While I thought that I was learning how to live, I have been learning how to die - Leonardo da Vinci

บทความเหล่านี้ หากเป็นประโยชน์กับท่าน ผมก็ดีใจ หากจะนำไปใช้ที่อื่น ผมก็ยินดี แต่กรุณาอ้างอิงที่มานิดนึง จัดเป็นมารยาทพื้นฐานในการใช้บทความของผู้อื่นใน internet หลายเรื่องผมต้องค้นคว้า แปลเอกสาร ตรวจสอบความถูกต้อง กลั่นกรอง เรียบเรียง ใช้เวลา ใช้สมอง ใช้ประสบการณ์ การก๊อปไปเฉยๆ อาจทำให้คนอื่นคิดว่าคนที่นั่งคิดนั่งเขียนแทบตายห่ากลายเป็นคนก๊อป ผมเจอเพจที่เอาเรื่องของผมไปตัดโน่นนิดนี่หน่อยให้เป็นงานของตัวเอง ไม่อ้างอิงที่มา ไม่ละอายใจหรือ .. สงสัยอะไร comment ไว้ ผมจะมาตอบ แต่ถ้าใครมาแสดงความไพร่หรือด่าทอใครให้พื้นที่ของผมสกปรก ผมจะลบโดยไม่ลดตัวลงไปยุ่งเกี่ยว อยากระบายไปหาที่ของตัวเองครับ หมายังขี้เป็นที่เป็นทางเลยจ้ะ นี่ก็เคยเจอ ไม่รู้พ่อแม่สอนมายังไง!!!

วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2557

fighting for eating / Sun. 5 Oct., 2014



ผมว่าจะตื่น 6 โมงเช้า แต่ดันนอนต่อถึง 7.30 ก็ทำตามสูตร เช้านี้การให้น้ำเกลือรื่นไหล เลยให้ไปหมดขวดเลย 550 cc ผมเล่นมุขเดิม ปู+ไข่ต้ม+ข้าว 2 ทัพพี ท่าจะเบื่อแล้ว กินแบบหว่านข้าวและไม่ถึงครึ่ง ผมพยายามขย้ำข้าให้เป็นก้อนแล้วจับยัด ก็ไม่สำเร็จ ผมลองอีกทีด้วยโจ๊กของแม่ ก็ไม่กิน เล่นเอาผมรู้สึกหมดหวัง
อ้อ ก่อนกินข้าวมีอ้วกด้วย มีแต่น้ำย่อย ผมเลยยัด ondensetron ไปก่อน พาไปอึ ท้องเสียอีกแล้ว และเหมือนควบคุมการถ่ายไม่ได้รึเปล่า ผมเจออึกองเล็กๆ ตรงที่เขาไปนอน ตอนเช็ดก้นให้ก็มีอึไหลออกมาอีกนิดหน่อย ชิบหายแระ
10.30 am ผมเดินไปเดินมา เตรียมกวาดบ้าน ลองขนมดูซิ หันไปหยิบกัสเซนรสนมมาห่อนึง แกะส่งให้ กินใหญ่เลย อะไรของมันวะ ผมกวาดบ้าน แล้วเอาเขาไปนอนรอกลางบ้าน ถูห้องก่อน จะได้ไม่ต้องทิ้งไว้คนเดียว เกิดเป็นอะไรไป 11.30 ผมยัด ulsanic เพิ่มให้ 1000 mg (ผมซื้อให้เขากินคราวก่อน เหลืออีกหลายแผง หายดีก็เก็บไว้) กินน้อยเดี๋ยวกระเพาะจะไปก่อน ค่อยพาไปอาบน้ำ
การอาบน้ำวันนี้ดูท่าไม่ดี แต่ก็ยังน่าจะพอไหว .. ผมก็ฟอกๆ แชมพูไป หมักตามเวลา พอตอนเช็ดตัวทำท่าจะแย่ เช็ดเสร็จ ปกติเขาจะวิ่งเข้าห้อง วันนี้เดินเตาะแตะๆ น่าสงสารชะมัด ผมตามมาปิดที่กั้น แล้วไปจัดการกับผ้า เหนื่อยแฮะ หิวด้วย มัน 1.30 pm แล้ว เลยมากินข้าว อยากอาบน้ำแต่ยังรู้สึกเหนื่อย เลยนอนพักไปเกือบชั่วโมง บ๊าคก็หลับไปเหมือนกัน คงเหนื่อยเหมือนป๊าล่ะมัง
อาบน้ำเสร็จ ชงกาแฟมา 1 แก้ว มันอยากมาก นานๆ ทีน่าจะได้ กาแฟยังไม่ทันอุ่น แม่ตะโกนบอกฝนตกเก็บผ้าเร็ว อะไรวะ เมื่อกี้ฟ้ายังใสๆ อยู่เลย เพิ่งบ่าย 3 เอง .. ดีนะ ที่วันนี้ผมไม่อู้มาอาบน้ำให้บ๊าคตอนบ่าย เหมือนทุกที ก็ตรงนั้นช่วงบ่ายถึงได้ร่มจากหลังคาห้องน้ำ ไม่ต้องนั่งหมักตากแดด แล้วพอสักบ่าย 2 ตรงที่เช็ดตัวถึงจะได้ร่มจากหม่อน บ๊าคไม่ต้องตากแดดตอนเช็ดตัว แต่ยังได้ไอร้อนจากแดด ให้แห้งเร็ว .. ข้ออ้างผม แต่มันจริงนะ
ผมวิ่งเก็บผ้า ปิดหน้าต่างชั้นบนชั้นล่าง ทั้งฝนทั้งลมแรงมาก มีฟ้าด้วย บ๊าคก็คอยเดินตาม ผมก็กลัวเดินเตะเขา .. เขากลัวน่ะครับ ผมก็ชี้ไปที่ข้างหัวเตียง บอก กลัวเหรอลูก ไปแอบตรงนั้นก่อน เขาก็เดินไปนอนหมอบตามที่บอก มองผมทำโน่นทำนี่ ใครว่าหมาพูดไม่รู้เรื่อง มาคุยกับผมนี่ แล้วจะรู้ว่า หมาพูดรู้เรื่องกว่าคนอย่างผมเยอะ ..
ฝนมาเร็วจนน่าตกใจ หลังคาโปร่งแสงตรงบันได พอเจอฝนแรงๆ ก็รั่ว น้ำเจิ่งนอง ผมรอให้ฝนซา ค่อยทำทีเดียวแล้วกัน เอาผ้าขนหนูผืนเล็กซับน้ำแล้วบิดใส่กะละมังซักผ้าได้ 1/3 เช็ดเสร็จก็ต้องกวาดบ้านใหม่อีกรอบ ทั้งฝุ่นทั้งใบไม้มากมาย ปิดบ้านไม่ทันเขาน่ะ
ออกไปกวาดน้ำใต้ชายคาหน้าบ้าน  ฝนสาดเยอะเลย เดี๋ยวจะได้แห้งปูผ้าเช็ดเท้าให้บ๊าคได้ หมาต้องใช้ผ้าเช็ดเท้าขนาดใหญ่กว่าคนหลายเท่าครับ ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่แผ่ทั้งผืนสำหรับเขาเช็ดเท้า สำหรับคนพับ 4 ทบก็กว้างพอ แม่เขาว่า ถ้าไม่มีชายคาคงน่าดู ผมก็ฉวยโอกาสบอกไปว่า เห็นไหม ทำแล้วยังมีประโยชน์ ถึงหมาจะไม่ได้อยู่ก็เถอะ แม่เขาเงียบเลย
ชายคาที่ว่า ทีแรกตั้งใจให้หมาอยู่น่ะแหละครับ ก่อนทำบ้าน หมาอยู่ใต้ถุนบ้าน พอทำบ้าน แรกๆ ผมไม่กล้าเอาเข้าบ้าน คุณญาติท่านหนึ่งเขาพูดอย่างใจร้ายมากว่า ทำให้คนอยู่ ไม่ได้ทำให้หมาอยู่ ซึ่งเขาก็เป็นคนที่ผมนับถือ ผมเลยไม่กล้าขัดขืน อีกอย่างคือ การที่แม่ผมรับความช่วยเหลือ เลยเหมือนกับเป็นการให้สิทธิ์ .. เพราะงั้น ก่อนรับความช่วยเหลือจากใคร ก็ต้องคิด เพราะเขาอาจถือสิทธิ์ เหนือคุณ
ผมเลยต่อเติม โดยทำหลังคายื่นออกไป 3 ช่วงกระเบื้องลูกฟูก มีพื้นปูนอยู่แล้ว กว้างราว 2 เมตร หมาก็อยู่กันพักใหญ่ แต่ผมรู้สึกห่างเหิน เลยเริ่มเอาเข้าบ้านตอนกลางคืน บางช่วงเวลา แล้วขยับเป็นทั้งคืน จากนั้นก็ทั้งวันทั้งคืน มันเป็นเรื่องของ progress ในการทำให้คนในบ้านค่อยๆ เริ่มรับได้น่ะครับ อ้อ คุณญาติคนนั้น เขาไม่ได้อยู่บ้านผมหรอก นานๆ มาที ผมก็ช่างเขาแล้วล่ะ จะมากเรื่องอะไรกันนักหนา คนเขาอยู่กันทุกวัน ยังรับได้นี่นา
ตอนนั้น Tommy ตายไปแล้ว .. เดิม ที่อยู่ของ coffee กับ candy และ tommy อยู่ด้านหลังบ้าน ก็คือที่จอดรถในปัจจุบัน วัตถุประสงค์ในการสร้างคือ ให้หมาอยู่ ผมกั้นแบ่งครึ่ง ให้ coffee กับ candy อยู่ด้วยกัน เพราะเขาไม่เคยทะเลาะกัน tommy เป็นผู้ชายเลยต้องอยู่อีกฝั่ง
พอเอาเข้าบ้านมา ผมเลยล่าม coffee กับ candy ด้วยเชือกไนล่อนไว้ที่จุดเดียวกัน ยาวราว 2 เมตรกว่า ส่วน max กับ bach เดิมอยู่หน้าบ้านใต้ชายคา มีทะเลาะกันบ้างเป็นบางครั้ง (เพราะเป็นผู้ชายเหมือนกัน ไม่มีใครยอมใคร) ผมล่ามไว้กับขาตั่งที่ผมใช้เป็นเตียงนอน ทะแยงมุมกัน ให้ถึงกันแค่คอ ยังพอได้ใกล้ชิดกันได้ แต่ถ้าตีกัน ผมก็แยกได้ง่ายหน่อย .. ตอนนี้มีแต่บ๊าค ผมเลิกล่ามเขามานานแล้ว แค่มีไม้กั้น กันไม่ให้ออกไปเพ่นพ่านนอกห้อง .. สุดท้าย วันใดวันหนึ่ง ผมคงไม่เหลือใครเลย
ราว 5.05 pm ผมก็เอา ulsanic ยัดปาก แล้วเตรียมให้น้ำเกลือ นึกได้ว่า พ่อคุณนอนตรงโน้นบ้างตรงนี้บ้าง ไม่เป็นที่เป็นทาง ผมก็ไม่มีเสาน้ำเกลือ เลยไปค้นตะปูมาตอกไป 5 จุด ซึ่งน่าจะครอบคลุมพื้นที่นอนของบ๊าคทั้งหมดแล้ว จะได้ไม่ต้องลากเขาไปในจุดที่ผมสะดวก เอาบ๊าคสะดวกก็แล้วกัน ตอกเสร็จ ฝุ่นมันก็ร่วงลงมา ต้องกวาดบ้านอีกรอบ เมื่อสะดวกแล้ว ก็มาเริ่มกัน
ผมกลับมามีทักษะในการแทงเข็มได้ดีเหมือนเดิม น้ำเกลือไหลเป็นสาย ช่วยให้บ๊าคไม่ต้องเจ็บนาน แต่วันนี้ .. ลืมขย้ำหนังให้ก่อน ตอนทิ่มบ๊าคสะดุ้ง แต่ก็นอนตะแคงเรียบร้อยดี ผมว่าเขารู้นะ ว่าผมทำเพื่อช่วยให้เขาสบายขึ้น ขวดแฟบอีก ทั้งๆ ที่ทิ่มเข็มข้างบนแล้ว สงสัยเข็มเล็กไป ผมใช้เข็มที่แถมมากับสายให้น้ำเกลือน่ะครับ คิดว่าเบอร์ 21 ผมเลยลุกไปเปลี่ยนเป็นเข็มเบอร์ 18 คราวนี้ ok เลย
Cavumox ก่อนอาหาร ยัดไปแล้ว เอาออกมาได้ไงไม่รู้ ดีนะที่ผมเดินกลับมาเห็นเร็ว ก็จับยัดเข้าไปใหม่ แล้วผมก็ไปเตรียมอาหาร มื้อนี้มีข้าวสวย+กุนเชียงหั่นเล็กๆ+ปู 1 ถ้วย ผมเตรียมน้ำมาอีกชามด้วย กันข้าวติดมือมากๆ จะได้จุ่ม ข้าวมันร้อน ผมเอาไปไว้หน้าพัดลมให้เย็นลงหน่อย บ๊าคลุกมานั่งมองชิดที่กั้น ผมยังไม่กล้าหวังมาก เกิดไม่ถูกปาก เขาก็ไม่กินเสียอย่างนั้น
พอผมนั่งลง เขาก็ลุก จะกินเอง ผมไม่ยอม บอก นั่งลง เดี๋ยวป๊าป้อน คือผมแยกข้าว+กับไว้คนละส่วนกันน่ะครับ เคยผสมกันแล้วเขาพาลไม่กินหมดเลย ถ้าป้อนด้วยกันแล้วปลิ้นข้าวออก จะได้ให้กินแต่กับ ยังไงก็ยังได้กินอะไรบ้าง แต่จะให้แต่โปรตีนอย่างเดียว แล้วไตล่ะ หมาเป็นโรคไตกินโปรตีนมากๆ ไม่ได้
เย็นนี้ยอมกินข้าวด้วยครับ ผมก็หยิบข้าว+กับข้าว ป้อนไปทีละคำ ดูจะไม่ทันใจ ผมก็เอาชามหลบ ตอนหลังเห็นกินข้าวด้วยแน่แล้ว ผมก็เอามือคลุกเข้าด้วยกัน กินหมดครับ แม้จะไม่ถึงกับเกลี้ยงจนเลียชาม ผมก็ดีใจมากแล้ว อย่างน้อยกระเพาะลำไส้เขาจะได้ทำงานบ้าง
พออิ่มก็จะเดินหนี ผมจับปากเขาไว้ บอก เดี๋ยวเช็ดปากก่อน เช็ดเสร็จเขาก็เดินไปหาที่นอน ที่เดิมแหละครับ และผมลืมอีกครั้ง ยาหลังอาหารทันที ที่เขาให้บด ผมดันยัดเข้าไปทั้งเม็ดเลย จนเขากลืนแล้วถึงนึกได้ อันนี้กลิ่นมันจะคล้ายยาธาตุน้ำขาวน่ะครับ ผมจะบด ใช้ขนมปังห่อ แล้วค่อยยัดเข้าปากเขา
เย็นนี้ เดินวนอยู่นาน ฉี่ 5-6 ที่มั๊ง แต่ไม่ยอมอึ ขากลับทำท่าเซๆ ด้วย เหมือนขาหลังเสียหลัก เมื่อเช้าเดินดีกว่านี้ ผมกลับมาเริ่มประคบหลังให้เขาอีก ลองดู เผื่อจะช่วยได้ แล้วเลยประคบไอ้ก้อนนั้นไปด้วย ดูมันเล็กลง ที่จริงไม่ควรเสี่ยง ถ้าเป็นเซลล์มะเร็ง การประคบร้อนจะไปกระตุ้นให้มันขยายตัวเร็วขึ้น ผมรอให้คุณหมอแจ้งผลก่อนน่าจะดีกว่า
หลังมื้อเย็นของตัวเอง เดินเข้าห้องมา บ๊าคก็หลับไปแล้ว ผมปลุกให้ยาตอน 1 ทุ่ม แล้วเลยจับเช็ดหู มีดิ้น ถีบ ผมก็ถามเขาว่า อ้าว ทำไมล่ะ คันไม่ใช่เหรอ ป๊าเห็นเกาๆ มาป๊าเช็ดให้ .. ไม่มีผล .. ผมเปลี่ยนคำพูดใหม่ อยู่นิ่งๆ เดี๋ยวตีเลย คราวนี้ได้ผลแฮะ อ้อ ชอบความรุนแรง แล้วก็ไม่บอก
เห็นอย่างนี้ ไม่ใช่ว่าผมตีเขาบ่อยๆ นะ ผมแทบจะไม่เคยตีเขาเลย มีแต่ตอนเด็กๆ ดื้อมาก พูดไม่รู้เรื่องจนต้องตี ไม่กี่ครั้ง เขาคงยังจำได้ว่า การโดนตีเป็นยังไง พอโตมา ไม่ดื้อเท่าไหร่ พูดอะไรก็เชื่อฟังดี ผมก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องตีกัน เขาเคยโดนพ่อตีแรงๆ เพราะกัดหมาข้างบ้านไม่ยอมปล่อย เขาจะกลัวพ่อมากกว่า ถ้าพ่อดุ .. แต่ก็ยังเข้าใกล้ ดีใจเวลาพ่อคุยด้วย บางทีพ่อเข้าห้องมา เขาก็จะไปเดินตามดมๆ พ่อลูบหัว เขาก็ทำท่ามีความสุข
กลัวคำว่าตีก็ดีครับ เอาไว้ขู่ยามจำเป็น แต่อันนี้ห้ามพูดพร่ำเพรื่อนะ มันจะกลายเป็นเรื่องที่ไม่ต้องสนใจ เช็ดหูเสร็จ พ่นยาให้ แล้วหวีผม พอบอก เสร็จแล้ว เขาก็วิ่งไปซอกข้างหัวเตียง .. ผมมานั่งทำที่นอนให้ เรียกก็ไม่ลุก ตามใจ แต่เห็นนอนขดกลมๆ คงหนาว เลยเอาผ้าแพรไปห่มให้ พักเดียวก็หลับไปแล้ว
ราว 4 ทุ่ม ผมไปเอาผ้าออกเพื่อประคบหลังให้ ทำเสียงถอนหายใจแบบรำคาญๆ ด้วยนะ เดี๋ยวต้องปลุกอีก 2 รอบ 5 ทุ่ม ulsanic เที่ยงคืน vetmedin แล้วเจอกันอีกทีตอน 6 โมงเช้ากับน้ำเกลือ

ไม่มีความคิดเห็น: