ห้ามกิน vita E กับ fish oil พร้อมกัน / Sun. 19 Oct., 2014

ตื่น 6 โมง ยัด ulsanic แล้วตั้งนาฬิกาไว้ 7.00 ไปตื่นเกือบ 8 โมงโน่น เออดี ต้องรีบหน่อยแล้ว วันนี้บ่ายต้องไปซื้อยาให้บ๊าคด้วย ก็พาบ๊าคไปอึก่อน วิ่งนำไปหลังบ้าน เดินไม่นานเท่าไหร่ กลับมา รอพักให้หายเหนื่อยสัก 10-15 นาที ระหว่างนั้นผมก็อัดน้ำเกลือ เช้านี้เป็นผักกับปลาและ n/d ทำเมื่อเย็นวาน คงกินได้ถึงมื้อเย็นนี้

อ่านๆ มา บางคนเขา “ทำอาหารสดใหม่ให้ทุกมื้อ” .. พูดเล่นรึเปล่า กว่าจะหั่นผัก ต้มให้สุกแบบน้ำน้อยๆ แกะปลา เปิดกระป๋อง (อาหารเชี่ยอะไรไม่มีที่เปิดให้) คลุกเคล้าเข้าด้วยกัน ปั่นอีกที (เพราะหมาไม่เคี้ยวเหมือนคน อย่างข้าวโพดอ่อน เข้าไปยังไงออกมาอย่างงั้นเลย) ทั้งหมดนี่ใช้เวลา 2 ชั่วโมงกว่า ตอนปั่น มันจะยากที่สุด ด้วยความที่น้ำน้อย มันก็ปั่นแล้วไม่ดูดลงไป แต่ผมคงเติมน้ำให้มากหน่อยได้ ก็ไม่กินน้ำเองนี่ .. เออ ถ้าไม่มีใครคอยป้อนข้าว คอยอัดน้ำเกลือ ป่านนี้คงทำ 30 วันได้แล้วแหละ

กินข้าวแล้วก็กินยานะลูก ผมเก็บผ้าไปแช่ น้อยจนน่าตกใจ 2-3 ครั้งก่อน พาหาหมอ มันก็มีผ้าที่ต้องใช้ผืนใหญ่ๆ เพิ่มมาหลายผืน ยังปรับตัวไม่ได้ครับ แล้วตอนนี้ผมใช้ผ้ายางรองใต้ผ้าปูที่นอนก่อนหุ้ม มันก็ไม่ต้องซักผ้ารองอีกผืน .. ล้างอ่าง .. คือว่ากันตรงๆ ไอ้อ่างอันนี้ ถ้าบ๊าคไม่ได้ใช้อาบน้ำ ผมก็คงไม่ล้างมันหรอก ล้างทีเหงื่อท่วมตัว มันมีตะไคร่ เศษใบไม้ ไม่ล้างก็ทำใจไม่ได้ว่ะ จากนั้นมากินข้าวของตัวเอง อย่าลืมยาด้วย เดี๋ยวตายห่าไป ใครจะดูบ๊าค

10.30 น้องที่จ้างมาตัดหญ้าก็มาถึง(เหลือจากวันก่อนนิดหน่อย) ผมขอเบอร์โทรไว้ด้วย เผื่อมีอะไรเรียกใช้ แล้วขอให้เขาไล่แถวโอ่งกับทางไปบ้านอาก่อน เดี๋ยวเอาหมาอาบน้ำ จะเดินผ่านไม่ได้ เขาก็เก็บแถวข้างบ้านไปด้วย เออใช้ได้นี่ ทีแรกคิดว่างานหยาบต้องจ้ำจี้จ้ำไช แต่ดูเหมือนเขาจะเล่นงานใหญ่ก่อน แล้วเก็บละเอียดทีหลัง ถามถึงความพอใจ ทำเองพอใจกว่า แต่มันไม่มีปัญญาจะทำ ก็ต้องทำใจ หรือถึงจะมีปัญญามันก็ใช้เวลาเยอะ สรุปว่า จ้างเขาสะดวกดี

จนเขาตัดเสร็จ ผมยังถูห้องไม่เสร็จเลย พาบ๊าคไปฉี่ก่อนแล้วค่อยไปอาบน้ำ ทำท่าเหมือนจะขึ้นเองไม่ไหว  แต่ก็กระโดดขึ้นไปเองได้ วันนี้ว่าง่ายดี ผมฟอกตัวได้ตามสบายเลย แล้วหมักทิ้งไว้ มาถูที่เหลือ ก็ยังไปเดินสูบยาได้อีกมวน ค่อยมาล้างให้ .. พอบอกมาล้างกัน ตื่นเต้นเลยครับ ล้างจนผมพอใจ รีดน้ำออกไปบ้าง แล้วเช็ดตัว ถูหลายรอบจนหมาดๆ พอบอกเสร็จแล้ว ไปได้ เขาก็ตั้งหลัก กระโจนเข้าประตูบ้าน ผมก็ลุ้นว่ามันจะล้มตอนไหน ไม่ล้มแฮะ ไปถึงห้องจนได้ ถึงจะซวนเซไปหน่อย

ผมลืมเรื่องเวลา นึกได้ตอนถูบ้าน ว่าควรให้ vetmedin เลยเดินเอาไปยัดปาก ตรงที่เขานั่งหมักน่ะแหละ บ๊าคทำท่างงๆ เพราะผมไม่เคยเอายามายัดตรงนี้สักครั้ง ทำไงได้ เดี๋ยวเสร็จแล้ว จะได้กินข้าวเที่ยงกัน ไม่ต้องรอนานไงลูก .. เสร็จกับตัวเขา ก็หันไปเช็ดเข็มขัดกับสายจูงเอาไปตากแดด กินมื้อเที่ยงของตัวเอง ป้อนมื้อเที่ยงให้บ๊าค แล้วไปซักผ้า อาบน้ำ ก็ 2.30 แล้ว พ่อกำลังสนุกกับมวย ผมก็บอกไปก่อน 3 โมงละกัน ขอสักงีบ

พอได้เวลาเขาก็ปลุก ไปซื้อยากัน ผมช๊อปยาให้ถึงแค่สิ้นเดือน เนื่องจากตอนนี้กระเป๋าฉีก ไปโรงพยาบาลหลายรอบ ตรวจหลายอย่าง โน่นนั่นนี่ ค่าใช้จ่ายน่าจะเป็นหมื่นไปแล้วเดือนนี้ ต้องเก็บไว้เผื่อฉุกเฉินด้วย .. ผมเป็นคนไม่ทำบัญชีรายจ่าย ซึ่งทำไปก็แล้วไง ต้องใช้มันก็ต้องจ่าย อยู่ที่เราเห็นว่ามันจำเป็นหรือไม่ ซึ่งสำหรับบ๊าค มันจำเป็น ในความคิดผม

ยานิดหน่อย น้ำเกลือ 1 ลัง เรื่องวิตามินนี่สิใช้เวลาคุยเยอะ เขาให้คุยกับน้องผู้หญิงอีกคนที่เชี่ยวชาญกว่า เขาก็งงๆ รายการที่เห็น ผมเลยระบุวัตถุประสงค์ในการใช้งานให้เขาฟัง พอเข้าใจกันก็ง่ายขึ้น เขาสามารถแนะนำตัวที่ตรงประเด็น เสร็จต้องไปแวะแมคโครหน่อย ทิชชู่แผ่นใหญ่ใกล้หมด ตุนไว้ก่อนสัก 3 แพ็ค เผื่ออ้วกแตก ขี้แตกขึ้นมาอีก

ฝนตกพรำๆ ขากลับ งงว่ะ คิดว่าหมดแล้วเสียอีก มันไม่ตกมาหลายวัน ถึงบ้านเลยยังพาบ๊าคออกไปไม่ได้ เขาก็ไม่ว่าอะไร แค่นอนเฉยๆ .. ก็ขนข้าวของเข้าบ้านไป พลางภาวนาให้ฝนหยุดตกเร็วๆ บ๊าคจะได้ไปเดินเล่น หาที่อึได้ไกลๆ ราว 5 โมงครึ่งก็หยุด พอชวนออก รีบลุกมาเลยครับ วันนี้ผมชวนไปทางหน้าบ้านดีกว่า เพราะไม่รู้จะตกอีกไหม เดี๋ยวหนีเข้าบ้านไม่ทัน ร่างกายเขาอ่อนแอมาก เปียกฝนจะไปกันใหญ่ .. วันนี้เดินไม่นานเท่าไหร่ พออึได้ ก็รีบเข้าบ้านไปนอนแผ่หลา

บ๊าคฝืนใจกลืนมื้อเย็นอันแสนอร่อยฝีมือป๊าจนหมด เก่งมากลูก ด้วยความที่ผมใจร้อน อัด vitamin C ไป 1000 mg เลย ก่อนอาหาร กับ spirulina หลังอาหาร จัด vitamin E + fish oil ไปอีกอย่างละเม็ด ได้เรื่องครับ นอนขาสั่นๆ หายใจแปลกๆ ทำท่าไม่ดี และนั่นมันผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว ultracarbon คงไม่ช่วย ผมเลยได้แต่นั่งลุ้น vitaminE กับ fish oil ทำให้เลือดเหลวทั้งคู่ ซึ่งผมลืมคิด ดันไปให้พร้อมกัน เลยได้แต่นั่งลูบๆ ตัวเขา พลางคิดว่า จะผ่านคืนนี้ไปได้ไหม

หลังมื้อเย็น ผมก็ให้น้ำเกลือต่อ พ่นยา หวีผม กวาดบ้านอีกรอบ แล้วค่อยไปเตรียมอาหารมื้อต่อไปของบ๊าค  ทำทุกวันมันไม่ไหว ผมเลยกะให้พอกินได้สัก 2 วัน ส่วนผสมวันนี้มี
ฟักทองกว้าง 1 นิ้ว
กระหล่ำขาว ¼
กระหล่ำม่วง ½
ดอกกระหล่ำ ½
บรอคโคลี่ ½
ผักกาดขาว 3 ใบ
แครอท 1 หัว
ถั่วฝักยาว 4 เส้น
ข้าวโพดอ่อน 4 ฝัก
ปลาโอ 1 ตัว
n/d 1 กระป๋อง

ผักทั้งหมดหั่นบางๆ ใส่หม้อ ใช้น้ำน้อยๆ ครึ่งเดียวของผัก ต้ม แล้วกลับบ้าง มันก็เหมือนนึ่งน่ะแหละ ระหว่างนั้นก็มานั่งแกะปลาโอ เออ มันคาวสุดๆ จริง แกะดีๆ อย่างไม่ให้มีก้างแม้แต่นิดเดียว จนผมรู้ซึ้งถึงกายวิภาคของปลาโอไปแล้ว ก้างเล็กก้างน้อยอยู่ตรงไหน .. จากนั้นขยี้ให้เละๆ เอาไปใส่หม้อ ต้มไปพร้อมกับผัก คลุกเคล้าให้เข้ากัน ต้มจนพอใจ ผักมันก็ไม่นิ่มหรอกครับ เพราะน้ำมันน้อย ช่างมัน ยังไงก็เดือดหลายรอบแล้ว เอามาผึ่งพัดลมให้หายร้อน บี้ๆ n/d คลุกลงไป แล้วเข้าเครื่องปั่น ปั่นเสร็จก็เอาทัพพีคนอีกทีให้มั่นใจว่า ทุกช้อนจะมีสารอาหารเท่ากัน

เราก็จะได้วิตามิน โปรตีน สารอาหาร หลากชนิด ไฟเบอร์เพียบ แถมย่อยง่าย ดูดซึมง่าย บางคนเขาใช้วิธีสับเอา นั่นคือหมาเขากินเองน่ะครับ และไม่อ้วก .. บ๊าคไม่กินเอง แถมบางครั้งอ้วก ผมสงสัยเรื่องระคายกระเพาะอาหารด้วย อาหารของบ๊าค ถ้าไม่เละเขาจะปลิ้นออกมาได้ ปั่นให้เนียนๆ หมดสิทธิ์ ปิดปากแล้วไม่มีทางออก ก็ต้องกลืนลงไปนะลูก

3 ทุ่มครึ่งชวนไปฉี่ คิดว่าน่าจะทำให้สบายขึ้นได้บ้าง บ๊าคก็ฉี่แบบมากมายมหาศาล อึด้วย เป็นก้อนๆ แล้ว เอ วิตามินกระปุกไหนส่งผลล่ะเนี่ย

มื้อดึก ผมก็ได้ชิมอาหารที่ปรุงกับมือ ปลาโอ+n/d ให้กลิ่นเข้มข้นมาก ปลาโอนี่มันคาวเหลือเชื่อจริงๆ แทบจะกลบกลิ่น n/d ได้หมด ทั้งๆ ที่กลิ่นแรงมากเหมือนกัน