While I thought that I was learning how to live, I have been learning how to die - Leonardo da Vinci

บทความเหล่านี้ หากเป็นประโยชน์กับท่าน ผมก็ดีใจ หากจะนำไปใช้ที่อื่น ผมก็ยินดี แต่กรุณาอ้างอิงที่มานิดนึง จัดเป็นมารยาทพื้นฐานในการใช้บทความของผู้อื่นใน internet หลายเรื่องผมต้องค้นคว้า แปลเอกสาร ตรวจสอบความถูกต้อง กลั่นกรอง เรียบเรียง ใช้เวลา ใช้สมอง ใช้ประสบการณ์ การก๊อปไปเฉยๆ อาจทำให้คนอื่นคิดว่าคนที่นั่งคิดนั่งเขียนแทบตายห่ากลายเป็นคนก๊อป ผมเจอเพจที่เอาเรื่องของผมไปตัดโน่นนิดนี่หน่อยให้เป็นงานของตัวเอง ไม่อ้างอิงที่มา ไม่ละอายใจหรือ .. สงสัยอะไร comment ไว้ ผมจะมาตอบ แต่ถ้าใครมาแสดงความไพร่หรือด่าทอใครให้พื้นที่ของผมสกปรก ผมจะลบโดยไม่ลดตัวลงไปยุ่งเกี่ยว อยากระบายไปหาที่ของตัวเองครับ หมายังขี้เป็นที่เป็นทางเลยจ้ะ นี่ก็เคยเจอ ไม่รู้พ่อแม่สอนมายังไง!!!

วันเสาร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2564

หลังฉีดซิโนแวค เป็นยังไง

4-5 ชั่วโมง จะง่วงจนทำอะไรไม่ได้ กาแฟไม่ช่วย
7-8 ชั่วโมง มีไข้เล็กน้อย กินพารา 500mg 1 เม็ดพอ
24~ ชั่วโมง ปวดเมื่อยทั้งตัว มีไข้ ปวดกบาล แดกพารา

จบครับ ที่เหลือผมอยากพล่ามกับด่าคน !!!

การเตรียมตัวก่อนฉีดวัคซีนของผมคือ นอนเที่ยงคืนปกติ เช้าไม่ไปทำงาน! ตื่นมา 9 โมง กินกาแฟแก้ว มองหญ้ารกๆ หน้าบ้านแล้วกังวล ถ้าฉีดแล้วป่วยเมื่อไหร่จะได้ตัด เลยตัดไปครึ่งชั่วโมง ใช้แรงไม่มากด้วยใช้ใบมีด จากนั้นกินข้าวไปครึ่งท้อง(จะได้ไม่ง่วงตอนขับรถ) อาบน้ำแต่งตัว ออกไปตอน 11 โมง

ใช้เวลาชั่วโมงครึ่ง! เพราะหลงเมืองชล ทีแรกกะจะไปพร้อมกันพ่อแม่ลูก ตอนรู้ว่าเขาเปลี่ยนที่ฉีดไปเป็น ศาลาประชาคม เทศบาลบ้านสวน ผมก็นั่งดูแผนที่ แคปใส่ไลน์พ่อ พ่อบอกเขารู้จัก ผมก็จบว่าไม่ต้องจำละ

คืนวาน แม่บอกต้องไปศูนย์มะเร็ง ออก 6 โมงเช้า งั้นต่างคนต่างไปเหอะ ผมก็ไม่ดูใหม่ มั่นใจแผนที่ในหัวที่จำผิดเสียเหลือเกิน มันเลยต้องหลงไง พอรู้ตัวว่าหลง ผมจอดรถเปิด map โทรศัพท์ ก็ใช้ไม่เป็น(เหี้ย ดูยังไงวะ) แวะถามร้านข้าวเถอะ ทุกครั้งที่หลงทาง ผมจะจบที่การจอดถามทางกับร้านค้า

ขับดุ่มๆ ไปตามทางที่เขาบอกก็เจอเทศบาล ช่างใหญ่โตหรูหราจนไม่กล้าเทียบกับ อบต ใกล้บ้าน ผม print ใบนัดหมอพร้อมให้ตัวเองกับพ่อแม่ถือไปคนละใบ เพราะไม่สะดวกใจกับการถือโทรศัพท์คามือ แถมไลน์หมอ error ตลอด น่าจะใกล้จำเป็นต้องเปลี่ยนโทรศัพท์แล้วมั๊ง เสียดายตังค์ดิ เก็บไว้สอยกีต้าร์ดีกว่าไหม(ค่าไม่ลด) ไม่ใช้เงินไปกับของที่หมดค่าได้ ย่อมดี ทุกวันนี้มีแต่เสียเวลาอ่านข่าวนั่นนี่

เริ่มจากได้แบบสอบถามมากรอก 1 แผ่น ปากกา 1 แท่ง พ่อแม่ผมเพิ่งมาถึงก่อนหน้าสักครู่ เลยนั่งเรียงกันพ่อแม่ลูก กรอกเสร็จไปนั่งรอคิว ผมได้คิว 19 แต่ละคนใช้เวลาราว 5 นาที คุณพยาบาลถามผมมีโรคอะไรไหม ผมบอกโรคหัวใจครับ เขาถามโรคเดียวเหรอ! (โรคเดียวก็แย่แล้วนาเจ้) แล้วหยิบไซริ๊งค์ที่บรรจุวัคซีนแล้วออกมาจากกล่องรักษาความเย็น ซึ่งกับคนกลัวเข็ม ถึงมันจะเล็กแค่ไหนก็ใจสั่น (ถ้าเป็นทวน จัดมา โดนแทงหลายรอบละกู เด็กๆ ว่ะ)

ปริมาณวัคซีน 0.5 ml เมื่อใส่ไซริ๊งค์เล็กจิ๋ว (แม่มปาเข้าไปครึ่ง) ดูเยอะจัง! ขณะฉีด เขาคอยถามว่าเจ็บไหม ผมว่ายุงกัดเจ็บกว่า ด้วยความที่เข็มมีขนาดเล็กมาก จนสงสัยถึงวิธีการผลิต, inner dia กี่ micron วะ, ขึ้นรูปหรือเจาะรู, เอาอะไรเจาะ, super drill เล็กสุด 0.3mm, ลวด wire cut เล็กสุด 0.25 mm, outer dia ต้องงานเจียร์แน่ๆ (เดี๋ยวต้องไปหาอ่านละ) เขาดันเข็มช้าๆ ดันยาช้าๆ มือเบาจนแทบไม่รู้สึกอะไร ผมเทียบกับการโดนเจาะเลือดด้วยเข็มเบอร์ 23 เจ็บกว่านี้ 100 เท่า!

ฉีดเสร็จให้นั่งรอดูอาการ 30 นาที ผมหลับตาเข้าสมาธิ (สำหรับผม มันเป็นวิธีรอเวลาที่ชอบกว่าการฟุ้งซ่านกับโทรศัพท์) น้องพยาบาลมาพูดแนะนำวิธีดูแลตัวเองหลังรับวัคซีน ถ้าตั้งใจฟังและทำตามก็จะโอเคแหละ ผมกับพ่อแม่ ไม่มีอาการใดๆ ขับรถกลับฉะแบบถนนโล่งๆ สงสัยคนไปฉีดวัคซีนกันหมด

แต่ผมแวะชอปปิ้งก่อนเข้าบ้าน ถือของหนักเลยปวดกล้ามมัดที่ฉีดเล็กน้อย อาการง่วงสัสตามมาหลังฉีดไปราว 4-5 ชม น้องผู้ชายที่ทำงานก็เป็นแบบเดียวกัน ผมกิน brilinta กับ zimva มื้อเย็น ตามด้วยกาแฟ เพราะยังไม่อยากนอนเร็วขนาดนี้ และสบายใจว่า brilinta จะช่วยชนกับกาแฟให้ได้

ราว 2 ทุ่มกว่ารู้สึกตัวรุมๆ แต่ไม่แน่ใจ ผมรอจน 3 ทุ่ม มั่นใจแล้วถึงกินพารา 500 mg ไปเม็ด พอ 4 ทุ่มก็ต้องนอน เพราะกาแฟไม่ช่วยอะไรเลย (นั่งสะลึมสะลือมาแต่เย็นจนคิดว่ากูจะทนไปทำไม) เช้าตื่นมาทำงานได้ตามปกติ ยังมีเพลียๆ นิดหน่อย ปวดเมื่อยตามตัวเล็กน้อย บ่ายรู้สึกตัวร้อนก็กินพาราไป ดีที่ได้รู้ว่าภูมิคุ้มกันยังทำงานได้อยู่

 

ที่ฉีดมาเป็นซิโนแวคทั้งบ้าน แม่ไอ่หมอก็จัดซิโนแวคไปเมื่อวานเหมือนกัน ปัจจุบันมีคนฉีดมันมาหลายร้อยล้านคนแล้ว คุณว่าคนจีนที่มีจำนวนประชากร 1400 ล้านคน ฉีดอะไรกัน ลองดูประสิทธิผลสิ ซิโนแวค(เอกชน)กับซิโนฟาร์ม(รัฐวิสาหกิจ) มันตระกูลเดียวกันนะจ๊ะ

เรามีเชื้อสายจีนกันไหมล่ะ ผมว่าคนพื้นเมืองไทยแท้ตั้งแต่สมัยทวาราวดีคงมีเหลือไม่มาก อย่างน้อยยีนส์มันสายพันธุ์เดียวกัน ว่าตามระบบพันธุกรรม เราเป็นคนเอเชีย จงภาคภูมิใจในความเป็นเอเชีย ไม่ใช่ไปบ้าฝรั่ง ถ้าของมันดีนัก ทำไมเปอร์เซนต์การตายถึงยังเยอะกว่า คิดสิคิด

 

ตามที่คนอ่านข่าวทุกวันน่าจะรู้ (ไม่นับ fake news ที่คนปล่อยก็เหี้ย คนเชื่อก็โง่)

ตอนนี้วัคซีนเจ็กปลอดภัยที่จะฉีดกับผู้สูงอายุแล้ว ผลข้างเคียงน้อยกว่าวัคซีนตัวอื่นมาก แต่ต้องกระตุ้นเข็ม 2 ภายใน 3 สัปดาห์ แอสตร้าเหมาะกับผู้สูงอายุ ฉีดแล้วไม่เป็นอะไรมาก แต่กับคนหนุ่มสาวกลับมีผลข้างเคียงรุนแรงกว่า อันนี้เข็ม 2 ห่างไปได้ 10-12 สัปดาห์

เมื่ออยากจะเทียบเปอร์เซนต์ของภูมิคุ้มกันที่ขึ้นเร็วช้า ก็ควรเทียบเปอร์เซนต์อันตรายจากผลข้างเคียงควบคู่ไปด้วย คนฟังจะได้พิจารณาเลือกรับความเสี่ยงได้อย่างครอบคลุม

ไฟเซอร์ ฉีดที่ญี่ปุ่นไป 6 ล้านกว่าคน ตาย 85 คนสิงคโปร์เจอผลข้างเคียงรุนแรงจากเข็มแรก จนไม่ยอมฉีดเข็ม 2 หรือมันไม่เหมาะกับเจ็ก? อเมริกาบริจาค(เอาหน้า) มาให้กลุ่มโคแวกซ์เพราะมันใกล้จะหมดอายุรึเปล่า? (จงเสียสละให้ไอ่พวก 3 กีบไป) ในขณะที่คนอเมริกันฉีดกันไปยังไม่ถึง 50% ซึ่งส่วนหนึ่งไม่ยอมฉีด เพราะกลัวผลข้างเคียงจากวัคซีน

โมเดอร์น่ากับจอห์นสัน ไม่เคยอยู่ในความสนใจ และผมคงไม่พูดถึง เขาแบบเปิดโรงงานมาก็ผลิตวัคซีนโควิดเป็นอย่างแรกกันเลยทีเดียว ถ้าเทียบกับบริษัทที่ผลิตยาและวัคซีนมาโดยตรงหลาย 10 ปี คงไม่มีอะไรให้เทียบ ใครมั่นใจก็เชิญเถิด รอไป จ่ายตังค์กับวัคซีนทางเลือกที่ศรัทธา แล้วจะติดเชื้อก่อนไหม ตอนนี้เชื้อโรคแพร่กระจายไปทั่ว

 

อ่อ WHO ผ่านวัคซีนทุกตัวให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินทั้งหมดนะ เมื่อการปล่อยข่าวลวงจะโดนดำเนินคดี เหี้ยเลยพูดความจริงแต่บอกไม่หมด หรือแสร้งตีความผิด ซึ่งผมวัดค่าคนที่พูดความจริงไม่หมดว่าไม่ต่างกับการโกหก ส่วนคนที่ชอบโกหกตอแหลเป็นสันดาน ก็ปล่อยให้เขามีความสุขกับสิ่งนั้นไป ศีลต่างกัน ย่อมนิยมชมชอบต่างกัน

ตอนนี้แอสตร้าผลิตไม่ทัน ส่งมอบครั้งหน้าวันที่ 14 ส่วนจีนให้ซิโนแวคมามาก ฉีดเก็บสถิติกันมาเยอะแล้วว่าปลอดภัยกับคนป่วย คนแก่ เลยจัดมาฉีดกันก่อน ถ้าใครไม่สบายใจก็เลื่อนรอที่ชอบๆ ไป แต่ยังไงก็ควรฉีด คนที่ติดไม่มีใครคิดว่าจะติด คนที่ตายก็ไม่คิดว่าจะตายเหมือนกัน อย่างน้อย ลดความรุนแรงของโรค แต่ไม่ได้ทำให้ไม่ติดนะ ระวังให้มากเท่าเดิมแหละครับ

 

เมื่อครู่ไปขอพาราคุณพยาบาลประจำโรงงานเพราะรู้สึกมีไข้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เลยถามเขาว่ากินโวลทาเรนได้ไหม เขาบอกรอสัก 7 วัน ให้กินแต่พาราอย่างเดียวไปก่อน สำหรับซิโนแวคเข็ม 2 เขาแนะนำให้กินพาราไว้เลย จะมีไข้ค่อนข้างมาก อาการข้างเคียงหนักกว่าเข็มแรกเยอะ อันนี้เพื่อนบุคลากรทางการแพทย์หลายคนก็พูดตรงกันว่า เข็มแรกไม่เป็นไร เข็ม 2 มีไข้สูงไป 1-2 วัน ส่วนอาการง่วงสัส หลังฉีด 4-5 ชั่วโมง ก็เป็นปกติกับคนทั่วไป จึงควรกะเวลาถ้าจะต้องขับรถเอง

กาแฟ ถ้าแดกประจำก็แดกไป ถ้าไม่ได้แดกทุกวันก็อย่ากระแดะ เหล้าเบียร์ให้งด 3 วัน ผมไม่ติดเหล้า ไม่มีปัญหา ปัญหากลับอยู่ที่บุหรี่ คำแนะนำของหมอคือให้งด 24 ชั่วโมง คำขู่คือ มันจะทำให้ภูมิคุ้มกันขึ้นไม่ดี และทำให้เส้นเลือดหดตัว อาจอุดตันตายห่าได้

ผมสูบที่บ้านไป 3-4 มวน ตั้งแต่ตื่น ขับรถชั่วโมงครึ่งโดยไม่สูบในรถ(ขี้เกียจดูดฝุ่น) สูบอีก 1/3 มวนที่ลานจอด ฉีดวัคซีนบ่ายโมงนิดๆ อาการดี กลับมาถึงรถเกือบบ่าย 2 ก็สูบไปครึ่งมวน ขับรถกลับฉะอีกชั่วโมงนึง จอดรถห้างดูดไปมวน ตรงนี้แหละที่เริ่มเสียดหน้าอก! ก็หยุดครับ อยากได้กลับไปตายที่บ้าน แล้วจะเป็นผีเฝ้าบ้าน! ผมมันดื้อมากๆ แหละ ถ้าทำได้ก็ไม่ควรสูบ


วันที่ 2 กรกฎาคม นัดฉีดเข็ม 2 ผมออกจากบ้าน 11 โมง วันนี้ไปรถผม พ่อ แม่ ลูก เมืองชลถนนโล่งจนผมงง กลายเป็นรถทั้งหลายไปอัดกันอยู่ที่ฉีดวัคซีน รถติดจนไม่ขยับ คนเป็นพันมั๊ง! คราวก่อนที่มา เจอคนหลักร้อย ผมใช้ไสยศาสตร์นิดหน่อยโดยบอกรถผมว่า ขอที่จอดให้ป๊าที่นึงนะลูก ก็ได้ที่จอดใต้อาคาร ไม่งั้นคงต้องเดินเป็นกิโลแน่ๆ


ทางโรงพยาบาลมีการแยกคนที่จะฉีดเข็มแรกไว้ส่วนหนึ่ง ซึ่งเยอะมากๆ นัดฉีดเข็ม 2 ให้นั่งรออีกส่วนหนึ่ง จากนั้นเรียกสลับกันไป ตามเวลาที่นัดไว้ ก็ใช้เวลาไม่มากครับ ตอนเข็มแรกมีแต่ซิโนแวค วันนี้มีแอสตร้าด้วย เขาก็ฉีดซิโนแวคให้คนที่ฉีดเข็มแรกเป็นซิโนแวค แอสตร้าฉีดให้คนที่รับเข็มแรก ฉีดเสร็จให้รอดูอาการ 20 นาที ปล่อยกลับบ้าน

อาการวันนี้คือง่วงมาก หลังฉีดไป 1 ชม คือตอนขับรถกลับนั่นแหละ มันไม่เชิงว่าอยากหลับ สติตื่นดี แต่หนังตาจะปิดน่ะครับ ผมเลยไม่แน่ใจนักว่าเป็นเพราะวัคซีน หรือเพราะผมไม่คุ้นกับการขับรถทางไกลตอนกลางวัน ปัญหาคือมีกาแฟติดรถแต่กินไม่ได้นี่แหละครับ

ก็แวะซื้อของแบบรีบๆ โทรเลื่อนนัดอำเภอที่รับปากเขาไว้ว่าจะเอาปืนไปให้ตรวจ เกือบ 4 โมงเย็นแล้วตอนผมถึงตลาด ไม่ทันแล้ว ถึงบ้าน 5.30 อาบน้ำนอนครับ ดึกๆ มีปวดไหล่นิดหน่อย กินพารา อีก 2 วันถัดมามีไข้ ปวดหัว วันที่ 3-4 มีน้ำมูกไหล ผมหลอนเลยว่าไปติดโควิดมารึเปล่าวะ กินน้ำขิงไปวันละ 2 ซอง 2 วันก็หาย

ผมมาเขียนต่อนี่ในวันที่ 12 ซึ่งอาการปกติดี สำหรับคนมีโรคหัวใจเป็นโรคประจำตัวน่ะนะ วัคซีนไม่ได้กันติด แต่กันตายได้ ยังไงผมก็ไม่ได้อยากป่วย จึงยังระวังตัวเท่ากับตอนที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ถ้าคุณสังเกต เราอยู่กับโควิดมาปีครึ่งแล้ว คนบางกลุ่มไม่ติด บางกลุ่มติดแล้วแพร่เชื้อ มันคือความเป็นจริงที่เห็นได้ เรียนรู้ได้ ถ้าใจไม่หมกมุ่นกับความเกลียดชังหรือโง่เกินไป.

ไม่มีความคิดเห็น: