตรวจสอบความถูกต้อง กลั่นกรอง เรียบเรียง ใช้เวลา ใช้สมอง ใช้ประสบการณ์ การก๊อปไปเฉยๆ อาจทำให้คนอื่นคิดว่าคนที่นั่งคิดนั่งเขียนแทบตายห่ากลายเป็นคนก๊อป ผมเจอเพจที่เอาเรื่องของผมไปตัดโน่นนิดนี่หน่อยให้เป็นงานของตัวเอง ไม่อ้างอิงที่มา ไม่ละอายใจหรือ .. สงสัยอะไร comment ไว้ ผมจะมาตอบ แต่ถ้าใครมาแสดงความไพร่หรือด่าทอใครให้พื้นที่ของผมสกปรก ผมจะลบโดยไม่ลดตัวลงไปยุ่งเกี่ยว อยากระบายไปหาที่ของตัวเองครับ หมายังขี้เป็นที่เป็นทางเลยจ้ะ นี่ก็เคยเจอ ไม่รู้พ่อแม่สอนมายังไง!!!

วันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ความผิดพลาด



ความผิดพลาดในงาน เป็นสิ่งที่ยอมรับได้ ..
ผมเคยพูดประโยคนี้แทนคนอื่น เมื่อเห็นมันกำลังจะถูกฆ่า แล้วทนดูไม่ได้
ซึ่งผมเองก็เชื่ออย่างนั้นจริงๆ ..
เป็นคน ย่อมมีความผิดพลาด
เราไม่ใช่คอมพิวเตอร์หรือเครื่องจักร ไม่สามารถผิดพลาดได้น้อยเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม
เหตุผลที่ทำให้ผิดพลาดต่างหาก จะเป็นตัวตัดสินว่าสามารถยอมรับได้หรือไม่
ในความเป็นจริง ความผิดพลาด ไม่อาจหาข้ออ้าง ..
เราอาจเจอคำถามเช่น ..
คุณ ใส่ใจในงานมากแค่ไหน
คุณ มีความตั้งใจในการทำงานมากน้อยแค่ไหน
คุณ ขวนขวายที่จะพัฒนาความรู้ ความสามารถของตนเอง แค่ไหน
คุณ มีทัศนคติต่อความผิดพลาด อย่างไร
อาจเป็นโชค หรือความสามารถพิเศษในการโน้มน้าวใจคน
แต่ผมเหมือนต้องคำสาป
เมื่อพูดอะไร เด็กมักไม่ฟัง ผู้ใหญ่กลับให้ความเชื่อถือ
บางทีผมอาจวางตัวไม่ดี หรือมีความเป็นกันเองมากเกินไป
กลับมาที่ความผิดพลาด .. บางที ปัญหาที่ตามมามันอาจเป็นเรื่องเล็กๆ
แต่เรื่องเล็กที่สะสม มันก็อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้เหมือนกัน
ถ้าสิ่งนั้น มันส่งผลให้คนอื่นต้องมานั่งตามล้างตามเช็ด ตามแก้ไม่สิ้นสุด
ทำให้ผู้ร่วมงานเสียเวลา ปวดกะบาล
หรือที่หนักกว่า ทำให้องค์กรสูญเงินและเวลา เพิ่มต้นทุนโดยไม่จำเป็น
ผมเคยเจอการแก้ปัญหาแบบตลกๆ ของคนไม่รู้จักคิด หลายคน
เช่น มันเสี่ยงที่จะพลาด เลยตัดสินใจที่จะไม่ทำ .. มันไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา ว่ามั๊ย
คุณต้องกล้าที่จะทำ ด้วยความระมัดระวังต่างหาก
และถึงมันจะพลาด สิ่งที่คุณจะได้คือ รู้ว่าทำไมมันไม่เป็นไปอย่างที่คิด
คุณรู้ทางเลือกแล้ว คุณรู้วิธีที่จะเสี่ยงน้อยที่สุดแล้ว
คุณมีคำอธิบายที่จะไม่มีใครกล่าวหา ว่าไร้เหตุผล
สรุปว่า การเลี่ยงงาน ไม่ใช่คำตอบ แต่ก็แปลกที่ยังมีคนฟัง !!
(และผมก็ชอบเล่นคนที่มีความคิดพรรค์นี้ เป็นที่สุด)
ยังมีที่แย่กว่านี้อีกนะครับ โยนปัญหาให้คนอื่นไง ง่ายและเร็ว
อันนี้ผมก็เห็นบ่อย และโดยส่วนตัว คิดว่า มันไม่น่ารักเอามากๆ
มาถึงจุดนี้ ผมก็ต้องยอมรับแล้วว่า ผมได้ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องลงไปตั้งมาก
มันก็คล้ายๆ กับว่า เรารังเกียจการเลือกปฏิบัติ แต่เรากลับเลือกปฏิบัติเสียเอง
ทำงานไว้หน้าคน บางที สร้างความยุ่งยากลำบากใจให้ มากมายกว่าที่คิด
คำถามคือ ในสังคมไทยที่ได้รับการปลูกฝังค่านิยมมาอย่างผิดๆ
เราสามารถ ตรงไป ตรงมา ได้มากแค่ไหน จึงจะไม่มีอันตราย
เพราะ มันกลายเป็นกมลสันดานของคนส่วนใหญ่ไปแล้ว
กลายเป็นเรื่องปกติที่ยอมรับกันได้ และควรทำ .. ไว้หน้ากัน
สุดท้าย กลายเป็นสังคมเหลวแหลก ..
ผมสงสัยว่า ...
หากเราจะปฏิรูปความคิดให้ถูกต้อง เที่ยงธรรม .. ต้องใช้เวลาเท่าชั่วอายุคน รึเปล่า.

ไม่มีความคิดเห็น: