While I thought that I was learning how to live, I have been learning how to die - Leonardo da Vinci

บทความเหล่านี้ หากเป็นประโยชน์กับท่าน ผมก็ดีใจ หากจะนำไปใช้ที่อื่น ผมก็ยินดี แต่กรุณาอ้างอิงที่มานิดนึง จัดเป็นมารยาทพื้นฐานในการใช้บทความของผู้อื่นใน internet หลายเรื่องผมต้องค้นคว้า แปลเอกสาร ตรวจสอบความถูกต้อง กลั่นกรอง เรียบเรียง ใช้เวลา ใช้สมอง ใช้ประสบการณ์ การก๊อปไปเฉยๆ อาจทำให้คนอื่นคิดว่าคนที่นั่งคิดนั่งเขียนแทบตายห่ากลายเป็นคนก๊อป ผมเจอเพจที่เอาเรื่องของผมไปตัดโน่นนิดนี่หน่อยให้เป็นงานของตัวเอง ไม่อ้างอิงที่มา ไม่ละอายใจหรือ .. สงสัยอะไร comment ไว้ ผมจะมาตอบ แต่ถ้าใครมาแสดงความไพร่หรือด่าทอใครให้พื้นที่ของผมสกปรก ผมจะลบโดยไม่ลดตัวลงไปยุ่งเกี่ยว อยากระบายไปหาที่ของตัวเองครับ หมายังขี้เป็นที่เป็นทางเลยจ้ะ นี่ก็เคยเจอ ไม่รู้พ่อแม่สอนมายังไง!!!

วันอังคารที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2561

อยากได้กีต้าร์สักตัว!

ผมชอบกีต้าร์ 22-24 fret ฟังเสียงได้ลึกซึ้ง แต่ไม่เคยคิดซื้อเพราะเล่นไม่ไหว มันยาก มือไม่ไป น้องชายเคยเอากีต้าร์ไฟฟ้ามาทิ้งไว้ให้เล่นตัวนึงตอนผมบ่นว่าอยาก พอไม่คิดอยากเล่นอีก ผมก็คืนเขาไป เคยลองฝึกไล่สเกลมันก็เบื่อ พอเอาเพลงที่ชอบๆ มาหัด tab ง่ายสุดๆ เช่น dee ช้าแต่ใช้สำเนียงกับเทคนิค! ที่ไม่ค่อยใช้สำเนียงเช่น Gargoyles, Angels Of Darkness มันก็เร็วและความเร็วในห้องเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เล่นสำเนียงอีก คนไม่มีทักษะจะฝึกให้มันเหมือนและเพราะไม่ได้เลย
มันเป็นการตัดสินใจที่ใหญ่โตกว่าทุกครั้ง เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องเงิน ถ้าซื้อมา ผมจะต้องแบ่งเวลาให้ ต้องเล่นให้ได้หรือฝึกอย่างน้อย 2 วันครั้ง อย่างธนู เมื่ออยากได้สักคัน ผมซื้อธนูพร้อมลูกเซทแรก ตามด้วยลูกเซทที่สอง ศึกษาไปเริ่มอยากได้ธนูอีกประเภท ซื้อลูกอีกเซทที่เหมาะสมกว่า ตามด้วยหนังสติ๊กที่ใช้สำหรับยิงลูกธนูโดยตรง พร้อมให้เหตุผลอันสมควรกับตัวเองว่าจะได้ออกกำลังมากขึ้น ได้ฝึกสติ สมาธิ(จริงๆ ชอบความรุนแรงน่ะ) แต่นั่นมันไม่แพงไง กับกีต้าร์ต้องคิดมากกว่า
ความจริงผมชอบกลองด้วย มันน่าจะเล่นง่ายและระบายอารมณ์ได้ดี แต่พอไปลองเล่นของหลานชายก็ซึ้ง ถ้าเล่นไม่เป็น มันหาความไพเราะไม่ได้เลย ดูเขาเล่นเหมือนจะง่าย แต่คนที่ไม่เคยแตะ มือเท้ามันไม่สัมพันธ์กัน ต้องเริ่มด้วยการฝึกฝนให้เกิดทักษะที่เรียก line drum ก็เสียงมันมีอยู่แค่นั้น จึงเน้นเล่นกับจังหวะเสียมาก ยากเกินไปกว่าจะได้ความรื่นรมย์ และกลองที่พอจะซื้อได้แบบคุ้มๆ มีความ flexible มันก็ 7-8 หมื่น! โหดไปผมถอย ผมไม่เคยซื้อของที่ไม่คิดจะใช้จริงจัง (ปกติก็คิดจะใช้แหละเลยซื้อ แต่บางอย่างมันก็ไม่ได้ใช้จริงๆ ว่ะ)
น้องผมชอบกีต้าร์ เขาเลยมีหลายตัว ประมาณว่าถ้าพอมีเงินเหลือ ทนอยากไม่ไหวก็ไปซื้อ จนน้องสะใภ้พูดกับผมว่า ถ้าไม่ซื้อบ้าน มันคงไปลงกับกีต้าร์หมด 55++ ทีนี้พอผมได้ไปหยิบจับบ่อยเข้าเลยเริ่มอยากบ้าง มันสวยงาม ยั่วยวน ชวนให้หลงไหล
กีต้าร์ไฟฟ้าตัวแรกตอนเด็กๆ ของเราเป็นทรง soloist ซื้อราวปี 92 ราคา 4500 ผมจำยี่ห้อไม่ได้ ไม่ใช่ยี่ห้อติดตลาดแน่ๆ กีต้าร์แบรนด์ที่ยอมรับกัน มันแพงมาแต่ไหนแต่ไร ตอนนั้นเรามีเงินกันแค่นั้น แรงบันดาลใจให้อยากเล่นกีต้าร์ มาจากเพลง the crush of love ของ joe satriani เป็นหนึ่งในหลายเพลงที่เพื่อนตอนเรียนกรุงเทพคนนึงอัดเทปให้มา ภายหลังผมชอบชุด surfling with the alien ที่สุด always with me, always with you ใครเล่นได้เหมือน ผมจะเอาดอกไม้ธูปเทียนไปกราบ แถม russell ใส่พานให้อีกขวด ดันสายอย่าให้เพี้ยนล่ะ ผมไม่เล่นดนตรีแต่จำเสียงได้หมดนะ
แต่ Joe ยังไม่อาจทำให้ถึงกับกระเสือกกระสน จนมาเจอ the loner ของ gary moore ความอยากมันก็พีคถึงที่สุด เมื่อเขาแน่ใจตัวเองว่าเอาแน่ เราก็รวมเงินเก็บที่มีเข้าด้วยกัน แล้วไปซื้อมาแต่กีต้าร์ พ่อมีชุดลำโพงสูงเกือบเมตรต่อสเตอริโออยู่แล้วซึ่งไม่ค่อยได้ใช้ เราก็ยึด เสียบแจ๊คเล่นได้เลย เจ้านั่นวัตต์สูง ถ้าเปิดดัง เสียงจะไปลั่นคลอง เสียงแน่นเท่าแอมป์แพงๆ ช่วงที่เขายังไม่ไปเรียนต่อที่อื่นเลยไม่จำเป็นต้องซื้อแอมป์ ส่วนเครื่องช่วยต่างๆ เขามาเก็บเงินซื้อทีหลัง นั่นคือจุดเริ่มต้นในความหลงไหลของเจ้าหนูนั่น ส่วนผมเริ่มหัดเล่นพร้อมเขาแต่เลิกภายในไม่กี่เดือน
ปัจจุบันกีต้าร์ตัวนั้นยังอยู่และเล่นได้ดี แต่ผ่านการซ่อมแซมมาแล้ว(ด้วยตัวเอง) จุดที่ยึด bridge บวมขึ้นมาก็ถากออก เปลี่ยน single colt ชิ้นส่วนที่เป็นอิเล็กทรอนิคส์เปลี่ยนใหม่หมดละ มันเสื่อมตามอายุขัย คอโก่งก็ดัดเหล็กดามคอ ฟิงเกอร์บอร์ดไม่มีปัญหา มีเปลี่ยน fret บางชิ้นที่สึกหรอจากการใช้งาน เสียงยังคงหนักแน่น ด้วยพื้นฐานของความที่ตัวมันเป็นไม้เนืิ้อดีทั้งดุ้น
ไม่กี่ปีต่อมาเราก็ซื้อกีต้าร์ตัวที่ 2 ไม่ใช่ยี่ห้อดังอีกตามเคย ไม่มีเงินเยอะๆ น่ะ 9500 มั๊งถ้าผมจำไม่ผิด ผมจำยี่ห้อไม่ได้ เป็นทรงคล้าย gibson lespaul เจ้านี่เป็นไม้อัดซ้อนเป็นชั้นๆ มาเลย! ตอนนั้นผมไม่รู้นะว่ามีอย่างนี้ด้วย ถึงรู้ก็ไม่แน่ใจนักว่าจะขอให้เปิดด้านหลังดูได้ ของพวกนี้ ตอนซื้อก็จะได้พินิจความเรียบร้อยของงาน ลูบขอบฟิงเกอร์บอร์ดดูความปราณีตในการฝังเฟรท เช็คว่ามีเสียงบอดไหม ลองเสียง เสียงโอเค ราคาอยู่ในวงเงินที่มีในกระเป๋าก็เอามา ถ้าจะมองแบบโลกสวย ชั้นไม้อัดอาจเป็นเรื่องของ sound engineer!
ในเวลา 10 กว่าปี ผมเคยไปบ้านหลังแรกของเขาครั้งเดียวตอนหลานชายอายุไม่ถึงขวบ พักก่อนวิ่งหารถกัน มันยืดเยื้อ เลยไปค้างติดต่อกันหลายอาทิตย์ เขาทำที่กินเหล้าไว้บนระเบียงชั้น 3 ซึ่งมีห้องซ้อมดนตรี กีต้าร์ยังลามมาอยู่ในห้องทำงานหลายตัว เดินไปเข้าห้องน้ำก็เจอ นี่เรียกว่าจะเลี่ยงไม่ให้อยาก ก็ทำไม่ได้
ผมชอบกีต้าร์ด้วยเหตุผลด้านเสียง มันสร้างเสียงได้หลากหลายที่สุดในโลกของเครื่องดนตรี ที่ไม่เคยคิดซื้อเพราะไม่คิดจะเล่น ล่าสุดผมลูบคลำ epiphone แล้วรู้สึกว่ามันโอเค หลักๆ คือมันถูกสุด ตัวนั้นราว 8-9 พัน เห้ยน่าสนใจ นานๆ หยิบมาลูบคลำ ไล่สเกลบ้าง ก็ไม่หนักแรง .. แต่ ..
เจ้าน้องชายบอกว่า อย่าเล่นเลย เขาให้ดูกีต้าร์ตัวหนึ่ง ใช้ไม้ 5 ชิ้นต่อกันตามแนวยาวลำตัว เห็นรอยต่อชัดเจน เขาซื้อมาลองเพราะเสียงมันใช้ได้อยู่ (sound engineer!) แต่สำหรับกีต้าร์ ถ้าคุณไหวนะ ซื้อไอ้ที่มันคงคุณค่าในระยะยาวดีกว่า เช่นเรื่องไม้ นานไปอาจไม่ได้ไม้ที่มีอายุมากเท่าเก่า นานไปราคามันจะเพิ่มขึ้น เครื่องดนตรีจัดเป็นทรัพย์สินเพิ่มค่าอย่างหนึ่ง ถ้ามีความรู้มากพอและมีกำลังพอที่จะเล่นไหว ที่ต้องระวังคือรู้ผิด มันจะกลายเป็นขยะที่ทิ้งไม่ลง
กีต้าร์ควร made in japan (เพราะของ US ผมคงซื้อไม่ไหว) นอกจาก US แล้ว ตลาดที่ใหญ่สุดคือญี่ปุ่น(การสอนเด็กแบบญี่ปุ่น น่าสนใจมาก) ดังนั้นเขามีอำนาจต่อรองในการเลือกคุณภาพไม้ ด้านทักษะช่างและการควบคุมมาตรฐานการผลิต ค่อนข้างมั่นใจได้
กีต้าร์แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น จะระบุว่าใช้ไม้อะไรทำตัว ลำคอ ฟิงเกอร์บอร์ด ซึ่งให้เสียงต่างกันไปตามคุณลักษณะของไม้ ตัวที่คอกับหัวเป็นไม้ชิ้นเดียวก็แพงกว่าไม้ต่อเพราะเปลืองไม้มากกว่า ผมชอบลายเสี้ยนบนพื้นดำของฟิงเกอร์บอร์ดไม้ ebony รุ่นเก่า ปัญหาคืออีโบนี่ล๊อตใหม่ๆ เป็นสีน้ำตาลแก่ไม่ใช่สีดำเหมือนก่อน อาจเป็นเรื่องของอายุต้นไม้ สุดท้าย แต่ละคนจะจบตัวเลือกของตัวเองที่ความพึงพอใจและงบการเงิน
เมื่อมองที่ทรงมาตรฐานของแต่ละยี่ห้อ
gibson lespaul ผมชอบตั้งแต่คอ ฟิงเกอร์บอร์ดไปจรดหัวมัน ชอบเสียงที่มันทำได้ แต่ไม่ชอบทรงลำตัวและน้ำหนัก
fender เสียงเด่นไปอีกสไตล์ yngwei, iron maiden ก็ใช้
jackson ก็สวย รูปร่างดี เสียงดี ปลายตีนน่ารัก แต่มนไปนิด
ibanez ดูเหมือนผมจะจบที่ยี่ห้อนี้ เพราะรูปร่างและเอกลักษณ์ของเสียงนั้นแหละ
ผมเน้นความชอบด้าน Ergo Design เมื่อบอกได้ว่าจะเล่นยี่ห้อไหน น้องผมก็บอกได้ว่าให้ไปเก็บเงินมาเท่าไหร่แล้วจะพาไปดู ตัวเลขคือสามหมื่น! เล่นกุเกินงบอีกละนะ ตอนที่ผมบอกเขาว่า หารถมือสอง 3-4 แสนให้กุคัน ไปจบกันที่ 6.4 แต่ก็ด้วยเหตุผลที่สมควรน่ะนะ น้องสะใภ้เคยเตือนแล้วว่า พี่จะเอา 4 เหรอ เตรียมไว้ 6 เลย เขารู้จักกันดีจริงๆ
กีต้าร์ที่ผมมองไว้สัก 9 พัน เขาเสนองบสามหมื่นด้วยเหตุผลที่ดีพออีกนั่นแหละ ว่าด้วยเรื่องของคุณค่า .. ถ้าเกินนี้คงเป็นความอยากที่เกินพอดีของตัวเองละ คุณเคยเข้าร้านขายกีต้าร์ใหญ่ๆ ไหม มีเงินในกระเป๋าเท่าไหร่ คุณจะจัดเต็มๆ ไปน่ะแหละ กิเลสระเริง ต้องไม่พกเงินไปเยอะๆ .. แล้วถ้าเพิ่มอีกสัก 1-2 พันแจ่มเลย ทำไงอ่ะ หรือเพิ่มอีกสัก 5-6 พันจะสุดยอด  อีกไม่เท่าไหร่เอง ไม่เอาจะเสียดายไปอีกยาวๆ เลยนะ (งั้นเอาบัตรเอทีเอ็มติดไปด้วย)
บ้านผมมีแอมป์ขนาดกลางตัวหนึ่งที่น้องให้มา แต่คิดว่าควรซื้อขนาดเล็กสักตัว เพื่อความสะดวกในการเสียบสาย เคลื่อนย้าย ถ้าสะดวกเราจะไม่ขี้เกียจต่อมันเล่นไง เดี๋ยวนี้แอมป์ที่พอใช้ได้ขนาด 5 วัตต์ตัวเล็กๆ ราคา 2-3 พันบาทก็ดังลั่นบ้านละ รู้เพราะเขาเคยขนมาด้วยช่วงวันหยุดยาว
เอาวะ เก็บตังค์สักเดือนละพัน สามปีคงได้เรื่อง!!! ซานตาครอสไปมุดปล่องอยู่บ้านไหนวะมึง มาถึงเมืองไทยละเปล่า 
ผมน่ะมันโชคดีอยู่อย่าง ตรงที่ไม่ฉลาด แต่มีคนฉลาดๆ และรู้จริง คอยให้คำชี้แนะเกือบทุกเรื่อง ที่ไร้ความเชี่ยวชาญ.


และแล้ว อีก 4 วันข้างหน้า ผมก็ไปจบที่ Gibson Les Paul Standard ปี 98 ราคา 52,000 ! อ่านต่อได้ในเรื่อง Gibson ที่ชื่ออาจื่อ. จะมีรายละเอียดในการหาซื้อ Gibson มือสองแบบลึกสุดตีน!

ไม่มีความคิดเห็น: