While I thought that I was learning how to live, I have been learning how to die - Leonardo da Vinci

บทความเหล่านี้ หากเป็นประโยชน์กับท่าน ผมก็ดีใจ หากจะนำไปใช้ที่อื่น ผมก็ยินดี แต่กรุณาอ้างอิงที่มานิดนึง จัดเป็นมารยาทพื้นฐานในการใช้บทความของผู้อื่นใน internet หลายเรื่องผมต้องค้นคว้า แปลเอกสาร ตรวจสอบความถูกต้อง กลั่นกรอง เรียบเรียง ใช้เวลา ใช้สมอง ใช้ประสบการณ์ การก๊อปไปเฉยๆ อาจทำให้คนอื่นคิดว่าคนที่นั่งคิดนั่งเขียนแทบตายห่ากลายเป็นคนก๊อป ผมเจอเพจที่เอาเรื่องของผมไปตัดโน่นนิดนี่หน่อยให้เป็นงานของตัวเอง ไม่อ้างอิงที่มา ไม่ละอายใจหรือ .. สงสัยอะไร comment ไว้ ผมจะมาตอบ แต่ถ้าใครมาแสดงความไพร่หรือด่าทอใครให้พื้นที่ของผมสกปรก ผมจะลบโดยไม่ลดตัวลงไปยุ่งเกี่ยว อยากระบายไปหาที่ของตัวเองครับ หมายังขี้เป็นที่เป็นทางเลยจ้ะ นี่ก็เคยเจอ ไม่รู้พ่อแม่สอนมายังไง!!!

วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556

หนัง The Host ( spoiler แบบเต็มๆ )


The Host เป็นหนัง Sci-fi ฟอร์มดีอีกเรื่อง ที่ผมดูแล้วรู้สึกประทับใจ มันมีส่วนผสมของ Sci-fi + Action + Adventure + Romance ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน คนแต่งนิยายเก่งจัง ก็คงต้องยอมรับแหละครับ เพราะหนังสือเล่มนี้ติดอันดับ 10 หนังสือขายดีในอเมริกานานถึง 8-9  เดือน .. และดูเหมือนเรื่องนี้ จะมีโอกาสกลายเป็นหนัง Trilogy ด้วย เพราะผู้แต่งเขาบอกว่า เขาจะเขียนเป็น 3 ภาค เล่มแรก The Host เล่มสอง The Soul เล่มสาม The Seeker .. ความมันส์ ยังไม่จบ .. ดีใจจัง
อ้อ คนแต่งเขาชื่อ Stephanie Meyer เป็นคนเดียวกับที่แต่ง Vampire Twilight หลายๆ ภาคน่ะแหละครับ (แต่อันนั้นมันเน้น drama มากกว่า action ซึ่งผมก็ดูทุกภาคแหละครับ แต่มันเป็นหนัง drama น่ะนะ ที่ผมชอบมากก็คงเป็นตอนที่คนวิ่งๆ มาแล้วกระโจนมากลายเป็นหมาป่าตัวใหญ่น่ะแหละ มันเท่สุดๆ) .. แต่เราก็คงต้องยกความดีความชอบให้ Andrew Niccol ด้วย ที่กำกับและเขียนบทให้ออกมาน่าดูขนาดนี้ และ Sam Hargrave ผู้กำกับฉาก action ที่เคยกำกับให้กับเรื่อง The Avengers กับ Pirates of the Caribbean มาแล้ว รวมถึง Eric Christensen ผู้ควบคุม visual effect ในฉาก sci-fi ทั้งหลายแหล่ ที่เคยมีผลงานจาก Star Wars มาก่อน
The Host เป็นเรื่องราวของกลุ่มมนุษย์ต่างดาว ที่เรียกตัวเองว่า soul หรือจิตวิญญาณน่ะแหละครับ แต่มันเป็นจิตวิญญาณที่มีอายุเป็นพันๆ ปี เดินทางไปยังดวงดาวต่างๆ ที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ แล้วแทรกตัวเองเข้าไปยึดครองร่างของสิ่งมีชีวิตอื่น แต่ที่โลก ยังมีคนบางส่วนต่อต้าน หลบหนี .. พวก soul ก็จะมี seeker เป็นทีมค้นหามนุษย์ เพื่อจับไปให้ soul ยึดร่างเสีย คนที่ไม่ยอมก็หนีกันไป ที่หนีไม่ได้ก็ฆ่าตัวตาย
เนื้อเรื่องดำเนินไป โดยนางเอกของเราเมลานีและเจมี่น้องชาย มีพ่อพาหลบหนี แต่ seeker  หาพบ ทำให้พ่อของเมลานียิงตัวตาย แต่เมลานีและเจมี่หนีไปได้ จนมาเจอกับจาเร็ต พระเอกคนที่หนึ่ง เรื่องนี้มีพระเอกอีกคนครับ .. ในขณะที่ไปหาเสบียง นางเอกของเราก็ถูกจับ ทั้งๆ ที่กระโดดตึกกะให้ตาย ดันไม่ตาย หนังเหนียวเป็นบ้า .. เธอเลยโดนยึดร่าง โดย wanderer – alien ใจดี ที่ยอมฟังเธอพูด สุดท้ายยอมพาเธอหนีไปหาเจฟลุงของเธอ กลางทะเลทราย เพื่อกลับไปหาเจมี่น้องชาย กับจาเร็ตหวานใจ
แต่ปัญหาของเธอคือ เธอไม่ใช่คนธรรมดาแล้ว ใครๆ ก็เลยอยากจะฆ่าเธอ แถม seeker ก็ตามล่าแบบกัดไม่ปล่อย เพราะเชื่อว่าถ้าเจอเธอ ก็จะเจอเหยื่ออีกเยอะ .. โชคดีที่เจฟคอยปกป้อง แถมเป็นอัจฉริยะ รู้วิธีทำนาในปล่องภูเขาไฟอีกตะหาก .. งานนี้เริ่มยุ่งครับ เพราะสาว alien-วอนด้า ดันไปมีความรักกับเอียน พระเอกอีกคน โดยเมลานีต้องกระอักกระอ่วนอยู่ข้างใน ตรงนี้มั่วดีครับ แต่ก็ให้ความรู้สึกแปลกประหลาดที่ดีพอสมควรเลยทีเดียว
เรื่องราวในหลุมหลบภัย มีการสื่อถึงสัมพันธ์ระหว่างผู้คน ความคิด ความกลัว ความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ ที่บางทีน่ากลัวกว่าสัตว์ประหลาดจากต่างดาวเสียอีก เป็นจุดที่น่าสนใจ และนำเสนอเรื่องราวได้ดีมากครับ
ช่วงหลังของเรื่อง เจมี่เกิดมีอาการโคม่าจากอาการถูกเคียวบาด ใช่ เคียวที่ใช้เกี่ยวข้าวในปล่องภูเขาไฟไงครับ .. ทำให้นางเอกของเรากับพระเอก ต้องบุกเข้าไปในเมืองเพื่อขโมยยามหัศจรรย์มาใช้ .. และหลังจากที่เห็นการพยายามช่วยคนโดยแยก soul ออกมาอย่างผิดวิธี ทำให้ตายทั้งคู่ ในที่สุด wanda ก็เปิดเผยถึงวิธีการเอา alien ออกมาจากร่าง โดยที่คนก็รอด alien ก็รอด โดยเธอขอให้แค่เนรเทศพวก alien ไปจากโลก และขอให้ปล่อยให้จิตวิญญาณของเธอตายไป เพราะเธอไม่ต้องการที่จะไปอาศัยอยู่ในร่างของคนอื่นอีกแล้ว ตรงนี้ซึ้งเลยครับ ยิ่งคำพูดที่เป็นภาษาอังกฤษ ฟังแล้วซึ้งกว่าภาษาไทยที่แปลมาอีก .. แต่กลายเป็นว่า วอนด้าตื่นขึ้นมาในร่างใหม่ เพราะร่างนั้นพอเอา soul ออกไปแล้ว มันไม่ตื่น ปล่อยให้ตายไปก็เสียของเปล่าๆ .. ทีนี้เลยมีกระบวนการใหม่ มนุษย์ล่า soul ที่ครองร่างมนุษย์อยู่
นักแสดงแต่ละคน ล้วนมีความสามารถในการสื่อถึงอารมณ์และความคิดออกมาได้ดี คุณจะคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่ อย่างเช่น
Saoirse Ronan ที่ควบทั้งบทเมลานีและวอนด้า เธอเคยเล่นหนังชุดเรื่อง Atonement , the lovely bones, hanna
Max Irons ในบทพ่อจาเร็ตของเรา ที่เคยเล่นเรื่อง Dorian Grey, Red Riding Hood
Jake Abel กับบทเอียน ก็เคยเล่น Percy Jackson, I Am Number Four
Diane Kruger หรือซีกเกอร์จอมโหด ก็เคยเล่นเรื่อง Troy กับ National Treasure มาแล้ว
เพราะงั้นไม่ต้องแปลกใจ มันจะคุ้นๆ แต่นึกไม่ออกหรอกครับ เพราะมันนานมากๆ ถึงจะเห็นที จะไปคิดออกได้ยังไง .. ลองดูกันครับ ถ้ามีโอกาส มีอะไรน่าสนใจเยอะเลยในหนังเรื่องนี้

ไม่มีความคิดเห็น: