ตื่น 10 โมง .. เขาเรียก นอนเอาบ้านเอาเมือง เคยทำกันไหม ..
ได้ถากหญ้าหน้าบ้าน ซักผ้า กวาดบ้าน ถูบ้าน อาบน้ำหมา 2 ตัว
เจ้าลูกชาย กับหมามรดกของอาที่เก็บมาเลี้ยง ได้ซักผ้าเช็ดตัวหมาด้วย
แล้วก็จับหมาเช็ดหู ตัดขนใต้เท้า ตัดเล็บ แล้วยังได้ตัดเล็บตัวเองอีก
ปาเข้าไปตีหนึ่ง ถึงจบเรื่อง
หลับเป็นตาย รู้ตัวอีกที เจ้าบ๊าคลงจากที่นอนตัวเอง มานอนเอาหลังพิงสีข้าง
ชื่นใจเป็นบ้า หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง
ไม่รู้ว่าเขาตั้งใจอ้อนป๊า หรือหนาว หรือกลิ้งตกลงมา
มันมีที่ว่างไม่ถึงฟุต ระหว่างที่นอนเขากับที่นอนผม
แต่เขาครางอย่างพอใจ เมื่อผมเอาแขนพาดไปบนตัวเขา
แถมยกขาข้างนึงขึ้นให้ลูบอก ลูบไป 2 ที แล้วหลับต่อ
นั่นมันตี 3 กว่า ไม่ใช่เวลาเล่นแล้วลูก
ซึ่งหนามาก พอวางบนเตียงมันเลยสูงจากพื้นราว 70-80 เซนต์
เจ้าบ๊าคขึ้นไม่ได้ ทางเดียวที่จะได้นอนด้วยกันคือ
ผมต้องระเห็จลงมาจากเตียง และนอนบนเสื่อผืนเล็กๆ
ในขณะที่เจ้าบ๊าคมี topper ยางพาราหนา 2 นิ้ว พับครึ่ง
มันเวิร์คมาก สำหรับหมาตัวใหญ่ ๆ
(และแทนหมอนสำหรับหัวผม ตอนเมาจนไม่มีปัญญาจัดการกับที่นอนของตัวเอง)
เขาไม่ให้ผมนอนด้วยนานๆ เขาจะรำคาญแล้วลุกไปนอนที่อื่น
ที่ผมไม่ซื้อให้ตัวเองอีกอัน เพราะมันไม่ไหวจะยกเก็บ .. หนักนะคุณ
ปล่อยให้รก เดี๋ยวงูมาแอบ ฝนตกดินแห้งช้า แล้วทำให้เท้าเลอะ
ผมจะเลี้ยงหญ้าไว้แปลงหนึ่ง คอยตัดไว้ ให้เค้าเดินเล่นตอนหน้าฝน
มีผ้าเช็ดเท้า ก่อนเข้าบ้าน (มันคือผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่นั่นแหละ)
นี่คือชีวิตที่อุทิศให้กับหมา โดยแท้
เรื่องสะดวกสบายของตัวเอง ก็พอมีได้
แต่นั่นต้องหลังจากจัดการให้เจ้าลูกชายมีความสะดวกสบายเสียก่อน
ก็เป็นชีวิตที่ไม่เลว ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น