While I thought that I was learning how to live, I have been learning how to die - Leonardo da Vinci

บทความเหล่านี้ หากเป็นประโยชน์กับท่าน ผมก็ดีใจ หากจะนำไปใช้ที่อื่น ผมก็ยินดี แต่กรุณาอ้างอิงที่มานิดนึง จัดเป็นมารยาทพื้นฐานในการใช้บทความของผู้อื่นใน internet หลายเรื่องผมต้องค้นคว้า แปลเอกสาร ตรวจสอบความถูกต้อง กลั่นกรอง เรียบเรียง ใช้เวลา ใช้สมอง ใช้ประสบการณ์ การก๊อปไปเฉยๆ อาจทำให้คนอื่นคิดว่าคนที่นั่งคิดนั่งเขียนแทบตายห่ากลายเป็นคนก๊อป ผมเจอเพจที่เอาเรื่องของผมไปตัดโน่นนิดนี่หน่อยให้เป็นงานของตัวเอง ไม่อ้างอิงที่มา ไม่ละอายใจหรือ .. สงสัยอะไร comment ไว้ ผมจะมาตอบ แต่ถ้าใครมาแสดงความไพร่หรือด่าทอใครให้พื้นที่ของผมสกปรก ผมจะลบโดยไม่ลดตัวลงไปยุ่งเกี่ยว อยากระบายไปหาที่ของตัวเองครับ หมายังขี้เป็นที่เป็นทางเลยจ้ะ นี่ก็เคยเจอ ไม่รู้พ่อแม่สอนมายังไง!!!

วันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2556

เมื่อป๊าเมากลิ้ง / Sat. 7 Dec., 2013


วันเสาร์แล้ว รู้สึกเหมือนเป็นวันหยุดเลย ตื่นมาแล้วมีความคิดว่ากูอยากนอนต่อ .. เช้านี้ลูกบ๊าคดูไม่ค่อยสดชื่นเท่าไหร่ แต่ก็กินได้ อึได้ ผมพาดผ้าไว้เหมือนเคย แล้วไปทำงาน
กลับมาตอนเที่ยง อยากจะกรี๊ดให้ลั่นบ้าน ลูกบ๊าคเอาทิชชู่ลงมากัดกระจุยเต็มพื้น เพิ่งเอาม้วนใหม่มาใช้เมื่อเช้าเอง มันคงดูน่ากินมั๊ง คิดว่าไม่ได้กินเข้าไป จากปริมาณที่กระจายอยู่เต็มพื้น .. เขารู้ว่าทำผิด เดินไปนอนใต้โต๊ะคอม ผมก็บ่นๆๆ ทำไมอะลูก เอามากัดเล่นทำไม กี่ขวบแล้วเนี่ย ยังกัดทิชชู่อยู่อีกเหร่อ ทำไมหางานให้ป๊าอย่างงี้ล่ะ ต้องตีกันแล้วมั๊ง สนุกมั๊ย หิวเหร่อ มันกินไม่ได้นะ รู้ใช่ไม๊ .. อ่ะ บ่นได้บ่นไป บ๊าคนอนเงียบไม่เถียงสักคำ ไม่ขยับตัวด้วย อาจกำลังคิดถึงชะตากรรมของตัวเองอยู่ ก็เป็นได้
ผมกวาดไปบ่นไปจนเรียบร้อยแล้วยัดยา พาไปฉี่ กลับมา ขอสักหน่อยเถอะ เอาสายจูงตีสะโพกไป 2 ที เบาๆ ครับ แปะๆ แค่พอให้รู้ว่าทำผิดนะ อย่าทำอีก .. คิดว่าอาจเป็นเพราะเครียดแล้วทำอะไรไม่ได้ คุณอาข้างบ้านกับน้องๆ มาบ้าน เจ้านี่เห็นแล้วคงหงุดหงิด เลยมาลงกับม้วนทิชชู่ล่ะมั๊ง .. ดูท่าจะออกแรงขู่กรรโชกเขาไปพอสมควร ผมเลยหลอกกินน้ำตอนเที่ยงด้วย
กลับไปทำงาน แบบว่ามืดมนหนทาง ทำไมมันเยอะอย่างงี้วะ กูจะทำให้มันเสร็จได้ยังไง กะว่าคงต้องขนกลับบ้าน .. ราวๆ 5 โมงเย็น ไอ้น้องชายโทรมาว่าจะมาบ้าน ผมมีสิทธิ์เต็มที่ ที่จะไม่เอางานกลับบ้านใช่ไม๊ ไม่ว่างแล้วนี่ต้องกินเหล้า ไว้วันจันทร์ก็แล้วกัน สัญญากับตัวเองว่า ถ้าทำให้เสร็จไม่ได้ จะเอากลับบ้าน
ถึงบ้านก็จัดการกับเจ้าลูกชายให้เรียบร้อยก่อน ดูกินอร่อยแล้วนะ ไปอึได้ ฉี่ได้ วิ่งไปทั่ว ซึ่งไม่ดีเลย เขาไม่ควรวิ่ง คุณหมอบอกให้เดินช้าๆ ผมก็พยายามรั้งเท่าที่จะทำได้ เขาก็พยายามกระโจนอยู่ดี ว่าง่ายมากๆ .. กวาดบ้านเคลียร์พื้นที่ คุณแม่ผมมีของขวัญสำหรับงานคริสตมาสที่ห่อค้างไว้ไม่ต่ำกว่า 50 ชิ้น กองเกลื่อนอยู่หน้าทีวี กว่าจะเก็บหมดเล่นเอามึน
งีบไปได้พักใหญ่เจ้าหลานชายก็มา ผมได้นั่งเล่นรถกับเขาอยู่พักใหญ่ พวกขนมาเป็นตะกร้า กะเอามาเล่นกับคุณย่า แต่คุณย่ากับคุณก๋งไปสามพรานยังไม่กลับ .. สนุกไหม ไม่หรอกครับ แต่เขาสนุกนะ ตอนผมเด็กๆ ผมก็สนุก ผมรู้สึกดีที่ได้เห็นว่าตัวเองทำให้เขามีความสุขได้เสียมากกว่า ผมมันเกินวัยไปแล้ว ..
ทำให้ผมนึกไปถึงการ์ตูน 4-5 เรื่องที่ผมดูตอนเด็กๆ ถ้าผมพูดออกมา คนวัยเดียวกับผมต้องนึกออก และรู้ทันทีว่าผมอายุเท่าไหร่ เช่น อิคคิวซัง โดราเอมอน นินจาฮาโตริ ปาร์แมน จูโอมารุ มันเป็นการ์ตูนที่สนุกมากๆ ในความคิดผม ณ เวลานั้น ต้องรอดูทุกวัน .. แต่เมื่อปีก่อนผมเจอในบิท โหลดมาทั้งเรื่อง ทุกตอนที่มี มานั่งดูใหม่ มันไม่สนุกแล้วน่ะครับ ไม่รู้สึกตื่นเต้น น่าติดตาม เหมือนตอนนั้น .. จูโอมารุ เป็นการ์ตูนที่ผมเคยเก็บมาฝันเลยนะครับ เป็นหุ่นยนต์บังคับ เอามาสู้กันบนเวทีเหมือนหนังเรื่อง Man of steel ที่เราได้ดูกัน ทำให้ผมคิดว่าแรงบันดาลใจของหนังเรื่องนี้ อาจมาจากการ์ตูนเรื่องนั้นก็ได้นะ
เมื่อป๊ากินเหล้า ลูกบ๊าคก็ถูกทอดทิ้งให้อยู่ตามลำพัง แต่ผมเตรียมที่นอนให้เขาแล้ว หวีผม ให้ยาเรียบร้อยแล้ว ไม่น่ามีปัญหาอะไร มาแอบดูเป็นช่วงๆ ว่าโอเคไหม คุยกับเขาแล้วไปกินเหล้าต่อ มีลุกมาให้ยาตามเวลา ทำเอาน้องชายผมขำ แต่เขาก็เข้าใจ เขาเคยมีแมว ถ้าเขาไม่เคยเลี้ยงสัตว์ เขาอาจไม่เข้าใจก็ได้ .. ตลกตอนที่เขามาถึงกัน น้องสะใภ้เขามาโผล่ดูลูกบ๊าคก่อนเลย แล้วว่า ยังกระโดดไหว หุ่นยังดีอยู่เลย งี้ยังอยู่ได้อีกนาน .. เขาดู FB ของผมอยู่บ้าง เลยรู้เรื่องที่บ๊าคป่วยหนักเมื่อเดือนก่อน
วันนี้เมาง่าย คนละ 250 ml ก็เมาปลิ้น ตอนที่ตกลงกันว่าเลิกเหอะ ผมจะหลับคาโต๊ะ อาการผมตอนนั้นคือเซแซดๆ แล้ว แต่น้องผมเขาฝึกบ่อย ยังสบายๆ แค่กินไม่อร่อยแล้ว เลิกดีกว่า .. ตอนที่เริ่มกิน เจ้าหลานชายเขามาร่วมวงด้วย ขอใช้ถ้วยแบบเดียวกับที่เราใช้กันแต่เป็นน้ำเปล่า ถ้วยที่ว่า เป็นถ้วยชาเล็กๆ ด้านข้างมีภาพเรท R ที่น้องผมซื้อมาฝากตอนไปเที่ยวเกาหลี ถ้าจำไม่ผิด ดูเหมือนน้องสะใภ้จะเป็นคนเลือกให้ กวนตีน ก็รู้ๆ อยู่ ว่าผมโสด .. มันพอดิบพอดี perfect กับการกินแบบเพียวๆ ถ้วยชาจีนที่ผมมี จะเป็นแบบบางมากๆ และเล็กมาก เคยเอามาใช้อยู่พักนึง มันก็ได้อารมณ์อยู่เหมือนกัน แต่ตอนเมาแล้วมักรินล้นออกมา น่าเสียดาย ถ้วยชาจีนอีกแบบก็ใหญ่เกินไป ขนาดมาตรฐานน่ะครับ
แต่มาดของเจ้าหลานชายในวงเหล้า ใช้ได้เลยว่ะ ผมก็บอกพ่อเขาว่า ต้องเป็นทหาร พ่อเขาก็ว่าใช่มะ อยู่ที่จะสอบเข้าได้รึเปล่าเท่านั้นแหละ .. เราเคยคุยกันเรื่องทหารอากาศ ผมไม่ได้ดูถูกนายร้อย จปร. นะครับ ความจริงคือ นักเรียนนายร้อย ไม่ใช่กลุ่มเด็กที่หัวกระทิที่สุด เด็กที่เก่งกว่ามักจะเลือกเรียนหมอกับวิศวะ นอกเสียจากว่าชอบจริงๆ หรือมาจากครอบครัวตำรวจ ทหาร ซึ่งดูไม่น่ากลัวเท่าไหร่ เด็กที่เก่งและชอบจริงๆ มีไม่มาก เด็กที่ถูกบังคับมา คงพยายามให้สอบไม่ได้เสียมากกว่า .. ที่มองไปที่ทหารอากาศ เพราะเราพุ่งเป้าไปที่ วิศวกรรมการบิน ถ้าคุณสนใจเรื่องนี้ คุณสามารถไปหาดูข้อมูลต่อได้ในเนท .. สำหรับผมมัน perfect เราสามารถชักจูงให้ไอ้หลานชายชอบได้แล้ว ที่เหลือคือสติปัญญาของเขา ซึ่งพูดได้ยากกับวัยไม่ถึง 4 ขวบ อย่าขำเลยครับ ทุกวันนี้เราต้องวางแผนอนาคตกันตั้งแต่เกิด คนมีลูกแล้วคงรู้ดี
ทำให้ผมนึกถึงคุณอาซิสเตอร์ของผม ในครั้งนึงที่คุยกัน เมื่อเราลองมาไล่ดูว่าในตระกูลของเรา มีอาชีพอะไรกันบ้าง เราก็พบว่าเรามี ครู นักบวช นักธุรกิจ วิศวกร เลขานุการ โปรแกรมเมอร์ พนักงานบริษัท เด็กโรงงาน(นี่ผมเอง) ยังไม่มีหมอกับทหารเลย ตัดเรื่องหมอไปได้ มันเป็นอาชีพที่ขาดความสุขเกินไปในความคิดของพวกเรา คุณอาว่าก๋งก็เป็นทหาร มีทหารสักคนก็คงดีเนอะ เพราะงั้นไอ้หลานชายเอ๊ย เป็นทหารให้ได้นะ ..
เรื่องตลกคือ น้องชายผมก็เคยอยากเรียนนายร้อย เขาทุ่มเทกับตำรับตำราเฉพาะทาง ฟิตร่างกายให้พร้อม ซิตอัพ ดึงข้อ วิดพื้น ว่ายน้ำ ทำทุกอย่างอยู่เป็นปี ปัญหาอย่างเดียวของเขาคือสายตาสั้นมาก และยุคนั้นโรงเรียนนายร้อยยังไม่ยอมรับเด็กที่ทำเลสิกมา ซึ่งจัดว่าเป็นโชคดีของเขาบนเส้นทางสายอื่น .. ที่เขาว่า ลูกมักถูกสั่งให้ทำตามความฝันของพ่อแม่ นี่อาจจริง แต่พวกเราไม่ใช้การบังคับ แต่สร้างสภาพแวดล้อมในการจูงใจให้เขาชอบ สักวันเขาจะไม่ได้แค่ชอบแต่รักมันเลย และพยายามด้วยตัวเอง
วันนี้ ผมจัดได้ว่าหมดสภาพจริงๆ และรู้ว่าการชวนลูกบ๊าคไปฉี่มันยากเย็นแสนเข็ญ ผมคงไม่มีปัญญาแล้วล่ะ ไม่ต้องฉี่ละกันคืนนี้ แต่ต้องระวังตัวเองป่วยด้วย อากาศค่อนข้างเย็น พ่อเคยเล่าให้ฟังว่า ก๋งจะเตือนเสมอ ต้องนอนห่มผ้าไม่อย่างนั้นจะป่วย ยิ่งถ้ากินเหล้ามา มันจะร้อน แต่พอนอนไปนานๆ มันจะเย็นหน้าอกแล้วจะทำให้ป่วย ก๋งเคยเป็นทหาร เดินทัพช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อนของท่านต้องป่วยตายไปหลายคนเพราะเรื่องนี้
เมาโว๊ย แต่ยังไม่ลืมคำของก๋ง จึงใช้เรี่ยวแรงที่เหลือ ทั้งหมดที่มี ลากเสื่อมาปู เอาหมอนกับผ้านวมมาด้วย ใช่ครับผ้านวม ที่หน้าหนาวคราวนี้ยังไม่เคยลากมาใช้เลย เพราะรู้ตัวว่าเมามาก ควรห่มผ้านวม เวลาหนาวอาจไม่รู้ตัว เดี๋ยวหนาวตายกันพอดี .. ลูกบ๊าคเหรอ ผมห่มผ้าให้อีกผืน เขาขยับตัวอย่างพอใจ .. โอเค หลับกันได้.

ไม่มีความคิดเห็น: