While I thought that I was learning how to live, I have been learning how to die - Leonardo da Vinci

บทความเหล่านี้ หากเป็นประโยชน์กับท่าน ผมก็ดีใจ หากจะนำไปใช้ที่อื่น ผมก็ยินดี แต่กรุณาอ้างอิงที่มานิดนึง จัดเป็นมารยาทพื้นฐานในการใช้บทความของผู้อื่นใน internet หลายเรื่องผมต้องค้นคว้า แปลเอกสาร ตรวจสอบความถูกต้อง กลั่นกรอง เรียบเรียง ใช้เวลา ใช้สมอง ใช้ประสบการณ์ การก๊อปไปเฉยๆ อาจทำให้คนอื่นคิดว่าคนที่นั่งคิดนั่งเขียนแทบตายห่ากลายเป็นคนก๊อป ผมเจอเพจที่เอาเรื่องของผมไปตัดโน่นนิดนี่หน่อยให้เป็นงานของตัวเอง ไม่อ้างอิงที่มา ไม่ละอายใจหรือ .. สงสัยอะไร comment ไว้ ผมจะมาตอบ แต่ถ้าใครมาแสดงความไพร่หรือด่าทอใครให้พื้นที่ของผมสกปรก ผมจะลบโดยไม่ลดตัวลงไปยุ่งเกี่ยว อยากระบายไปหาที่ของตัวเองครับ หมายังขี้เป็นที่เป็นทางเลยจ้ะ นี่ก็เคยเจอ ไม่รู้พ่อแม่สอนมายังไง!!!

วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เมื่อลูกชายล้มหมอนนอนเสื่อ / Fri. 8 Nov., 2013


ผมกลับบ้านตอนเที่ยงตามปกติ เจอลูกบ๊าคอ้วกเต็มบ้าน 3 กองใหญ่ๆ ฉี่ไว้ 2 ที่ แถมยังลุกไม่ไหว นอนอยู่บนกองอ้วก กองที่เป็นน้ำลายเหนียวๆ และน้ำลายไหลยืด .. โอเค ผมจัดการลากเขาออกมา เช็ดอ้วกทั้งหมดกับฉี่ได้ถุงใหญ่ นี่คืออาหารมื้อแรกของผมในวันนี้ จากนั้นเอาผ้าขนหนูหมาดๆ เช็ดตัวไอ้ลูกชายหลายรอบจนสะอาดดี ให้ ondansetron 8 mg. แก้อาเจียน ตามด้วย vetmedin 5 mg. 2 เม็ด อีก 20 นาทีต่อมา ต่อด้วย ulsanic 1000 mg. เคลือบกระเพาะ ..  vetmedin คือยาที่ช่วยให้หัวใจบีบตัวแรงขึ้น อาจออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่ เพราะต้องกินก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง แต่ก็คงดีกว่าให้เขาต้องนอนปวดท้อง ทรมาน โดยไม่กิน ondansetron+ulsanicและดีกว่าไม่กิน vetmedin เพราะเขาเจอหนักแล้ว
ผมกลับไปทำงานแล้วกะว่าบ่าย 3 จะไปคุยกับคุณหมอวรรณพงศ์ .. เมื่อพฤหัสที่แล้ว เขามีท้องเสีย อาเจียน ผมพาไปหาหมอตรวจเลือดด้วย คุณหมอฉีดยาให้ 1 เข็ม ให้ baytril 150 mg.กินวันละเม็ดครึ่งตอนเช้า เป็นยาฆ่าเชื้อ, ondansetron 8 mg. ใช้เมื่อมีอาการพะอืดพะอม ทำท่าจะอ้วก ช่วยลดการเคลื่อนตัวของลำไส้, ulsanic 1000 mg. เช้า-เย็น เคลือบกระเพาะ อาการทั้งหมดหายไป  หรือมันยังไม่หายดี เชื้อโรคยังอยู่ .. ค่าเลือดที่ได้ creatinine 1.9 BUN 31 ซึ่งเท่ากับคราวก่อน ค่าอื่นปกติหมด
ผมต้องใช้ความพยายามอย่างมาก จดจ่อกับงานตรงหน้า จัดการให้ลูกน้องเอาไปทำต่อได้ บ่าย 2 ผมก็อยู่ไม่ได้แล้ว เดินเข้าไปบอกเจ้านายคนไทยว่า ผมขออนุญาติกลับบ้านก่อนนะครับ เขาพยักหน้า ก่อนที่เขาจะถามอะไรต่อ ผมก็ถอยออกมา (เจ้านายญี่ปุ่นไปญี่ปุ่นน่ะครับ เข้าพรุ่งนี้ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วผมลาครึ่งวัน ผมบอกเขาว่าหมาไม่สบาย เพราะหมาในคลีนิคมันเห่า จะโกหกยังไงให้ดูดีล่ะ พูดความจริงยังดีกว่า)
กลับมาบ้าน บ๊าคน้ำลายหยุดไหลแล้ว ผมนั่งคุยกับเขาพักใหญ่ ตอนจะออกไปเขาลุกตามเหมือนเคย แล้วก็ล้ม ผมคิดว่าเขาคงหมดแรง .. ผมเอาข้อมูลของอาการ แม้กระทั่งสีอึ จดไปให้คุณหมอ ไม่ตลกนะครับ รายละเอียดเป็นเรื่องจำเป็นในการสันนิษฐานโรค ทำให้คุณหมอบอกได้ว่า อึดำน่าจะเป็นแผลในกระเพาะอาหาร ไม่อ้วกเป็นเลือด ยังไม่อันตรายเท่าไหร่ ที่เดินไม่ไหวน่าจะเป็นเพราะปวดท้องมาก
ท่านให้ยาแก้อาเจียน ondansetron 8 mg. เป็นยาที่ไม่มีผลข้างเคียง ให้กินครั้งละเม็ดมาเพิ่มอีก 4 เม็ด การอ้วกควรหยุดให้เร็ว และให้ยาเคลือบกระเพาะ ulsanic 1000 mg กินเช้า-เย็น ห่างยาอื่น 2 ชม. ตัวแรกร้านขายยาไม่มี ตัวหลังมีขายแผงละ 65 บาท แผงละ 10 เม็ด เป็นยาของคน (ถ้าเป็นยาคน ซื้อร้านขายยาที่ขายส่ง จะถูกกว่าซื้อที่โรงพยาบาลสัตว์หรือคลีนิคครับ เจ้าบ๊าคต้องใช้ยาเยอะมาก ก็ทุ่นไปได้พอสมควร เก็บตังค์ไว้ให้หมอตอนป่วยฉุกเฉินน่ะครับ หมาหาหมอ แพงกว่าคน)
ให้หยุดยา Glycoflex 3 ซึ่งเป็นยาโรคข้อกระดูกก่อน เพราะจะเสริมอาการคลื่นไส้ (ท่านดูในเนทให้ ภาษาอังกฤษท่านเชี่ยวกว่าผมหลายเท่า ยิ่งศัพท์ทางการแพทย์ ผมไม่กระดิก กว่าจะรู้สักคำต้องเปิดดิกไปอีกหลายคำ) ท่านเอา text book มาเปิดให้ดูวิธีการตรวจคอว่ามีปัญหาไหม สำหรับบ๊าคคงไม่มีใครทำได้นอกจากป๊า และการวางยาตรวจซึ่งค่อนข้างอันตรายสำหรับหมาแก่ที่มีโรคหัวใจและโรคไตร่วมด้วย
เสร็จเรื่องกับคุณหมอ ผมแวะซื้อทิชชู่ม้วนใหญ่มาอีก 2 แพ็ค อ้วกทีก็ปาเข้าไปเป็นม้วนแล้วครับ .. กลับมา ลูกบ๊าคไม่อ้วกแถมหลับได้ แต่มื้อเย็นไม่ยอมกินอาหารหมา เมื่อเช้ายังกินเอร็ดอร่อยอยู่เลย ผมเอาไส้กรอกหั่นละเอียดคลุกกับข้าวและแม็กกี้ 4 หยดให้ลอง (หอมจนอยากแย่ง) ปรากฎว่ากินหมดครับ ยังพอสบายใจได้บ้างว่ากินได้ ช่วงคอไม่น่ามีปัญหาอะไร
ตอนพาไปฉี่ ลูกบ๊าคเดินโซซัดโซเซ ขาหลังไม่มีแรง มีล้มลุกคลุกคลาน ผมว่ามันไม่น่าใช่แค่ปวดท้องแล้ว ผมโทรไปสุวรรณชาดว่าคุณหมอธนิกาเข้าวันไหน เขาบอกวันเสาร์แต่มาตรวจคนไข้ใน ผมแจ้งเจ้าหน้าที่เขาว่า บ๊าคอาการไม่ดี เขาเลยเอาประวัติคนไข้ให้คุยกับคุณหมออีกท่าน ท่านคาดว่าเบื้องต้นอาจหมดแรงเพราะอ้วก+ขาดน้ำ ให้ป้อนน้ำหวานหรือน้ำเกลือแร่ของคน แล้วให้พาไปโรงพยาบาลพรุ่งนี้ก่อนเที่ยง ท่านจะขอให้คุณหมอธนิกาปลีกตัวมาดูอาการให้
มันช่างเป็นค่ำคืนที่สนุกสนานกับความคิด ที่ไม่อาจสั่งให้หยุดได้ เขานอนขาสั่นเป็นช่วงๆ แต่ก็ยังหลับได้ ตอนที่หลับขาไม่สั่น แถมมีละเมอตะกุยขาราวกับเป็นปกติดี ความคิดของผมคือ
1.  ปวดท้อง ผมให้ ulsanic ทุก 6 ชั่วโมง มันไม่มีผลอะไร แค่เคลือบกระเพาะ ให้ไม่ระคายเคืองจากน้ำย่อย
2.  ขาดน้ำ ทำให้ขาเกร็ง จะเป็นตะคริวหรือเปล่า ปวดกล้ามเนื้อหรือเปล่า ผมเอาไซริงค์ป้อนน้ำเกลือแร่ ได้ครั้งละ 20 cc ก็ทำท่าสำลัก ต้องหยุด
3.  ระบบประสาท เชื้อโรคขึ้นสมองรึเปล่า เลยควบคุมการเคลื่อนไหวขาไม่ได้
4.  โรคหัวใจกำเริบ เลือดไปเลี้ยงขาไม่พอ เขาเคยเป็นแบบขาหมดแรง พอคุณหมอให้ปรับยาก็ดีขึ้น .. แต่ก็ยังหายใจสม่ำเสมอ ไม่หอบ ไม่หายใจถี่กระชั้น
เอาล่ะ แค่นี้ก็ทำให้ผมนอนหลับๆ ตื่นๆ ดูเขาทั้งคืนได้แล้ว

ไม่มีความคิดเห็น: