While I thought that I was learning how to live, I have been learning how to die - Leonardo da Vinci

บทความเหล่านี้ หากเป็นประโยชน์กับท่าน ผมก็ดีใจ หากจะนำไปใช้ที่อื่น ผมก็ยินดี แต่กรุณาอ้างอิงที่มานิดนึง จัดเป็นมารยาทพื้นฐานในการใช้บทความของผู้อื่นใน internet หลายเรื่องผมต้องค้นคว้า แปลเอกสาร ตรวจสอบความถูกต้อง กลั่นกรอง เรียบเรียง ใช้เวลา ใช้สมอง ใช้ประสบการณ์ การก๊อปไปเฉยๆ อาจทำให้คนอื่นคิดว่าคนที่นั่งคิดนั่งเขียนแทบตายห่ากลายเป็นคนก๊อป ผมเจอเพจที่เอาเรื่องของผมไปตัดโน่นนิดนี่หน่อยให้เป็นงานของตัวเอง ไม่อ้างอิงที่มา ไม่ละอายใจหรือ .. สงสัยอะไร comment ไว้ ผมจะมาตอบ แต่ถ้าใครมาแสดงความไพร่หรือด่าทอใครให้พื้นที่ของผมสกปรก ผมจะลบโดยไม่ลดตัวลงไปยุ่งเกี่ยว อยากระบายไปหาที่ของตัวเองครับ หมายังขี้เป็นที่เป็นทางเลยจ้ะ นี่ก็เคยเจอ ไม่รู้พ่อแม่สอนมายังไง!!!

วันจันทร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

เหล้าบ๊วย Choya Umeshu ขวดเขียว




สังเกตไหมครับ ไม่ว่าจะจีน อียิปต์ อารยธรรมเก่าแก่ทั้งหลาย มีแต่คำว่า ไวน์ .. ไม่เห็นจะมีวิสกี้
ไวน์ มาจากการหมักบ่ม .. วิสกี้ มาจากการกลั่น แล้วหมักบ่มอีกที รสชาด แตกต่างอย่างสิ้นเชิง แต่ที่แน่ๆ ไวน์กินไม่เมา วิสกี้ เมาชัวร์ .. สำหรับพวกคอเหล้า ขี้เมาทั้งหลาย อย่าได้คิดว่าไวน์จะทำให้เมาได้ ผมกับน้องชายเคยลองมาแล้ว 2 คน 3 ขวด ไม่รู้สึกอะไรเลย (เซ็งโคตรๆ)
แต่วันนี้ผมจะมาพูดถึงไวน์ที่กินแล้วเมากลิ้ง ที่สำคัญ รสชาดเยี่ยม ไม่บาดคอ อร่อยที่สุดในกลุ่มน้ำเมาที่ผมเคยเจอ ผมขอบังอาจแนะนำให้ลองสักครั้ง แล้วจะซาบซึ้ง ตรึงใจ กับไวน์แบบโบราณๆ
ผมไม่เคยสนใจเหล้าญี่ปุ่นมาก่อนในชีวิต เจ้าน้องชายมักจะสรรหาอะไรมาให้ได้ลิ้มลอง คราวก่อนเขาเล่าให้ฟังเรื่องเหล้าบ๊วย ผมก็เออๆ คิดว่ามันคงเด็กๆ ไม่เท่าไหร่มั๊ง


แต่พอได้ลองเจ้า Choya Umeshu ขวดสีเขียว .. ต้องบอกว่าประทับใจจริงๆ รสชาดเข้มข้น ถึงใจ หวานเปรี้ยวติดลิ้น มีกลิ่นแอลกอฮอล์หน่อยๆ ชุ่มคอ ชื่นใจ .. มันเหมือนเหล้าจีนในความคิด เมื่อเราดูในหนังจีนยกไหขึ้นซด คิดมานานว่า มันคงอร่อยแบบนี้แหละ แต่ด้วยความที่ไม่รู้ภาษาจีน เลยหาเหล้าจีนในความคิดไม่เคยเจอ
ผมว่าคนที่ไม่กินเหล้า ก็ยังชอบ  มีแอลกอฮอล์ 15% .. น้อย จนกลัวว่าจะไม่เมา แต่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมเมาหัวทิ่ม กับเหล้า 45 % alc ทั่วไป ผมอาการดีกว่านี้ ที่ 350 ml .. ตัวที่ทำให้เมา ไม่ใช่แอลกอฮอล์เป็นหลัก แต่คือความหวานในส่วนผสม ในขณะที่รสชาดไม่หวานพลุ่งพล่าน มันกลมกล่อม พอเหมาะ .. น่าทึ่งดีครับ
ส่วนผสมของมันมี .. บ๊วย-น้ำตาลกรวด-เหล้าขาว ในอัตรา 1-1-2 การจิบไป 1 จอก เท่ากับเล่น Jack Daniel ไป 2 จอก .. กินเพลิน ลื่นคอ สาวๆ น่าจะชอบ และผมคาดว่าถ้าพวกเธอคออ่อน เป๊กเดียวก็เมาแอ๋ (ราว 30 ml) แต่ไม่เหมาะที่จะกินมากๆ ในคราวเดียว .. น้ำตาลมันสูงมากจนน่ากลัวว่าตับอ่อนจะต้องทำงานหนักเกิน
อ้อ มีขายตาม foodland นะครับ
หรือถ้าคุณจะลองทำเอง .. ผมอ่านผ่านๆ ในเนท เห็นมีคนลองทำเองอยู่เหมือนกัน โดยซื้อบ๊วยโครงการหลวง ลูกเขียวๆ น่ะครับ เอาขั้วออก เอาเข็มทิ่มๆ เนื้อด้วยครับ จะได้แลกเปลี่ยนสารละลายได้ดีขึ้น + น้ำตาลกรวด + และเหล้าขาวญี่ปุ่น พวกวอดก้าก็เป็นเหล้าขาวเหมือนกัน ใช้แทนกันได้ แต่ 28 ดีกรีบ้านเรามันเหม็นไปหน่อยนะผมว่า ไม่น่าจะ work
สัดส่วนก็ตามข้างต้นครับ เอาบ๊วยเรียงลงไป ตามด้วยน้ำตาลกรวด สลับชั้นไปเรื่อยๆ ตามด้วยเหล้า ใส่ภาชนะมีฝาปิด แล้ววางทิ้งไว้ 3 เดือน ก็เอามาดื่มได้ .. รอไหวเร้อ ซื้อเอาเถอะครับ เย็นนี้ก็ได้ลองละ .. อีกอย่าง ดูจากราคาต้นทุน ผมว่าทำเองไม่คุ้มมั๊ง
ผมมีส่วนผสมของเขามาฝากด้วยครับ น่าจะมีความแม่นยำมากกว่า
Ingredients
  1.
ume, 1Kg (choose ume with unmarked skins)
  2.
Rock sugar, 0.5-1Kg (the lower the sugar content, the longer your umeshu will take to be drinkable)
  3.
White liquor, 1.8l ("white liquor" is the Japanese term for clear, unflavoured ethyl alcohol intended for human consumption, but pretty much anything with a high alcohol content will do -- brandy or whisky is fine)
multiply the amounts of the other ingredients by however many kilograms of ume you may be using.
   * Prepare a glass or other non-reactive vessel by disinfecting it in boiling water and drying it thoroughly.
   *
Wash the ume and carefully wipe off any water (again, any remaining water will cause them to go moldy later on).
   *
Remove any stalks with a knife or skewer.
   *
Pierce the skins of each ume with a fork or skewer in several places.
   *
Place a layer of ume and a layer of sugar in the vessel in turn until you run out of ume. It should look something like this at the end.
   *
Pour in the white liquor and seal the vessel.
   *
Store it in a cool, dark place for at least three months, occasionally shaking it.
You can start drinking it after the three months are up, but there's no problem with leaving it for a year or more. You should, however, remove the ume after six months or so, or you may find your liquor to resemble jam more than anything else (in fact, if you add in some sugar, the ume can be turned into a quite acceptable jam for use on your morning toast).
ขอให้มีความสุขในการดื่มครับ.

3 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

อร่อยมาก เรากินบ่อย

Unknown กล่าวว่า...

ดื่มเหล้าหมดแล้วเราจะซื้อ เหล้ายี่ห้อ อะไรเติม

Unknown กล่าวว่า...

กินเหล้าในขวดหมดเเล้ว ก็ซื้อขวดใหม่ไปตั้งไว้เหมือนเดิม
ดูดีกว่าเอาเหล้ายี่ห้ออื่นไปใส่