While I thought that I was learning how to live, I have been learning how to die - Leonardo da Vinci

บทความเหล่านี้ หากเป็นประโยชน์กับท่าน ผมก็ดีใจ หากจะนำไปใช้ที่อื่น ผมก็ยินดี แต่กรุณาอ้างอิงที่มานิดนึง จัดเป็นมารยาทพื้นฐานในการใช้บทความของผู้อื่นใน internet หลายเรื่องผมต้องค้นคว้า แปลเอกสาร ตรวจสอบความถูกต้อง กลั่นกรอง เรียบเรียง ใช้เวลา ใช้สมอง ใช้ประสบการณ์ การก๊อปไปเฉยๆ อาจทำให้คนอื่นคิดว่าคนที่นั่งคิดนั่งเขียนแทบตายห่ากลายเป็นคนก๊อป ผมเจอเพจที่เอาเรื่องของผมไปตัดโน่นนิดนี่หน่อยให้เป็นงานของตัวเอง ไม่อ้างอิงที่มา ไม่ละอายใจหรือ .. สงสัยอะไร comment ไว้ ผมจะมาตอบ แต่ถ้าใครมาแสดงความไพร่หรือด่าทอใครให้พื้นที่ของผมสกปรก ผมจะลบโดยไม่ลดตัวลงไปยุ่งเกี่ยว อยากระบายไปหาที่ของตัวเองครับ หมายังขี้เป็นที่เป็นทางเลยจ้ะ นี่ก็เคยเจอ ไม่รู้พ่อแม่สอนมายังไง!!!

วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

ขอมีปืนแบบภูธร

ที่จริงผมมีปืนอยู่ในความดูแลมานานมากแล้ว(ของพ่อ-แม่-ป้า) เพียงแต่ถ้าจะทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ก็ต้องทำเรื่องขอใบอนุญาติให้มีและใช้กับทางการ ที่เรียกใบ ป.4 น่ะครับ ในนั้นจะระบุชื่อผู้ถือครองพร้อมชนิดปืนและเลขทะเบียนกำกับไว้ แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะพกมันไปไหนต่อไหนได้ ไม่ได้แปลว่าคุณจะใช้ยิงใครได้ โดยไม่มีความผิด คำว่าภัยถึงตัวในความคิดชาวบ้านแบบเราๆ กับการตีความตามวิอาญา มันไม่เหมือนกันนะครับ ศึกษาให้ดีจะได้ไม่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล มีคดีความติดตัว!

** ตัวอย่างการระบุชนิดปืน เช่น
1. ปืนสั้น หรือ ปืนยาว
2. ยี่ห้อ
3. ลักษณะเฉพาะ เช่น ลูกซองแฝด เบอร์ 12
, เดี่ยวลูกกรด .22, ลูกโม่ .38, แมกกาซีน 11 มม. เป็นต้น

สืบเนื่องมาจากเรื่องปืนที่ผมเขียนไว้ใน ปืนประจำตระกูลและวิธีบำรุงรักษา ผมไม่ได้เล่าเนอะว่าผมไม่มีใบอนุญาติใดๆ ให้ใช้มัน ซึ่งผมก็ไม่ได้สนว่าจะต้องมี ผมเชื่อว่าคนจำนวนมากใช้ปืนโดยไม่มีใบอนุญาติเป็นของตัวเอง(ทุกกระบอก) เพราะมันเฉพาะเจาะจงที่แต่ละกระบอกไปเลย ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น

บ้านผมจะมีหลานรุ่นผมอยู่ 5 คนทั้งหญิง-ชาย พออายุได้ 10 กว่าขวบ ทุกคนจะถูกสอนให้รู้วิธีใช้ทั้งปืนสั้นปืนยาวแล้วครับ เริ่มต้นด้วยปืนลมยาวลูกตะกั่วหัวร่มฝึกยิงลูกมะพร้าว แล้วตามด้วยลูกกรด .22 จากนั้นเป็น .38 ค่อยๆ เพิ่มจากแรงลมไปหาแรงดินปืนที่มากขึ้น ส่วน .45 หรือลูกซอง รอให้โตมากหน่อยค่อยเอามาสอนกัน อันนี้เล่าไว้เป็นตัวอย่าง เด็กกับปืนค่อนข้างอันตราย ให้เข้าใจถึงความอันตราย รู้วิธีใช้ที่ถูกต้อง ให้มันยิงบ่อยๆ จนมันเบื่อ จะได้ไม่เสี้ยนไปแอบเล่น จะปลอดภัยกว่า

ป้าบอกว่า ปืนมันมีผี เจตนาคงต้องการให้ระวังให้มาก ไม้กระดานที่บ้านชั้นบนเป็นรู 1 รู ทั้งที่มันหนาเป็นนิ้ว เพราะก๋งเคยทำปืนลั่นขณะทำความสะอาดปืน ญาติรุ่นก๋งผมคนหนึ่งถูกหลานยิงตายเพราะเก็บปืนสั้นไว้ใต้หมอน

คนบ้านนอกจะมีปืนทุกบ้านเป็นปกติ จะเถื่อนหรือมีทะเบียนก็ตามแต่ โชคดีที่บ้านผมไม่เคยมีขโมยเข้าบ้าน (แม้ในช่วงที่ชุกชุม) เลยไม่เคยมีคดีใดๆ ให้ต้องเคลียร์ (ปืนเถื่อน อาจหมายถึงปืนโรงกลึง ปืนไทยประดิษฐ์ หรือปืนปกติที่ซื้อขายกันโดยไม่มีทะเบียน กรณีซื้อต่อ ควรตรวจสอบการสวมทะเบียน และอย่าให้ใครได้เห็นหมายเลขทะเบียนปืนของคุณ เป็นการตัดไฟแต่ต้นลม)

ด้วยความที่คุณอาชอบและมีปืนหลายแบบ ลูกหลานเลยต้องใช้ได้ ใช้เป็น มีอะไรช่วยกันได้ ผมไม่เคยรู้สึกเป็นปัญหากับการต้องมีใบอนุญาติ เพราะมันเป็นของพ่อแม่ป้าผมอยู่แล้ว และมันต้องอยู่ที่บ้านอยู่ดี (ว่าด้วย พรบ.อาวุธปืน) ผมเคยเอาไปพกอยู่หลายปี คนอีกมากก็ทำเช่นนี้ ซึ่งไม่ถูกต้อง

ถ้าโดนจับ ผมจะเจอโทษปรับไม่เกิน 2000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากจะพิสูจน์กับศาลได้ว่า มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน อะไรดีล่ะ แต่ผมไม่เคยมีใบอนุญาติเลย ท่าจะไม่รอด ไม่รู้ทำไมตอนนั้นผมมั่นใจว่าจะไม่มีใครรู้ (วิธีวางตัวก็ช่วยได้ส่วนหนึ่ง) ก่อน-หลังพกปืน ผมยังใช้มีดพกอยู่หลายปี คงเป็นความเคยชินที่อุ่นใจของคนเคยพกอาวุธ ว่าจะปกป้องตัวเองได้ (คุณอาผมยังเคยมายืมมีดพก เมื่อต้องบินไปต่างจังหวัด) ผมรอดมาได้แบบคิดย้อนไปแล้วหลอนๆ

การพกพาได้จริงก็มีครับ จะมีการออกใบอนุญาติพกพาให้ต่างหาก แต่ออกให้เฉพาะคนที่มีความจำเป็น มีเงื่อนไข มีระยะเวลา ความคิดผมตอนหนุ่มๆ คือ ถ้าจำเป็นต้องยิงก็ยิง แล้วค่อยเคลียร์ทีหลัง! โชคดีที่มันไม่เคยเกิดขึ้นเลย สุดท้าย ดีที่สุดคือฉลาดหน่อยก็พอ

ทีนี้พ่อผมเขาบอกให้โอนมาเป็น 10 ปีแล้วครับ ผมไม่ได้รู้สึกว่าจำเป็น และพอศึกษาดู มันค่อนข้างยุ่งยาก เสียเวลา เลยไม่ทำสักที จนโดนพ่อด่าละ เจ้าน้องชายไม่เอาสักกระบอก ด้วยความที่ลูกยังเล็กและไม่อยากได้ เขาว่าโอนไว้ที่มึงก่อน เดี๋ยวมึงตายค่อยว่ากัน !

เบื้องต้นผมคุยกับน้องว่าอยากให้เก็บรักษาไว้ เพราะมันเป็นของก๋งๆ กับป้าเรา เขาก็ว่าจะเก็บรักษาต่อ แต่จะเก็บยังไง คงแยกชิ้นส่วนเก็บ เขาไม่รู้สึกดีกับการมีปืนเป็นกระบอกๆ ไม่คิดว่ามีประโยชน์อะไร ในเมื่อปัจจุบันมีวิธีอื่นอีกมาก ที่จะทำให้ตัวเองและบ้านปลอดภัย ซึ่งพอรู้กฎหมายมากเข้า ผมก็คิดแบบเดียวกัน มันใช้ยากมาก โดยไม่ให้เหลือความผิดติดตัว

จากการหาอ่านขั้นตอนจนมึน ทฤษฎีมิสู้ปฏิบัติ ผมเล่าส่วนของผมเลยแล้วกัน เป็นกรณีพ่อแม่ยังมีชีวิตอยู่ โอนให้ลูก

เริ่มเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2563 ผมเข้าไปที่อำเภอ บอกเขาว่าติดต่อเรื่องโอนปืนครับ เจ้าหน้าที่แถวนั้นก็บอกให้ไปตรงไหน อำเภอบ้านผมเมื่อก่อน เรื่องปืนให้ติดต่อชั้น 2 หลังโควิดเปิดบริการแต่ชั้นล่างอันเป็นโถงโล่งกว้าง กั้นกระจกส่วนหนึ่งทำเกี่ยวกับปืนโดยเฉพาะ ทุกครั้งที่ผมไป ไม่เคยเจอใครอื่นมาติดต่อเลย

เอกสารที่ผมเตรียมไป

- สำเนาบัตรประชาชนของตัวเอง/พ่อ/แม่ ขีดคร่อมระบุวัตถุประสงค์การใช้งาน ทีแรกคิดว่ายื่นเรื่องได้ในคราวเดียว แต่เขาให้ทำทีละกระบอก ดังนั้นไม่ควรลงวันที่ไว้ล่วงหน้า เพราะมันจะนานจนคาดไม่ถึง!

- สำเนาทะเบียนบ้านของตัวเอง/พ่อ/แม่ ขีดคร่อม

- ใบรับรองการทำงาน ที่ระบุอายุงาน ตำแหน่ง หน้าที่ เงินเดือน ใช้กระดาษหัวบริษัท ให้ระดับบริหารเซนต์รับรอง ปกติเขาคงให้ฝ่ายบุคคลออกให้กันละมั๊ง แต่ที่ทำงานผมฝ่ายบุคคลจะไม่รู้เงินเดือนออฟฟิส ผมเคยให้สมุห์บัญชีทำให้เมื่อนานมากแล้ว ช่วงนี้ไม่มีสมุห์ ผมเลยพิมพ์ใส่หัวกระดาษบริษัทเอง แล้วเข้าหา GM เล่าให้เขาฟังว่าจะเอาไปทำอะไร ด้วยความที่เขาชอบเล่นปืนอยู่แล้ว เข้าใจขั้นตอนดี เขาก็อ่านๆ แล้วเซนต์ให้ (MD เป็นคนญี่ปุ่นครับ ไม่สะดวกเรื่องอ่านไทย และไม่รู้เล่าไปยาวๆ จะเข้าใจวิธีการแบบไทยๆ รึเปล่า)

- หลักฐานการมีทรัพย์สินอื่นๆ ถ่ายเอกสารไปด้วย เผื่อเขาอยากได้ กรณีไม่มีงานทำ หรืออาชีพส่วนตัว จะต้องมีอันนี้ หรือมีคนรับรองที่เป็นข้าราชการ ถ้าเป็นข้าราชการจะมีเงื่อนไขต้องรับรองโดยผู้บังคับบัญชาระดับไหนให้อ่านอยู่

- ทะเบียนปืนตัวจริง กับตัวสำเนา

 

เมื่อได้พบเจ้าหน้าที่ ผมแจ้งเขาว่า ผมมี 3 กระบอกที่ต้องการโอน เขาเลยให้ใบ ป.3 มากรอก 3 ชุด ช่วยจัดเอกสารเป็นชุดๆ ให้ แล้วให้ยื่นเรื่องทีละกระบอก

ผมเริ่มจาก Smith .38 special ด้วยความที่มันคล่องตัวกว่า ถ้าอยากเอาไปยิงสนาม หรือหยิบใช้ยามจำเป็น

จากนั้นเขาทำหนังสือส่งตัวไปโรงพักเพื่อตรวจประวัติอาชญากรรม ไปถึงก็ยื่นหนังสือให้ตำรวจ เสียค่าตรวจร้อยนึง เขาจะปั๊มลายมือกับเครื่องสแกนลายนิ้วมือ ให้ใบเสร็จมา 1 ใบ บอกผมว่าจะส่งเรื่องไปที่อำเภอภายใน 1 เดือน การตรวจนี้ ถ้าเดินเรื่องกระบอกถัดไปภายใน 1 ปีปฏิทิน ก็ใช้ของเดิมได้ ถ้าข้ามปีต้องตรวจใหม่ เป็นระเบียบของราชการ

จากนั้นให้ใบรับรองความประพฤติ ที่มีช่องให้ผู้ใหญ่บ้านกรอกข้อมูล เซนต์รับรอง พร้อมแนบสำเนาบัตรข้าราชการขีดคร่อม ซึ่งเขาให้มาชุดเดียว ผมเลยเข้าใจไปเองว่า ทำทีเดียวเมื่อยื่นขอปืนกระบอกแรก จนเมื่อไปรับใบ ป.4 พร้อมยื่นเรื่องขอกระบอกถัดไป ถึงรู้ว่าต้องใช้กับทุกกระบอก ผมเลยขอมาอีก 2 ชุด เขาแนะนำว่า อย่าเพิ่งลงวันที่ ไว้ลงตอนใช้งาน (เคสผม น้องผู้ใหญ่บ้านบอก พี่ไปเขียนเองนะ ผมเลยให้เขาเซนต์รับรอง แล้วมากรอกข้อมูลเอง ซึ่งเจ้าหน้าที่เขารับได้ ที่อื่นผมไม่รู้นะ ถามเขาก่อนแล้วกัน จะได้ไม่เสียเวลา)

ผมโทรหาญาติรุ่นพ่อ ที่ชวดเราเป็นพี่น้องกัน เนื่องจากเขาเป็นเป็นสมาชิก อบต. น่าจะรู้ ผมถามเขา บ้านเราใครเป็นผู้ใหญ่บ้านครับอา เขาบอกชื่อลูกชายเขาแล้วถาม มึงไม่รู้เร่อะ(ฮา) ก็ไม่รู้น่ะสิครับ ไม่เคยคิดจะใช้งานผู้ใหญ่บ้านนี่นา อาเขาให้เบอร์มา ผมก็โทรหาน้องมัน พอได้เอกสารครบก็เอาไปส่งที่อำเภออีกรอบ ซึ่งที่คุยล่าสุด ไม่ต้องรีบ เขาได้ประวัติอาชญากรรมเราแล้วจะเรียกไปคุย ค่อยเอาไปตอนนั้นก็ได้ จากนั้นรอไปครับ เดี๋ยวเขาโทรมาตามเอง ใจเย็นไว้

16 ธันวาคม 2563 บ่าย พี่เจ้าหน้าที่โทรมาก่อนหน้าหนึ่งวันว่า แวะเข้ามาคุยกับปลัดหน่อย สะดวกวันเวลาไหน พอดีวันนี้ผมมีนัดหาหมอที่ชลบุรี เลยขอเป็นช่วงบ่าย คุณปลัดอำเภอโทรมาเองอีกทีตอน 8 โมงกว่า ว่าจะเข้าไปได้สักกี่โมง ผมแจ้งไว้บ่ายโมง เมื่อถึงอำเภอก็นั่งรอพักนึง พี่เจ้าหน้าที่ให้เข้าไปห้องปลัด เขาถามทั่วไป ทำงานอะไรเกี่ยวกับอะไร เคยมีปืนไหม มีเรื่องกับใครอยู่รึเปล่า อายุเท่านี้ไม่น่ามีปัญหาอะไร (ใช่ ผมเชื่อว่าอายุแปรผันตรงกับตรรกะและอีคิว ยกเว้นความโง่บางอย่าง) แล้วสอน พรบ. เบื้องต้นให้นิดหน่อย

จากนั้นก็เล่าให้ผมฟังเรื่องอำเภอ เงินสนับสนุนน้อย ค่าใช้จ่ายมาก พอจะช่วยบำรุงอำเภอสักสามพันได้ไหม ผมงงนิดๆ แล้วตอบได้ครับ เขาส่งซองให้ผมใส่เงิน แล้วเขาเขียนชื่อ-นามสกุลผมกับจำนวนเงินไว้หน้าซอง เสร็จยังถาม ติดใจอะไรไหม ผมตอบ ไม่ครับ ก็ช่วยๆ กัน ผมมองว่าก็ดีนะที่ได้มีโอกาสช่วยตรงนี้

จากนั้นให้กลับได้เลย รอการติดต่ออีกครั้ง พี่ปลัดให้เบอร์เขามาด้วย เผื่อจะตามเรื่อง ซึ่งผมไม่เคยตาม ก็บอกแล้วไง มันเป็นของผม จะโอนไม่โอน มันก็เป็นของคนในบ้านผมอยู่ดี ที่ทำเพราะไม่อยากขัดใจพ่อเท่านั้นแหละครับ

10 มีนาคม 2564 เจ้าหน้าที่โทรมาก่อนหน้า 1 วันว่า เอาปืนมาให้ดูหน่อย ผมแจ้งเขาว่าจะเข้าไปหลังเที่ยง ก็เอากระสุนออก ใส่กระเป๋าสะพายบ่าไป คุย 2-3 คำ เขาก็ขอปืนถือไปไหนไม่รู้ คาดว่ามีคนตรวจปืนกับทะเบียนอีกส่วนหนึ่ง เสร็จก็เอากลับมาคืน ให้จ่ายค่าโอน 500 บาท (ปืนสั้นหรือปืนยาว ราคาเท่ากันครับ) แล้วไล่กลับ รอโทรหา ผมกลับเข้าออฟฟิสยังวางกระเป๋าใส่มือลูกน้อง มันว่าหนักว่ะพี่ ก็บอกเออ เนี่ย กูเคยพกได้ยังไง เดี๋ยวนี้ผมไม่พกอะไรทั้งสิ้น ใช้เสื้อผ้าที่เบาสบายที่สุด โทรศัพท์วางที่โต๊ะ ไม่เคยพกติดตัว ถ้าให้ใส่ขาก๊วย เสื้อกล้าม มาทำงานได้ ผมคงใส่!

27 เมษายน 2564 เจ้าหน้าที่โทรมาให้เข้าไปรับใบ ป.4 ผมไปเที่ยงๆ เช่นเคย เพราะมันจะมีที่จอดรถหน้าอำเภอ ไปถึงก็นั่งรอหน่อย เขาขอดูทะเบียนตัวจริงแล้วคืนให้ (เก็บไว้เป็นที่ระลึก ดีจัง เดี๋ยวจะเคลือบไว้ ผมลงทุนซื้อเครื่องมาละ พอดีเจอเอกสารเก่าหลายแผ่น)

ที่อำเภอจะทำใบ ป.4 ไว้ 2 ใบ หนึ่งใบให้เราเก็บไว้ อีกใบเหมือนกันเด๊ะให้เราเซนต์ชื่อด้านหลัง ทางอำเภอจะเก็บไว้ เสร็จเรื่องการโอนปืนกระบอกแรก โดยไม่ขอพบตัวเจ้าของเดิมสักครั้ง อาจด้วยความที่เป็นพ่อ-ลูก มีเอกสารครบถ้วน

สรุปไทม์ไลน์ การยื่นขอปืนกระบอกแรก .38 special ใช้เวลาประมาณ 6 เดือนครึ่ง ผมเริ่มกังวลว่าจะตายก่อนโอนครบไหม
10 ตุลาคม 2563 ยื่นเรื่องครั้งแรก เขียนใบ ป.3 แนบหลักฐาน+ตรวจประวัติอาชญากรรม
16 ธันวาคม 2563 ปลัดอำเภอเรียกพบ พูดคุย ซักถาม ดูพฤติกรรม
10 มีนาคม 2564 เอาปืนไปให้ตรวจ
27 เมษายน 2564 รับใบอนุญาติ ป.4

 

มาต่อที่กระบอกถัดไป ลูกซองแฝด! มรดกตกทอดของก๋ง(ปู่)

27 เมษายน 2564 เมื่อรับใบ ป.4 ของ .38 เรียบร้อย ผมก็ถามพี่เจ้าหน้าที่เขาว่าผมยื่นเรื่องกระบอกถัดไปได้เลยไหม เขาบอกได้ๆ ผมก็เอาเอกสารที่เตรียมไว้ให้เขา พี่เขาตรวจเอกสาร แล้วทำหนังสือให้ไปตรวจประวัติอาชญากรรมใหม่ เพราะข้ามปีมาแล้ว ใบรับรองผู้ใหญ่บ้านก็ให้ใช้กระบอกต่อกระบอก ผมเลยขอมา 2 ชุด ผมถามเขา พี่เลิกงานกี่โมงครับ เขาว่าเมื่อก่อน 3-4 ทุ่ม เดี๋ยวนี้เต็มที่ก็ 2 ทุ่ม ผมถามต่อ งี้ 6 โมงกว่า ผมโทรหาพี่ก่อน ถ้าพี่ยังไม่กลับ ผมแวะเข้ามาหาพี่ได้ไหมครับ เขาก็ว่าได้ๆ .. เยี่ยม จะได้ไม่ต้องลามาในเวลาทำงานไง นอนโรงพยาบาลซะวันลาจะหมดอยู่แล้ว

ออกมาก็โทรหาน้องผู้ใหญ่บ้าน นัดขอลายเซนต์กับเอกสารเขา แล้วไปโรงพักให้ตำรวจปั๊มลายนิ้วมือ เอกสารนี้กลายเป็นผมไม่ต้องวิ่งเข้าอำเภอ เพราะโทรหาพี่เขาว่าจะเอาเข้าไปให้ เขาถามว่าบ้านผมอยู่ตรงไหน ซึ่งอยู่ทางเดียวกัน บ้านเขาห่างไป 3-4 โล เลยนัดกันที่ปั๊มใกล้ๆ เอาเอกสารให้เขาไปเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม(วันหยุดกรรมกรอย่างผมครับ)

26 พฤษภาคม 2564 บ่ายๆ พี่เจ้าหน้าที่โทรมาว่า วันศุกร์เข้าไปหาเขาหน่อยนะ ผมถามต้องเอาอะไรไปด้วยไหมครับ เขาบอกยังๆ เข้ามาดูเอกสารหน่อย โอเค พรุ่งนี้จะเจออะไร เดี๋ยวผมมาเล่าต่อ

ต่อครับ ก็ไปตามนัด เจอพี่เจ้าหน้าที่ก็บอกชื่อตัวเอง เขาค้นเอกสารมาเปิดๆ ให้ผมเซนต์ชื่อหนึ่งที่ บอกค่าธรรมเนียมสองพัน ผมหยิบเงินส่งให้ เขาก็เอาคลิปหนีบไว้กับเอกสาร ผมว่าแพงจัง เขาว่าคราวก่อนจ่ายไปเท่าไหร่ ผมบอกห้าร้อยครับ เขาว่าไม่สิ ที่จ่ายก่อนหน้านั้น ผมบอกสามพันครับแต่เขาว่าเป็นช่วยบำรุงอำเภอ เขาว่าเหมือนกันแหละ ผมก็หัวเราะอ่อครับๆ (พูดว่าค่าธรรมเนียม ผมก็นึกว่าค่าโอนดิ) เขาว่าคราวหน้าเอาปืนมาให้พี่ดูหน่อยนะ แล้วจ่ายค่าใบ ป.4 อีก 500 โอเค เสร็จเรื่องวันนี้ภายใน 5 นาที รอการติดต่อครั้งถัดไป

3 กรกฎาคม 2564 พี่เจ้าหน้าที่โทรมาเมื่อวานว่าบ่ายว่างเข้าไปไหม ทีแรกผมคาดว่าจะทัน เพราะมีนัดฉีดวัคซีนเข็ม 2 ตอนเที่ยงครึ่ง กลายเป็นคนเยอะมากๆ ทำให้เวลาขยับไปบ้าง กว่าจะกลับถึงบ้านเกิดก็เกือบ 4 โมงเย็น ไม่ทันละ เลยโทรแจ้งเขาว่าขอเลื่อนเป็นวันนี้

เช้าก็เอาถุงลูกซองใส่รถไว้เบาะหลัง อิลูกน้องขอติดรถไปต่อบัตร ปชช ด้วย เลยได้ภาพหลวงพี่แบกกลดมาเช่นนั้น ไปถึง 12.50 แต่ผมรอจน 13.15 ค่อยโทรหาเขาว่าเอาปืนมาให้ตรวจครับพี่ ผมรอพี่ที่โต๊ะนะ พักนึงเขาก็มาหาเอกสาร แล้วขอปืนหายไปนาน ของมันเก่า คนตรวจอาจมึน พี่เขากลับมาพร้อมเอกสารให้เซนต์ ค่าธรรมเนียมการโอน 500 บาท

แล้วเขาถามผม หมดหรือยัง 555 ผมบอกเหลือลูกกรดอีกกระบอกครับ ยื่นเรื่องได้เลยไหม เขาว่าได้ๆ เอามา ผมก็ส่งเอกสารที่เตรียมไว้ให้เขาตรวจสอบ มันยังอยู่ในปีปฏิทิน เขาเลยเอาใบที่ตรวจประวัติอาชญากรรมไปถ่ายเอกสารมาแนบกับชุดใหม่ให้ ทำหนังสือขออนุญาติ 1 แผ่นมาให้ผมเซนต์ พร้อมถาม เคลียร์เลยไหม ผมว่าครับ เขาบอก 2 พัน แล้วอธิบายเพิ่มว่าค่าธรรมเนียม ถ้าปืนสั้น 3000 ปืนยาว 2000 ค่าโอนกระบอกละ 500

เคสของผมมันเป็นการโอนจากพ่อแม่ให้ลูกน่ะนะ แต่ที่ผมเคยอ่านมา เขามักอนุญาติให้บุคคลครอบครองปืนได้ไม่เกิน 2 กระบอก คือสั้น 1 ยาว 1 ด้วยความสงสัยผมจึงถามเขา ถ้าผมอยากได้ปืนสั้นอัติโนมัติอีกสักกระบอก เขาจะอนุมัติให้ไหมครับ คือผมอยากรู้ความเป็นไปได้ ก่อนที่จะเสี้ยนเกินระงับได้น่ะครับ พี่เขาว่าคงไม่ทันนายนี้ ต้องรอนายใหม่ ... ตอบมาอย่างนี้ ผมพยายามแปลได้ว่า คงได้แหละ แต่นโยบายในการโอนอาจเปลี่ยน

ลูกซองก็จบแค่นี้ คราวหน้าที่มาคือมารับใบ ป.4 ลูกซอง แล้วเอาลูกกรดมาให้ดู จ่ายอีก 500 จากนั้นมาอีกครั้งเพื่อรับใบ ป.4 ไม่รู้เมื่อไหร่เนอะ อ่อ หลังตรวจปืน ให้ทำความสะอาดปืนดีๆ อีกทีนะครับ ป้องกันโควิดและสนิมจากการแตะต้องมันมา

28 สิงหาคม 2564 เมื่อคืนผมโทรกลับไปหาพี่เจ้าหน้าที่ตอน 3 ทุ่ม เพราะเขาโทรมาตอนเกือบ 6 โมงเย็นแล้วผมไม่เห็น เขาว่าให้ไปรับใบ ป.4 ของปืนลูกซองได้แล้วนะ ผมถามต่อ แล้วให้เอาลูกกรดไปให้ดูเลยไหมครับ เขางง คิดว่าเคลียร์หมดแล้ว ผมต้องย้อนความจำว่าคราวก่อนผมเดินเรื่องขอลูกกรดไว้แล้วนะพี่ พี่บอกคราวหน้ามารับ ป.4 ลูกซอง แล้วเอาลูกกรดมาให้ดูเลย เขาก็ว่า เดี๋ยวไปดูเอกสารก่อน อาจอยู่ในถาดรอออก เอาปืนมาด้วยเลยแล้วกัน

เที่ยงๆ ผมก็แบกปืนไปอำเภอเหมือนเดิม วันนี้คนมาติดต่อน้อยมาก มีคนนั่งรอด้านนอกแค่คนเดียว ผมโผล่เข้าไป พี่แกยังกินข้าวไม่เสร็จ ผมเลยขอตัวมานั่งรอด้านนอกก่อน กลัวแกเขินน่ะครับ สักพักใหญ่ก็มีผู้หญิงอีกคนมารับใบ ป.4 เหมือนกัน ก็เอาปืนลูกกรดไปตรวจ ผมเซนต์รับใบ ป.4 ของลูกซอง แล้วพี่เขาถาม เคลียร์ค่าโอนลูกกรดเลยไหม 500 ผมก็เคลียร์เลยครับ จบเรื่อง มาอีกทีคือมารับใบ ป.4 ของลูกกรด

21 กันยายน 2564 พี่เจ้าหน้าที่โทรมาเมื่อคืนให้ไปรับใบ ป.4 ของลูกกรดได้แล้วนะ เหมือนเรื่องติดค้างถูกเคลียร์ยังไงยังงั้น แต่วันนี้พ่อมีนัด ECHO เช้า ผมเลยพาพ่อไปโรงพยาบาลก่อน ขากลับค่อยแวะเข้าไปตอน 11 โมงกว่า พี่เขายังว่าถ้าอยากได้อีกก็ทำแบบนี้แหละ มีเวลาของมันอยู่ตามขั้นตอน ผมว่ามันก็น่าสนใจ แต่แพงเหลือเกิน พี่เขาว่าขอตังค์พ่อสิ ผมบอกไม่ยอมให้ไถหรอกครับ ที่บ้านอยากได้อะไรเก็บตังค์ซื้อเอง พี่เขาว่าดี แล้วหัวเราะชอบใจ

บ้านผมสอนมาอย่างนี้แต่เด็กเลยครับ ขึ้น ม.1 แม่ก็จ่ายค่าขนมเป็นอาทิตย์ละ พอปริญญาตรีจะได้เป็นรายเดือน ผมกับน้องต้องจัดการเงินที่ได้ให้พอใช้เอง ซึ่งให้มาพอดี มีเผื่อให้นิดหน่อย ไม่ได้ให้แบบเหลือเฟือ ตอนผมทำงานแล้วก็พอช่วยน้องได้บ้าง ใครอยากได้อะไร ให้เก็บเงินซื้อเอาเอง ถ้าไปขอจะได้คำตอบว่าไม่มี สั้นๆ เลยครับ แต่เราพี่น้องก็ยอมรับว่าการสอนแบบนี้มันดีมาก เราโตมาแบบไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินเลย

 

เดิมปืนยาวผม มีกล่องไม้ที่มากับลูกกรดของก๋ง(ตา) ส่วนลูกซองก๋ง(ปู่)ใช้โสร่งพันไว้ ตอนหลังไม่รู้โสร่งก๋งไปไหน ผมเลยสลับเอาลูกซองใส่กล่อง แล้วเอาลูกกรดมาห่อโสร่งผืนใหม่นอนด้วยกัน เมื่อนึกถึงต้องเอาปืนไปให้ตรวจ การเอาผ้าโสร่งห่อไปคงน่าเกลียด ผมเลยไปสั่งซื้อถุงปืนขนาดกระทัดรัดจากจีนมา 2 ใบ ใบละ 499 บาท ความยาว 130 เซนต์ เกินพอ แต่มันมีไซส์เดียว ที่ต้องกระทัดรัดเพื่อให้ซ่อนง่าย ใช้พื้นที่ไม่มากในการจัดเก็บ ของมาแล้วแต่ยังไม่ได้แกะถุง ด้วยคิดจะซ่อมกล่องปืนด้วย เก่าจนไม้ลอกล่อน ผมอยากรักษาไว้เพราะก๋งอุตส่าห์สั่งทำมา รออุปกรณ์มาจะได้รื้อกล่อง+ทำความสะอาดปืนในคราวเดียว.

ไม่มีความคิดเห็น: