While I thought that I was learning how to live, I have been learning how to die - Leonardo da Vinci

บทความเหล่านี้ หากเป็นประโยชน์กับท่าน ผมก็ดีใจ หากจะนำไปใช้ที่อื่น ผมก็ยินดี แต่กรุณาอ้างอิงที่มานิดนึง จัดเป็นมารยาทพื้นฐานในการใช้บทความของผู้อื่นใน internet หลายเรื่องผมต้องค้นคว้า แปลเอกสาร ตรวจสอบความถูกต้อง กลั่นกรอง เรียบเรียง ใช้เวลา ใช้สมอง ใช้ประสบการณ์ การก๊อปไปเฉยๆ อาจทำให้คนอื่นคิดว่าคนที่นั่งคิดนั่งเขียนแทบตายห่ากลายเป็นคนก๊อป ผมเจอเพจที่เอาเรื่องของผมไปตัดโน่นนิดนี่หน่อยให้เป็นงานของตัวเอง ไม่อ้างอิงที่มา ไม่ละอายใจหรือ .. สงสัยอะไร comment ไว้ ผมจะมาตอบ แต่ถ้าใครมาแสดงความไพร่หรือด่าทอใครให้พื้นที่ของผมสกปรก ผมจะลบโดยไม่ลดตัวลงไปยุ่งเกี่ยว อยากระบายไปหาที่ของตัวเองครับ หมายังขี้เป็นที่เป็นทางเลยจ้ะ นี่ก็เคยเจอ ไม่รู้พ่อแม่สอนมายังไง!!!

วันพฤหัสบดีที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2557

การแต่งงานกับคนคริสต์ /กะละมังเลี้ยงปลา / Thu. 2 Jan., 2014

ตื่น 8 โมงครึ่ง เอื้อมไปลูบสะโพกบ๊าคถามว่า หิวหรือยัง เขาผงกหัวมามอง ผมลุกแล้วบอก มากินข้าว กระโจนขึ้นมาเลยครับ คงหิวจัด ผมวางชามให้เขาแล้วกลับมาซุกตัวใต้ผ้านวม หนาวว่ะ .. พอบ๊าคกินเรียบร้อย ซึ่งใช้เวลาสั้นมาก เขาก็มาขึ้นที่นอนของเขาเหมือนกัน ผมบอกเขาว่า นอนต่อแป๊ปนึง หนาว เขาก็นอนขด ผมเลยดึงผ้าแพรมาห่มให้เขาด้วย นอนไม่หลับหรอกครับ แค่อยากอยู่ใต้ผ้าห่มอุ่นๆ อีกสักครู่ นอนลูบๆ ตัวเขาอยู่สัก 15 นาที ก็ลุกมาเอายายัดปาก แล้วพาไปอึ
ตอนที่นอนๆ ก็นึกว่า น่าจะหาชั้นมาใส่ของให้เขาดีกว่า มันวางเรียงเต็มโต๊ะคอมไปหมดแล้ว ฝุ่นจับ เผื่อจะใช้โต๊ะด้วย ไปซื้อยาให้เขาด้วยเลยจะได้ไม่ต้องออกไปตอนมืดๆ ในวันทำงาน  น่าจะใช้เวลาไม่นาน
ผมไปแวะหาคุณหมอวรรณพงศ์ก่อน โชคดีที่ไม่มีคนไข้ เลยได้คุยกับคุณหมอนานหน่อย คุณหมอท่านกรุณาให้คำปรึกษาเยอะเลย จากนั้นก็แวะไปดูชั้นวางของ ทีแรกดูที่เป็นไม้ มันไม่ค่อยเข้าท่าว่ะ ขนาดเล็กเกินไป น้ำหนักมากเกินไป เลยไปดูที่เป็นพลาสติก น่าสนใจ เลือกอยู่ราวครึ่งชั่วโมง เป็นพลาสติคใส 4 ชั้น ดูดีและเหมาะกับการใช้งาน เคลื่อนย้ายง่าย น้ำหนักเบา
ผมตั้งใจจะเลี้ยงปลาจรเข้อีก ซึ่งน้องชายเขาว่าจะซื้อมาให้ปลายเดือนนี้ มีเสกป่าช้าวันที่ 25 เขามาทุกปีไม่มีขาด .. คิดว่าควรอนุบาลให้โตสักหน่อยค่อยปล่อยลงบ่อ ทำไมไม่เอาตัวโตๆ เลย มันแพงไงครับ ปลาจะโตเร็วมากถ้าอาหารสมบูรณ์ ไม่จำเป็นต้องเสียเงินมาก และผมอยากเห็นมันโตสักพัก ถ้าลงบ่อไปแล้วก็ลืมได้เลย คุณจะแค่รู้ว่ามันมี นานๆ จะได้เห็นสักครั้ง ตอนแรก ผมคิดว่าจะเลี้ยงใส่โอ่งไว้ก่อน แต่คงไม่ได้เห็นมันชัดๆ เลยไปซื้อกะละมังสีฟ้าใสมา 1 ใบ กะว่าจะเอาฝาชีครอบกันกระโดด .. คงตลกดี พ่อผมขำตอนที่เล่าให้ท่านฟังแผนการ ส่วนแม่บอกว่ากะละมังมันเล็กไป ควรใหญ่กว่านี้ อย่างน้อยจะได้ดูมันกินอาหารชัดๆ ก็คงแค่ 2-3 สัปดาห์ ที่ผมต้องช้อนลูกปลาให้กิน ผมลืมสวิง ของพ่อมีนี่นา แต่อันเบ้อเริ่มจนคอนแทบไม่ไหว ควานไปปลาหนีหมด เดี๋ยวต้องลองดูก่อน
จากนั้นเข้าตลาดซื้อยาให้บ๊าค รถติดเหลือเชื่อ และหาที่จอดรถไม่ได้เลย ผมวนอยู่ไม่ต่ำกว่า 5 รอบ ลองเข้าไปในโรงพักก็ยังหาที่จอดไม่ได้ กูได้บุกรังตำรวจแล้วว่ะ .. ชายน้ำก็ไม่มีที่จอดรถ สุดท้ายมาได้ที่ใกล้ๆ ร้านขายยา คันข้างหน้าเขาออกพอดี โชคดีจัง .. ผมซื้อยาสำหรับ 2 เดือน เพราะรถติด ปกติก็มักจะหาที่จอดรถยากอยู่แล้ว ส่วนใหญ่จะมีที่จอดที่ต้องเดินไกลหน่อย แต่วันนี้มันเหลือเกินจริงๆ
ขอบคุณโครงการรถคันแรก ที่ทำให้ถนนมีที่ไม่พอให้รถวิ่ง ไอ้เหี้ยพวกนี้มันบอกแต่ผลประโยชน์ที่จะได้จากโครงการประชานิยม แต่ไม่บอกถึงปัญหาที่จะตามมา จากโครงการแหกตาหาผลประโยชน์ใส่ตัวของพวกแม่มัน .. ซึ่งผมคิดว่าคนที่ซื้อรถคันแรกไป คงรู้ซึ้งถึงปัญหาที่ต้องเจอดีแล้ว ไม่รวมถึงเรื่องหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น เงินที่ไม่สามารถเอามาใช้จ่ายตามปกติเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และความล้มเหลวของโครงการ เอาแค่เรื่องเดียวนี่ก็ชิบหายไม่รู้เรื่องแล้ว ยังไม่ต้องพูดถึงการจำนำข้าว การพักหนี้ดี โครงการน้ำ ยันบ้านเอื้ออาทร เดี๋ยวจะมีเรื่องการลดภาษีเงินได้อีก ลองไปศึกษาดูดีๆ เถอะ มันไม่ได้ดีอย่างที่พูดหรอก .. มันเป็นโครงการประชานิยมที่ล้มเหลวทั้งสิ้น ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคนบางกลุ่มยังไม่เข้าใจ ไม่รู้เรื่อง แถมยังปิดหูปิดตาตัวเองอยู่ร่ำไป อย่างนี้จะเรียกว่าไงดี
ออกไปตอน 10 โมง ถึงบ้านเกือบบ่าย 2 รถติดตั้งแต่เส้นโสธร ทั้งๆ ที่ควรใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง อ้อ ผมเจอรถคันหนึ่งประทับใจมาก เป็นรถเล็กสีฟ้าเข้มป้ายแดง กระโปรงหน้าลงยันต์มาเกือบเต็ม ทีแรกเห็นไกลๆ ผมคิดว่าเพ้นต์มาเสียอีก ผมเลยคิดว่ามันคงเป็นไอเดียที่บรรเจิด กับการเพ้นต์กระโปรงรถเป็นลักษณะการเขียนยันต์แบบนั้น มันเท่มาก เสียดายที่ผมเป็นคาทอลิก พ่อคงไม่ยอมแน่ ดีไม่ดีบาทหลวงเรียกไปคุยล่ะแย่เลย
แม่ผมเคยไปเล่าให้บาทหลวงฟังว่า มันไปโกนหัวมาด้วยซ้ำ ตอนที่ท่านถามว่าไม่เคยเห็นลูกมาวัดเลย ท่านเลยบอกกับแม่ว่า ถ้าแม่พูดแล้วไม่ฟังท่านจะช่วยสอนให้ก็ได้ แค่นี้ผมก็หนาวแล้วล่ะครับ ถึงผมไม่เข้าวัดผมก็ไม่ได้ทิ้งพระนะคุณ อยู่บ้านก็ได้ยินพิธีมิสซา เหมือนได้ไปเข้าวัดนั่นแหละครับ ..
แต่การไปคุยกับนักบวชเป็นเรื่องยากลำบาก ผมเคยได้คุยกับท่านครั้งหนึ่ง ตอนที่ไปขออนุญาติถ่ายภาพบริเวณวัดไปขึ้นบล็อคของวัดเซนต์ร็อค ไม่ได้ตั้งใจหรอกครับ พอดีท่านยืนรดน้ำต้นไม้อยู่ จึงขออนุญาติเจ้าที่เจ้าทางตามมารยาท เลยพูดคุยเรื่องอื่นนิดหน่อย สรุปได้ว่าท่านเป็นคนอ่านหนังสือมาก รู้มาก (อันนี้ชมนะครับ รู้มากดีกว่ารู้น้อย จริงไหม) สิ่งที่ท่านพูดเถียงไม่ได้ มันจริงหมด อันนี้น้องชายผมก็เห็นตรงกัน เขาเคยได้คุยกับท่านตอนที่มาแสดงความจำนงค์ขอจัดพิธีแต่งงาน
เขาไม่ได้แต่งงานที่วัดนี้ แต่ไปใช้วัดที่เพรชบุรีบ้านแฟนเขา หลักการคือต้องมาแจ้งที่วัดบ้านเกิด จะมีการติดประกาศไว้ที่วัดราว 1 เดือน เผื่อมีใครคัดค้านก็ให้ไปแจ้งกับคุณพ่อเจ้าวัด ถ้าไม่มีก็ทางสะดวก คุณน้องสะใภ้ผมเขาเป็นพุทธจีน มีคนมากมายเข้าใจผิดว่า การแต่งงานกับคนคริสต์จะต้องเปลี่ยนศาสนา ความจริงไม่ใช่ เราแค่ขอให้ทั้งสองฝ่ายเข้ารับการอบรมทางคริสต์ราว 4 ครั้ง ครั้งละ 2 ชั่วโมง ถ้าอยู่ในกรุงเทพและปริมณฑลจะมีที่วัดมหาไถ่ .. ซึ่งจะพูดถึงการปรับตัวเข้าหากัน ของคนที่มีที่มาของความเชื่อที่แตกต่างกัน โดยวิทยากรทั่วไปบ้าง นักบวชบ้าง จบครอสก็จะส่งเรื่องไปทางวัดที่จะจัดพิธีแต่งงานว่า ทำได้แล้ว แค่นั้น
อีกเรื่องที่คนพุทธไม่ค่อยเข้าใจ ถ้าแต่งงานกับคนคริสต์ ลูกจะต้องนับถือศาสนาคริสต์ .. อันนี้ก็ไม่จำเป็น เพียงแต่การที่พ่อแม่ได้เข้าพิธีแต่งงานในโบสถ์ จะทำให้ลูกที่เกิดมามีสิทธิได้รับศีลล้างบาปเลย ปกติจะรับกันตอนอายุราว 1 เดือน .. หากคนโตๆ แล้วอยากเข้าศาสนาคริสต์ จะต้องเรียน ต้องสอบ เยอะมาก ค่อนข้างยากเย็น พ่อแม่ส่วนใหญ่จึงให้เด็กรับศีลล้างบาปก่อน ถ้าโตขึ้นเขาอยากเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอื่น ก็สามารถทำได้เลยไม่ต้องยื่นเรื่องอะไรทั้งสิ้น ถือเป็นสิทธิอันพึงมีพึงได้เท่านั้นเอง
ถึงบ้านได้ล่ะดีใจ ขนของมากองไว้ในบ้านแล้วยัดยาให้ลูกบ๊าคก่อน เลยเวลาแล้ว เขาดีใจมากๆ ที่ป๊ากลับมา (ตอนอยู่บ้าน ไม่เห็นจะสนใจกูเลย เรียกก็แค่กระดิกหาง คุยด้วยก็แค่เหลือบมอง เลิกคิ้ว อะไรของมันวะ) .. หาข้าวกินก่อน วันนี้ยังไม่ได้กินอะไรแม้แต่กาแฟ ตามด้วยขนมหวานสักถ้วย ชงกาแฟมา 1 แก้ว มันติดเข้ากระดูกไปเสียแล้ว กะว่าจะงีบสักครึ่งชั่วโมง เข้าไปเจออากาศในเมืองทีไร ผมจะเพลียมาก เคยคิดเหมือนกันว่า ถ้าอยู่ในเมืองแล้วสูบบุหรี่เท่านี้ ผมคงแย่ไปแล้วล่ะ แต่บ้านนอกอากาศค่อนข้างดี ยังสูบได้อีกหลายปี เคยได้ยินไหมที่เขาว่า อยู่อย่างมีสุขสั้นๆ ดีกว่าอยู่อย่างไม่มีสุขนานๆ .. มันเกี่ยวกันตรงไหนวะ เกี่ยวครับ เกี่ยวหมดแหละ
ที่ตั้งใจว่าจะลุกมาถากหญ้าสัก 3.30 กลายเป็น 5 โมงเย็น ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ให้กดปิดเฉยๆ .. ดูบ๊าคเดินไปเดินมา ดูออกไปข้างนอก หน้าบ้านบ้างหลังบ้านบ้าง พอถามหิวรึยัง เขาเดินมาหาเอาคางเกย แหมมันอ้อนก็เป็นเหมือนกันนะ เลยเอาอาหารให้ นั่งดูเขากินอยู่ มันเร็วมากจนต้องถาม นั่นกินเหรอลูก ทำไมเร็วจัง .. หมาใหญ่จะกินไม่เคี้ยว ถ้าหมาเล็กๆ คงกินน่ารำคาญกว่าจะหมดชาม
อยากออกไปเร็วๆ ผมก็เก็บผ้าก่อน ผ้าห่มเขาน่ะ ถ้าไม่ตากแดดมันจะเหม็นสาบหมา แต่น้องผมก็ว่าบ๊าคไม่เหม็นนะ ไม่ต้องกังวล หมอนี่ไม่มีพูดเอาใจหรอก ตอนหมาเหม็นเขาก็บอกเหม็นชิบหาย บ๊าคเร่งจนผมลนลาน พอเอาที่กั้นประตูออก พวกก็ลาก วิ่งตามแทบไม่ทัน ปล่อยวิ่งไปเองไม่ได้หรอกครับ เดี๋ยวข้ามไปบ้านข้างๆ ล่ะงามเลย เขามีหมาตัวเล็กกับหมาใหญ่อย่างละตัว เห็นทีไรขนตั้งเลย แถมมีไก่อีกฝูง คงไม่ไหวจะเคลียร์
ดีที่เขารู้ว่าต้องไปด้วยกัน ใส่เข็มขัดกับสายจูงก่อนค่อยออกไป พอเอาเข็มขัดไว้ตรงหน้า เขาเอาหัวใส่เข้ามาเลย มันหลวมๆ น่ะครับ หยุดหลายวันนี่ผมไม่ได้ล่ามเขาเลย ลืมเชือกไปหรือยังไม่รู้ ถ้าไปทำงานต้องล่ามครับ พ่อชอบเปิดห้องแล้วลืมปิด เดี๋ยวหมาหายล่ะสบายเลย
การล่ามคือ ใช้เชือกไนล่อนเส้นใหญ่ทำห่วงคล้องคอหลวมๆ ยาวเกือบ 4 เมตร ผูกไว้กับขาตั่งที่บางทีเขาก็ลากไปได้เป็นเมตร ในขณะที่ผมลากแทบไม่ไหว .. บ๊าคไม่เคยเอาหัวออกเองได้ ไม่เหมือนหมาไทย ลูกๆ ผม ไม่เคยเอาหัวออกมาจากบ่วงหลวมๆ ได้เองเลย ทั้งๆ ที่ผมเอาเข้าเอาออกบ่อยๆ เวลาพาไปขับถ่าย ก็เปลี่ยนไปใช้สายจูง ซึ่งเวลาผมจับเชือกพวกเขาก็รู้ว่าต้องเอาหัวถอยไปข้างหลัง เวลาให้ใส่พวกเขาก็เอาหัวยัดเข้ามา ตลกดีที่ผมก็เป็นเหมือนกัน ไม่ยอมเอาตัวเองออกมาจากบ่วงสักทีน่ะครับ คอยแต่จะยัดหัวเข้าไปอยู่นั่นแล้ว
เย็นนี้บ๊าคใช้เวลาไม่มากนัก อึยังไม่แข็งแต่ก็ไม่เหลว พาเขาเข้าบ้านเช็ดก้นให้ แล้วผมก็ไปเปลี่ยนรองเท้า เอาจอบถากมาลับสักหน่อย ทื่อมากก็หนักแรง เหลือเวลาอีกชั่วโมงครึ่งกว่าจะมืด คงทำได้พอสมควร ผมไปถากหน้าบ้านส่วนที่เหลือทิ้งไว้จากเมื่อเดือนก่อน แล้วมีไอเดียว่าจะเอาพลูด่างยักษ์มาเกาะด้านที่บ๊าคอาบน้ำคงดี เขาจะได้ไม่มีสิ่งเร้ามากนักตอนอาบน้ำ มีอยู่เป็นดงเลย รกจนน่ากลัวงูมาอยู่ ผมตัดออกมาได้พอสมควร วางทิ้งไว้ก่อน พรุ่งนี้คงต้องเริ่มงานแต่เช้า ต้องทำราวให้เขาเกาะ แล้วมีหญ้าอีกดงให้ถาก
เก็บของตอนใกล้มืด สะบัดเสื้อผ้าให้ฝุ่นออกไปบ้าง ล้างแขนขาแล้วมารื้อของที่ซื้อมา จัดเก็บเสียให้เรียบร้อย เสียเวลาจัดของเข้าชั้นอยู่นาน แต่ก็เป็นที่น่าพอใจ ค่อยเป็นระเบียบเรียบร้อยหน่อย กวาดบ้านเสร็จเจ้าบ๊าคอยู่ในท่าหมอบ กำลังเหมาะ ผมเดินไปเอาน้ำเกลือขวดใหม่มาเตรียม เขาเลิกคิ้วมองตลอด พอไปนั่งข้างๆ เช็ดแอลกอฮอล บ๊าคก็ทำตัวสั่นจนน่าสงสาร ผมทั้งปลอบทั้งหลอก กลัวเหรอลูก เจ็บแป๊ปเดียว แล้วจะดีนะ เดี๋ยวเดียวเอง เสร็จแล้วป๊าให้กินขนม ก็ไม่ค่อยยอมแต่ไม่ลุกหนี นั่งลูบๆ อยู่จนเสร็จ ทิ้งไม่ได้หรอกครับ ถ้าเผลอเขาจะลุกหนีทันที .. ให้ขนมตามสัญญา อย่าโกหกหมาเด็ดขาด .. รอพักนึงค่อยให้ยามื้อเย็น แล้วค่อยเอาตัวเองไปอาบน้ำ
โต๊ะคอมโล่งแล้ว แต่การนั่งกับโต๊ะพับที่พื้นข้างๆ ที่นอนบ๊าค มันได้ใกล้ชิดมากกว่า และดูเหมือนเขาจะชอบมากกว่า ถึงมันจะเย็นขาชะมัดป๊าก็ทนได้ เขาหลับได้ดี พอรู้ตัวก็ขยับนิดหน่อยมองหน้าผม แล้วหลับต่อ เลยไม่รู้ว่าหมาติดคนหรือคนติดหมากันแน่ เอาล่ะยามื้อดึกให้แล้ว พาฉี่แล้ว ผมควรพาตัวเองนอนแล้วเหมือนกัน พรุ่งนี้มีงานต้องทำเยอะเลย ถ้าตื่นเที่ยงคงไม่เสร็จเป็นแน่.

ไม่มีความคิดเห็น: