While I thought that I was learning how to live, I have been learning how to die - Leonardo da Vinci

บทความเหล่านี้ หากเป็นประโยชน์กับท่าน ผมก็ดีใจ หากจะนำไปใช้ที่อื่น ผมก็ยินดี แต่กรุณาอ้างอิงที่มานิดนึง จัดเป็นมารยาทพื้นฐานในการใช้บทความของผู้อื่นใน internet หลายเรื่องผมต้องค้นคว้า แปลเอกสาร ตรวจสอบความถูกต้อง กลั่นกรอง เรียบเรียง ใช้เวลา ใช้สมอง ใช้ประสบการณ์ การก๊อปไปเฉยๆ อาจทำให้คนอื่นคิดว่าคนที่นั่งคิดนั่งเขียนแทบตายห่ากลายเป็นคนก๊อป ผมเจอเพจที่เอาเรื่องของผมไปตัดโน่นนิดนี่หน่อยให้เป็นงานของตัวเอง ไม่อ้างอิงที่มา ไม่ละอายใจหรือ .. สงสัยอะไร comment ไว้ ผมจะมาตอบ แต่ถ้าใครมาแสดงความไพร่หรือด่าทอใครให้พื้นที่ของผมสกปรก ผมจะลบโดยไม่ลดตัวลงไปยุ่งเกี่ยว อยากระบายไปหาที่ของตัวเองครับ หมายังขี้เป็นที่เป็นทางเลยจ้ะ นี่ก็เคยเจอ ไม่รู้พ่อแม่สอนมายังไง!!!

วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

mana



คำเตือน อย่าพลาด นาทีที่ 14.00 เป็นอันขาด
กีตาร์ + ไวโอลิน ลืนไหล บาดใจสุดๆ
mana .. ในที่นี้ ไม่ใช่เอามาจากพวกเกม online นะครับ
คือ ต้องออกตัวก่อนว่า ผมคิดว่าพระเจ้าเป็นญาติผู้ใหญ่
เลยอาจใช้คำพูดแบบไม่เทิดทูนมากจนเว่อร์เกิน .. ไม่ว่ากันนะครับ
มานา .. สำหรับชาวคริสต์ ไม่ว่าจะนิกายไหนๆ คงรู้จักกันดีอยู่แล้ว
มันคือ อาหารที่พระเจ้าทรงประทานมาให้กลางทะเลทราย ในพระคัมภีร์
ถ้าแปลตรงตัว mana แปลว่า นี่มันอะไรวะ .. ครับ ภาษาฮีบรูแปลอย่างนั้น
ไปอ่านๆ มา เขาว่ามานามีลักษณะเหมือนเมล็ดผักชี รสชาดเหมือนขนมปังผสมน้ำผึ้ง
ผมเลยสงสัยต่อไปว่า มันตกลงมาเหมือนหิมะหนาๆ ไหม ถ้าใช่ คงเก็บได้สะดวกกว่า
ภายหลัง .. หลังจากเจอดินแดนแห่งพันธสัญญาน่ะครับ
ชาวคริสต์จึงได้จำลองมานาขึ้น เป็นแผ่นปังบางๆ กลมๆ เล็กๆ หวานด้วย ..
เรียก ศีลมหาสนิท ....
แต่ผมไม่ค่อยมีโอกาสได้รับบ่อยนัก เพราะเข้าวัดปีละครั้ง 2 ครั้งเอง
ศีลมหาสนิท เป็นภาษาแบบไทยๆ .. ไม่รู้ใครคิดว่าควรใช้คำนี้เนาะ
ภาษาฝรั่งก็คือมานา บางทีอาจเรียกมานนา
มักสื่อความหมาย ถึงการรับพระเจ้ามาประทับอยู่ในเรา
แต่ผมกลับรู้สึกว่า มันน่าจะมีอะไรมากกว่านั้น
เป็นไปได้ไหมว่า นักบวชยุกแรกๆ อาจเจตนาให้เรา
ได้รำลึกถึง 40 ปีแห่งการเดินทางผ่านทะเลทรายของโมเสส
ศรัทธาอันแรงกล้าของคนกลุ่มใหญ่ อุปสรรคและการผจญภัย
ที่ยิ่งกว่า dual survival , man woman wild หรือพ่อหนุ่ม bear grylls
ผมรู้น่า พระคัมภีร์ก็เป็นอย่างนี้แหละ
ไม่ว่าของศาสนาไหนๆ ย่อมมีเรื่องมหัศจรรย์ ปาฏิหาริย์ อะไรๆ .. เยอะอะครับ
ที่กล้าพูดเช่นนี้เพราะผมอ่านมาแล้วทั้ง พุทธ ซิกซ์ อิสลาม ..
การได้รู้ในสิ่งที่สนใจ จัดเป็นอาหารรสชาดดี น่าตื่นใจ .. ผมว่านะ
เผอิญ ผมพอมีความรู้เรื่องการอพยพของโมเสส จากอียิปต์มาสู่อิสราเอลอยู่บ้าง
คือ ตอนเด็กๆ ทุกคนก็ต้องถูกบังคับให้เรียนอะครับ เลยเรียกว่า "พอรู้บ้าง"
จินตนาการจึงบรรเจิดยิ่ง พวกๆ ฝรั่งเอง ก็คงไม่มีปัญหาเท่าไหร่
ลองนึกเล่นๆ .. มะก่อนเดินทางกัน 40 ปี เดี๋ยวนี้นั่งเครื่องบิน 2 ชั่วโมงก็ถึง.

ไม่มีความคิดเห็น: