While I thought that I was learning how to live, I have been learning how to die - Leonardo da Vinci

บทความเหล่านี้ หากเป็นประโยชน์กับท่าน ผมก็ดีใจ หากจะนำไปใช้ที่อื่น ผมก็ยินดี แต่กรุณาอ้างอิงที่มานิดนึง จัดเป็นมารยาทพื้นฐานในการใช้บทความของผู้อื่นใน internet หลายเรื่องผมต้องค้นคว้า แปลเอกสาร ตรวจสอบความถูกต้อง กลั่นกรอง เรียบเรียง ใช้เวลา ใช้สมอง ใช้ประสบการณ์ การก๊อปไปเฉยๆ อาจทำให้คนอื่นคิดว่าคนที่นั่งคิดนั่งเขียนแทบตายห่ากลายเป็นคนก๊อป ผมเจอเพจที่เอาเรื่องของผมไปตัดโน่นนิดนี่หน่อยให้เป็นงานของตัวเอง ไม่อ้างอิงที่มา ไม่ละอายใจหรือ .. สงสัยอะไร comment ไว้ ผมจะมาตอบ แต่ถ้าใครมาแสดงความไพร่หรือด่าทอใครให้พื้นที่ของผมสกปรก ผมจะลบโดยไม่ลดตัวลงไปยุ่งเกี่ยว อยากระบายไปหาที่ของตัวเองครับ หมายังขี้เป็นที่เป็นทางเลยจ้ะ นี่ก็เคยเจอ ไม่รู้พ่อแม่สอนมายังไง!!!

วันอังคารที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2556

เตรียมอนุบาล ก็สำคัญนะ


ผมมีโรงเรียนเตรียมอนุบาลแห่งหนึ่งมาให้ลองพิจารณากันดูเป็นกรณีศึกษานะครับ อาจเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจเลือกโรงเรียนให้ลูกของท่าน .. ผมจองโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งไว้แล้ว แต่รอภาคการศึกษาเต็มๆ เลยให้เค้าลองไปเตรียมอนุบาลเพื่อให้เค้าเรียนรู้เรื่องหน้าที่ของการไปเรียน การต้องห่างแม่ ต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบโรงเรียน พอเข้าอนุบาลจะได้พร้อมที่จะเรียนรู้ได้เลยโดยไม่ต้องเสียเวลาปรับตัวอีก
ค่าเล่าเรียนของที่นี่ ผมเลือกจ่ายเป็นรายเดือนเพราะไม่แน่ใจว่าดีจริงไหม ตกเดือนละประมาณ 5500 บาท ค่าแรกเข้าหกพันกว่าบาท (เป็นค่าชุด ผ้ากันเปื้อน ค่ากระเป๋า) รับเด็กเวลา 8.00-15.00 ถ้าไปก่อนหรือมารับหลังเวลาจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม คุณพ่อคุณแม่แอบดูลูกได้ ผ่านช่องกระจกบานเล็กๆ ถ้าดูนานเกิน 2-3 นาที คุณครูก็จะเดินมามองหน้าลักษณะกดดันให้ไป ไม่ให้เห็นวิธีการปฏิบัติกับเด็ก ซึ่งช่องนี้เด็กไม่สามารถสังเกตเห็นผู้ปกครองได้
พอลูกเริ่มไปเรียน ผมก็ต้องเริ่มแปลกใจว่า เอ..ลูกเราเค้าก็รู้เรื่องทุกอย่างแล้ว ใช้เหตุผลคุยกันได้ ทำไมพอกลับจากโรงเรียนมีอาการพูดไม่รู้เรื่อง ไม่มีเหตุผล มีความก้าวร้าว ต่อต้านโดยไม่มีสาเหตุ ต้องใช้เวลาปรับกันเป็นชั่วโมงถึงกลับมาเป็นคนเดิม เป็นอย่างนี้ทุกวัน .. ลูกเราเปลี่ยนไป .. ผมก็ไม่เข้าใจทั้งๆ ที่ผมเป็นคนอ่านตำราเลี้ยงลูก พวกหนังสือวิธีเลี้ยงลูก จิตวิทยาเด็กที่เขียนโดยนักจิตวิทยาเด็กหลายสิบเล่มมาตั้งแต่ก่อนลูกจะเกิด เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องที่สุดที่ผ่านการวิจัยมาแล้วกับเด็กทั่วโลก ผลก็เป็นที่น่าพอใจ และผมยอมรับไม่ได้ที่อยู่ๆ ลูกจะมีพฤติกรรมด้านลบโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน ที่บ้านก็เหมือนเดิมนี่นา ผมโทรไปคุยกับคุณครูที่โรงเรียนก็ได้รับคำตอบที่ไม่ชัดเจน โดยอ้างใบสัญญาตอนมอบตัวเด็กว่า ผู้ปกครองต้องยอมรับได้ว่า เด็กที่มาอยู่ใหม่อาจมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปในช่วงสัปดาห์แรกๆ เช่น งอแง อ้อน เป็นหวัด ไม่บอกเมื่อขับถ่าย ซึ่งเป็นพฤติกรรมชั่วคราวอันเป็นธรรมชาติช่วงปรับตัว
โชคดีว่าผมมีญาติที่จบปริญญาโททางด้านจิตวิทยาและเป็นผู้บริหารโรงเรียนอนุบาลมีชื่อแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ ผมเล่าให้ท่านฟังและขอให้ท่านช่วยวิเคราะห์สาเหตุ มันก็คล้ายการทดสอบทางจิตวิทยาที่ใช้กับผู้ใหญ่เพียงแต่เด็กตอบสนองอย่างซื่อๆ สรุปว่าลูกผมเจอคุณครูประเภทใช้คำสั่งบังคับ ไม่ใช่การจูงใจ มันง่ายแต่ไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องในการปฎิบัติกับเด็ก มันเป็นการสร้างความเครียด ทำให้เด็กเก็บกด เด็กจะทำอะไรไม่ได้แล้วเก็บมาระบายออกที่บ้าน ท่านลองสังเกตุความเปลี่ยนแปลงของลูกท่านให้ดี ผมยังให้ลูกไปเรียนเพื่อให้เค้าเรียนรู้เรื่องความอดทน เราคิดว่าจะลองดูไปก่อน แต่เค้าไม่เคยเล่าเรื่องที่โรงเรียนแปลว่าเค้าไม่มีความสุขกับการไป แต่ไปเพราะรู้ว่ามันคือหน้าที่ของเด็ก
วันนึงคุณแม่เค้าไปรับก่อนเวลาเลยรู้ว่าคุณครูเปลี่ยนชื่อให้ลูกเราด้วย แล้วเด็กจะสับสน สูญเสียความมั่นใจในตัวเองไหม ผมไปคุยกับคุณครู ได้รับคำตอบว่าชื่อที่คุณครูเอามาใช้เรียกลูกผมมันน่ารักดี มันก็น่าคิด ถึงวุฒิภาวะของคนเป็นครู ทำไมคิดอะไรหยาบๆ แบบนี้ เราตั้งใจตั้งชื่อเรียกให้ลูกไม่ใช่เรียกอะไรก็ได้ ถึงจะไม่ให้เกียรติเด็กก็ควรจะให้เกียรติพ่อแม่เด็กบ้าง แล้วยังมีวิธีหาเงินแปลกๆ คือจัดให้มีการแสดงของเด็ก แล้วมีจดหมายแจ้งผู้ปกครองทำนองว่าจะเข้ามาดูก็ได้ แต่ท่านอาจเป็นต้นเหตุให้ครูควบคุมเด็กไม่ได้ ไม่ควรเข้ามาดูให้รอซื้อ DVD ที่ทางโรงเรียนจัดทำไว้ขายให้ทีหลัง อ้าวก็เราไม่ได้อยากดูลูกคนอื่นนี่ เขาว่าเน้นความสนุกเท่านั้น ปกติการแสดงของเด็กก็เพื่อให้เด็กกล้าแสดงออกด้วยไม่ใช่เหรอ นี่มันตั้งใจขายชุดกับ DVD ชัดๆ หลังจากงานนี้ทางโรงเรียนยังชักจูงว่า จะมีงานวันเด็ก และงานกีฬาสี ต่ออีกซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกัน
ก็เป็นกรณีศึกษาที่ผมเจอมาเอง พอผมให้ลูกเลิกไปเรียนหลังจากทนดูมา 2-3 เดือนแล้วไม่มีอะไรดีขึ้นและมีแนวโน้มว่าจะแย่ลง เค้าก็กลับมาเป็นเด็กมีเหตุผลโดยไม่ต้องมานั่งปรับกันหลังเลิกเรียนอีก ไม่อยากให้เด็กคนไหนต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ลูกเราทั้งคน ถือเป็นความเสียหายรุนแรง เด็กที่อยู่ในช่วงของการเรียนรู้ จดจำ เชื่อมโยง วิเคราะห์ ถ้าเค้าต้องเรียนรู้ในสิ่งผิดๆ มันจะติดตัวเค้าไปจนโต เป็นเรื่องน่ากลัว

.. เรื่องนี้ ผมเขียนจากการพูดคุยกับน้องชายหลายชั่วโมง ถึงรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในมุมมองของบุคคลที่หนึ่ง ..

ไม่มีความคิดเห็น: