While I thought that I was learning how to live, I have been learning how to die - Leonardo da Vinci

บทความเหล่านี้ หากเป็นประโยชน์กับท่าน ผมก็ดีใจ หากจะนำไปใช้ที่อื่น ผมก็ยินดี แต่กรุณาอ้างอิงที่มานิดนึง จัดเป็นมารยาทพื้นฐานในการใช้บทความของผู้อื่นใน internet หลายเรื่องผมต้องค้นคว้า แปลเอกสาร ตรวจสอบความถูกต้อง กลั่นกรอง เรียบเรียง ใช้เวลา ใช้สมอง ใช้ประสบการณ์ การก๊อปไปเฉยๆ อาจทำให้คนอื่นคิดว่าคนที่นั่งคิดนั่งเขียนแทบตายห่ากลายเป็นคนก๊อป ผมเจอเพจที่เอาเรื่องของผมไปตัดโน่นนิดนี่หน่อยให้เป็นงานของตัวเอง ไม่อ้างอิงที่มา ไม่ละอายใจหรือ .. สงสัยอะไร comment ไว้ ผมจะมาตอบ แต่ถ้าใครมาแสดงความไพร่หรือด่าทอใครให้พื้นที่ของผมสกปรก ผมจะลบโดยไม่ลดตัวลงไปยุ่งเกี่ยว อยากระบายไปหาที่ของตัวเองครับ หมายังขี้เป็นที่เป็นทางเลยจ้ะ นี่ก็เคยเจอ ไม่รู้พ่อแม่สอนมายังไง!!!

วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เคลียร์ความคิดให้ได้ / Thu. 30 Oct., 2014



วันนี้ผมตัดสินใจไปเดินเล่นด้านหลังบ้านก่อน ตามรอยเท้าเจ้าบ๊าคไป เดินไปตามทางที่เขาเดิน หยุดดูอย่างที่เขาดู แล้วย้อนมาถอดรองเท้าเดินด้านหน้าบ้าน เพียงต้องการสัมผัสความรู้สึกยามที่เท้าเหยียบย่ำลงบนพื้นหญ้า อย่างที่เขาเคยได้สัมผัส
พื้นดินยังเปียกชุ่ม จากฝนตกหนักเมื่อวันก่อน ใต้ต้นแสงจันทร์แดดส่องไม่ถึง ผมเดินไปถึงบริเวณที่เป็นดิน เพราะอยากรู้ว่า มันให้ความรู้สึกยังไง ทำไมเขาอยากเดินลงไป ทั้งๆ ที่มันจะเลอะเท้า และผมมักจะไม่ยอมให้เขาเดินลงไป ผมมองไปตามพื้น ก็พบรอยเท้าของบ๊าคที่ย่ำไว้ก่อนหน้านั้น ในวันที่เขายังเดินไหว ฝนตกดินยังไม่ทันแห้งดีก็ตกอีก เลยกลายเป็นการประทับรอยเท้าไว้ ผมกลับเข้าไปหยิบกล้องถ่ายรูป แล้วเดินหารอยเท้าของบ๊าคตามพื้นดิน ไปจนถึงโคนกล้วยทางด้านซ้าย ที่เขามักจะไถลลงไปในหลุมตื้นๆ เกือบทุกครั้งที่พยายามยกขาฉี่ตรงนั้น ยังมีรอยดินไหลลงไปตามแรงของเขา
ผม อยากเก็บทุกอย่างไว้ในความทรงจำ แต่ความทรงจำบางครั้งก็ลบเลือน การมีภาพเก็บไว้ จะช่วยสะกิดความทรงจำได้ ในวันที่ลืมเลือน
ตอนหัวค่ำ ผมนั่งนึกทบทวนถึงสิ่งที่ผมพยายามทำเพื่อเขา ถูกหรือผิด ผมเองก็ไม่แน่ใจ ถ้าผมไม่พยายามมากเกินไป เขาอาจอยู่ได้นานกว่านี้ หรือถ้าผมไม่พยายามทำอะไร เขาอาจอยู่ได้นานกว่านี้หรือน้อยกว่านี้ ใครกล้าตอบได้ ..
ยังไงก็ตาม ผมไม่คิดโทษตัวเอง ประสบการณ์ในชีวิตสอนผมว่า เมื่อถึงเวลาที่คิดว่าควรทำแล้วไม่ทำ หรือคิดว่าไม่ควรทำแล้วทำ เมื่อเวลาผ่านไปจะต้องเสียใจทีหลัง อย่างน้อย ผมก็พยายามอย่างดีที่สุดแล้ว เพื่อเขา ไม่ว่ามันจะถูกต้องหรือไม่
ผมคิดค้นหา ว่าอะไรคือแรงผลักดัน ให้ผมทำสิ่งต่างๆ ดิ้นรนมากมาย เพื่อยื้อชีวิตใครสักคน พยายามทำทุกอย่างที่ทำได้ ให้เขารู้สึกดีที่สุด สบายที่สุด ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ ..
มันคือความรักล้วนๆ รักที่ไร้เงื่อนไขอย่างแท้จริง ซึ่งในคนกับคนไม่มีทางที่จะเกิดขึ้นได้ คุณลองทบทวนดูเถอะ เคยมีใครไม่คาดหวังอะไรจากคุณไหม อย่างน้อยที่สุดพวกเขาก็หวังให้คุณได้ดังใจเขา ไม่มีใครที่รักคุณแล้วมองดูคุณเป็นไป อย่างที่คุณเป็น โดยไม่แทรกแซงหรอก ..
แต่กับสัตว์ จะมีอะไรให้คุณคาดหวังเล่า และเขาตอบแทนการดูแลของคุณ ในรูปแบบของการสอนคุณ ให้เรียนรู้ที่จะพยายามเข้าใจทุกสิ่ง เรียนรู้ที่จะรัก สุข ทุกข์ ห่วงหา อาลัย เมื่อคุณเข้าใจคนที่พูดกับคุณไม่ได้ การทำความเข้าใจคนที่พูดได้ มันก็ง่ายดายยิ่งนัก
สิ่งที่ได้จากการมีปฎิสัมพันธ์กับสัตว์ มันมากกว่าที่คุณคิด หรือสนใจที่จะคิด มันเป็นไปโดยธรรมชาติ คุณจะไม่รู้ถึงความเปลี่ยนแปลงในความคิดคุณ ถ้าคุณไม่ใส่ใจลองทบทวน คนเลี้ยงสัตว์อย่างจริงจังจะเข้าใจ ถ้าคุณไม่ใช่คนประเภทนั้น ก็อย่ามาคุยกับผมเรื่องสัตว์ ให้เสียเวลา.

ไม่มีความคิดเห็น: