While I thought that I was learning how to live, I have been learning how to die - Leonardo da Vinci

บทความเหล่านี้ หากเป็นประโยชน์กับท่าน ผมก็ดีใจ หากจะนำไปใช้ที่อื่น ผมก็ยินดี แต่กรุณาอ้างอิงที่มานิดนึง จัดเป็นมารยาทพื้นฐานในการใช้บทความของผู้อื่นใน internet หลายเรื่องผมต้องค้นคว้า แปลเอกสาร ตรวจสอบความถูกต้อง กลั่นกรอง เรียบเรียง ใช้เวลา ใช้สมอง ใช้ประสบการณ์ การก๊อปไปเฉยๆ อาจทำให้คนอื่นคิดว่าคนที่นั่งคิดนั่งเขียนแทบตายห่ากลายเป็นคนก๊อป ผมเจอเพจที่เอาเรื่องของผมไปตัดโน่นนิดนี่หน่อยให้เป็นงานของตัวเอง ไม่อ้างอิงที่มา ไม่ละอายใจหรือ .. สงสัยอะไร comment ไว้ ผมจะมาตอบ แต่ถ้าใครมาแสดงความไพร่หรือด่าทอใครให้พื้นที่ของผมสกปรก ผมจะลบโดยไม่ลดตัวลงไปยุ่งเกี่ยว อยากระบายไปหาที่ของตัวเองครับ หมายังขี้เป็นที่เป็นทางเลยจ้ะ นี่ก็เคยเจอ ไม่รู้พ่อแม่สอนมายังไง!!!

วันเสาร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เพลง Classic .. !!! มันน่ากลัวจริงป่ะ


จริงๆ แล้ว ตัวผมเองชอบดนตรีสไตล์ heavy metal มากกว่า ก็ผมเริ่มต้นมาจากเพลง rock นี่ครับ วงดนตรีวงแรกที่ผมรู้จักคือ the olarn project น่ะ วงดนตรีร่วมยุคก็จะมี Hi-Rock, Rockestra, Kaleidoscope เป็นต้น .. คุณเกิดทันหรือเปล่า ..  สมัยนั้นมีแต่เพลงไทยครับ เพลงต่างประเทศยังไม่มีใครเอามาขาย มันเพิ่งจะเริ่มเข้ามา หลังจากที่ตลาดเพลง rock เมืองไทยเปิดแล้วนั่นแหละครับ กลายเป็นว่า พอวงรุ่นนี้เลิกออกอัลบั้ม เพลงมัน soft ลงครับ คนที่ชอบเพลงรุ่นนี้อยู่เลยหันไปหาเพลงต่างประเทศ ซึ่งมันช่วยบำบัดความต้องการที่เพิ่มขึ้นในการฟังดนตรีของพวกเขาได้ เพลง rock กับเพลง heavy metal จากต่างประเทศ มันก็เลยเริ่มเข้ามา ..

แต่ผมกำลังจะบอกคุณว่า ไอ้ดนตรี heavy metal เนี่ย มันก็คือดนตรี classic ดีๆ นี่เอง ทำไมผมพูดอย่างงั้น.. เพราะนักดนตรีของวงดนตรี heavy metal เขาเริ่มจากการเรียนดนตรี
classic กันมาทั้งนั้นแหละครับ ต้องมานั่งเรียนทฤษฏีดนตรี นั่งไล่สเกล กันตั้งแต่เด็กๆ ทั้งนั้น เขาถึงสามารถแต่ง melody ให้น่าฟัง สามารถเล่นอะไรที่คุณทำให้คุณสงสัยว่านี่คนเล่นเหรอ ได้ยังไงล่ะครับ ถ้าคุณไม่เชื่อ ลองไป search ประวัตินักดนตรีดังๆ ดูเถอะ เป็นอย่างนั้นทุกคนแหละครับ อย่างเช่น yngwie malmsteen, randy rhoads, joe satriani, marty friedman, iron maiden, chris impelliteri เป็นต้น

บางทีที่ผมฟังเพลง heavy metal ผมรู้สึกเลยนะว่า มันเป็นดนตรี classic ที่ใส่ตัวปรับเสียง distortion กับอีกเยอะชนิดมากๆ เข้าไป ใส่กลองที่มีจังหวะหนักๆ เข้าไป ผมเลยมองว่าคนที่ชอบดนตรี heavy metal จะฟังดนตรี classic แล้วรู้สึกชอบ.. ได้ไม่ยาก แต่คนที่ชอบดนตรี classic ประเภท symphony อาจจะรู้สึกว่าดนตรีประเภทอื่นๆ ไม่เพียงพอต่อความต้องการของเขา ก็ต้องเข้าใจเขานะครับ เขาเคยชินกับการฟังดนตรีนับร้อยชิ้นที่บรรเลงไปพร้อมๆ กัน เสียงที่ออกมามันมีความซับซ้อนสูงมาก เขาคงไม่อาจพอใจกับเสียงที่เกิดจากเครื่องดนตรีเพียง 4-5 ชิ้นแน่ๆ ถึงแม้มันจะเป็นเพลง warlord's last challenge ของ rhapsody of fire ก็เถอะ

ผมอยากจะขอบังอาจแนะนำเพลง classic บางเพลงที่จะทำให้คุณเลิกคิดว่าฟังแล้วง่วง.. มันไม่ใช่ดนตรีที่ฟังแล้วหลับ แต่มันจะปลุกสัญชาติญาณมนุษย์อีกส่วนหนึ่งของคุณขึ้นมา มันจะสร้างความตื่นตา ตื่นใจ ให้คุณเห็น มันจะทำให้คุณเลิกมีอคติกับดนตรี classic มันจะเหมือนคุณได้ดูหนัง action ดีๆ ที่ดูแทบไม่ทันน่ะครับ ผมเองก็รู้จักไม่มากนัก หากท่านใดอยากจะแนะนำเพิ่ม ก็เชิญได้เลยครับ

mozart (Wolfgang Amadeus Mozart)
- symphony no.25 in G minor - allegro con brio
- symphony no.39 in E flat, KV 543 - finale (allegro)
- symphony no.41 in C, K.551 "Jupiter" allegro vivace
- symphony no.41 in C, K.551 "Jupiter" molto allegro
Bach (Johann Sebastian Bach)
- brandenberg concerto no.3 in G major - Allegro
- orchestral suite no. 4 in D major, BWV 1069 - Rejouissance
- Toccata and Fugu in D minor (อันนี้ดังมาก)
- Orchestral Suite No. 2 in B minor, BWV 1067 - Badinerie (มีคนไทยเอามา cover ด้วยนะ..อื้ม..)
Beethoven (Ludwig Van Beethoven)
- symphony no.8 in F major, op.93 - allegro vivace
- symphony no.9 - 4 เพลงแรก
- moonlight sonata (อันนี้ใครๆ ก็คงเคยได้ยินกันอยู่บ่อยๆ แต่อาจจะไม่รู้ชื่อ)
Richard Wagner
- prelude to act 3 - Lohengrin
- the ride of the Valkyries
Antonio Vivaldi
- Concerto No. 2 in G minor, Op. 8, RV 315, "L'estate" (Summer) – Presto (จาก four seasons)
Chaikovsky
- 1812 Overture, Op.49
Edward Elgar
- Pomp and Circumstance Military Marches no.1 in D , Op. 391,
Franz Schubert
- symphony no.8 in B minor – allegro moderato
Johannes Brahms
- Hungarian Dance no.5
Max Bruch
- Scottish Fantasy, Op.46 – Allegro

ลองดูครับ จะได้รู้ว่าผมไม่ได้โกหก คุณอาจจะสังเกตุเห็นว่า ทำไมมันมีแต่
allegro วะ ก็ allegro มันแปลว่าแบบเร็วน่ะครับ ผมเองก็ฟังอะไรช้าๆ ไม่ค่อยได้เหมือนกันแหละครับ โชคดีที่ชื่อของเพลง classic มันบ่งบอกถึงความเร็วของเพลงนั้นๆ ด้วย ผมรวบรวมมาให้ท่านดูด้วยครับ เป็นคำที่เห็นกันบ่อยๆ ใน album เพลง classic ครับ ท่านชอบความเร็วขนาดไหนก็เลือกฟังได้ไม่ยากครับ
Grave               ช้ามากที่สุด ช้าอย่างโศรกเศร้า
Largo                ช้าอย่างสง่างาม
Larghetto          ช้า (น้อยกว่า Largamente)
Adagio              ช้าตามสบาย
Andante            ช้าพอประมาณ เท่าจังหวะก้าวเดิน
Moderato          ปานกลาง
Allegretto          ค่อนข้างเร็ว
Allegro              เร็วมีชีวิต
Vivace, Vivo       เร็ว มีชีวิตชีวา
Presto               เร็วมาก
Tempo              เร็ว

ผมเคยฟังเพลง Etudes; Death of Kaspar จากหนังเรื่อง the red violin จาก video เพลงแรกที่คุณเห็นคือ vienna the monastery - solo โดย Joshua Bell  และที่ช่วงท้ายสุดของวีดีโอคือเพลง etudes - solo โดย Joshua Bell เหมือนกัน  เป็นเพลงที่คุณจะเห็นการให้จังหวะของเมโทรนอม กับความเร็วของการเล่นที่เพิ่มขึ้นได้อย่างชัดๆ เลยครับ อ้อ.. etudes คือเพลงที่ใช้ในการฝึกความเร็วในการเล่นน่ะครับ

โชคดีอีกน่ะแหละที่สมัยนี้หาเพลง
classic ฟังได้ไม่ยาก ถ้าเป็นเมื่อก่อน คุณต้องถ่อไปร้านขาย CD ระดับ hi-society ถึงจะหาฟังได้ แต่ไม่ใช่ว่าจะได้อย่างที่คุณต้องการด้วยนะ บางอันก็ต้องถึงกับ import กันเลยแหละครับ (คุณต้องพยายามนึกภาพของโลกที่ยังไม่มี internet ให้ออกก่อนนะครับ) แต่เดี๋ยวนี้คุณมี pirate bay เขามีทุกอย่างที่คุณต้องการ เป็นรูปแบบของการแบ่งปันในโลก internet ที่ดีมากๆ

เมื่อเช้าผมเจอ YouTube Symphony Orchestra 2011 Grand Finale น่าสนใจทีเดียวครับ intro มาเป็น graphic สวยๆ พร้อมข้อความ ขึ้นว่า ..
from the sands .. to the seas
from the forbidden city .. to the city that never sleeps
from their own world .. to the whole world

ผมอ่านแล้วขนลุกครับ... งานนี้เป็นการรวมตัวกันของนักดนตรีจากวง symphony ทั่วโลก ซึ่งผ่านการคัดเลือกมาจากการโชว์ผลงานของตัวเอง โดยการโหวตคะแนนจากผู้ชม you tube นับล้านๆ คนทั่วโลก กลายมาเป็นนักดนตรีจำนวน 101 คน จาก 33 ประเทศ เปิดการแสดงที่ Sydney Opera House .. ที่น่าทึ่งสุดสำหรับผม คงเป็นการแสดงเพลง toccata ของ Bach (อ่านว่าบ๊าคครับ เจ้าหน้าที่ที่โรงพยาบาลสัตว์เขาเรียกลูกผมว่าแบ๊ช..) โดยใช้ tube organ ขนาดเท่าบ้าน (มีปุ่มเป็นร้อย จำได้ยังไงวะ) ลองดูครับ เขาเก่งมากจริงๆ  .. video มีความยาวประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ถ้าดูแบบ online ก็อ้วกหล่ะครับ หา download เอาเอะครับ

ไม่มีความคิดเห็น: