While I thought that I was learning how to live, I have been learning how to die - Leonardo da Vinci

บทความเหล่านี้ หากเป็นประโยชน์กับท่าน ผมก็ดีใจ หากจะนำไปใช้ที่อื่น ผมก็ยินดี แต่กรุณาอ้างอิงที่มานิดนึง จัดเป็นมารยาทพื้นฐานในการใช้บทความของผู้อื่นใน internet หลายเรื่องผมต้องค้นคว้า แปลเอกสาร ตรวจสอบความถูกต้อง กลั่นกรอง เรียบเรียง ใช้เวลา ใช้สมอง ใช้ประสบการณ์ การก๊อปไปเฉยๆ อาจทำให้คนอื่นคิดว่าคนที่นั่งคิดนั่งเขียนแทบตายห่ากลายเป็นคนก๊อป ผมเจอเพจที่เอาเรื่องของผมไปตัดโน่นนิดนี่หน่อยให้เป็นงานของตัวเอง ไม่อ้างอิงที่มา ไม่ละอายใจหรือ .. สงสัยอะไร comment ไว้ ผมจะมาตอบ แต่ถ้าใครมาแสดงความไพร่หรือด่าทอใครให้พื้นที่ของผมสกปรก ผมจะลบโดยไม่ลดตัวลงไปยุ่งเกี่ยว อยากระบายไปหาที่ของตัวเองครับ หมายังขี้เป็นที่เป็นทางเลยจ้ะ นี่ก็เคยเจอ ไม่รู้พ่อแม่สอนมายังไง!!!

วันเสาร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2556

บทกวีอังกฤษ..โคลงโบราณ กับเรื่องน้ำเน่าของผม


Wert thou that just Maid was once before
Forsook the hated earth, O tell me sooth,
And cam'st again to visit us once more?
Or wert thou that sweet smiling Youth!
Or any other of that heav'nly brood
Let down in cloudy throne to do the world good.

Or wert thou of the golden-winged host,
Who having clad thyself in human weed,
To earth from thy prefixed seat didst post,
And after short abode fly back with speed,
As if to show what creatures Heav'n doth breed,
Thereby to set the hearts of men on fire,
To scorn the sordid world, and unto Heav'n aspire.

ไม่แปลนะครับ เพราะภาษาอังกฤษของผม มันห่วยแตก แต่ก็ยังพอที่จะสามารถซาบซึ้งกับโคลงบทนี้ได้ ถ้าพยายามแปล จะทำให้สูญเสียความงามของภาษา ที่เขาบรรจงแต่งมันขึ้นมา และคงแปลได้ทุเรศน่าดูชม แต่ถึงใครจะแปลได้ ผมก็ขอบอกว่า อย่าแปลเลย .. เสียดายความงามของบทกวีดั้งเดิมเขาครับ งานศิลป์ มันต้องสัมผัสด้วยใจ..

ผมรู้จักโคลงบทนี้เป็นครั้งแรก น่าจะไม่ต่ำกว่า 15 ปีก่อน จากหนังสือแปลเล่มหนึ่ง “only love is real” หรือ เราจะข้ามเวลามาพบกัน แต่งโดย Dr. Brian L.Weiss แปลโดย คุณมณฑานี ตันติสุข สโลแกนที่น่าประทับใจของหนังสือเล่มนี้คือ the story of soulmate reunited เป็นเรื่องจริงจากการบันทึกเสียงโดยจิตแพทย์ ที่ทำการบำบัดความกลัวโดยไร้เหตุผลของคนไข้ ด้วยการสะกดจิตระลึกชาติ มันเลยนำมาซึ่งคำถามว่า การพบกันของแต่ละคน มันคือ โชคชะตา ชะตากรรม หรือความบังเอิญ (destiny-fate-coincidence) พูดถึงเรื่องการกลับชาติมาเกิด และการกลับมาพบกันใหม่ อะไรแบบนี้ ก็เป็นหนังสือที่น่าประทับใจ ไม่รู้ยังมีขายกันอยู่หรือเปล่า แต่มีให้ download นะ หาดีๆ เถอะ ผมเจออยู่ แต่ก็ยังไม่ได้อ่านอีกรอบ.

การอ่านหนังสือเล่มนี้ด้วยความประทับใจ มันเลยส่งผลต่อการคิดในเวลาต่อมาของผมด้วย (มันแอบลงไปอยู่ในจิตใต้สำนึกละมัง) ถึงมันจะนานจนเกือบจะจำเรื่องราวไม่ได้ (ผมเป็นคนอ่อนไหวน่ะ) มีอยู่ครั้งนึง ที่ผมพบคนๆ หนึ่ง แล้วรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มคุยกันด้วยซ้ำ จนผมต้องหาทางทำทุกอย่างให้ได้คุยกับเขา หาทางทำทุกอย่างให้เขามาอยู่ใกล้ๆ  พอเริ่มคุยกัน มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่า เหมือนเรารู้จักกันมานานแสนนาน อยากจะปกป้อง ดูแลเขา รักเขา โอ้..น้ำเน่าสุดๆ หล่ะ.. เรื่องที่เหลือ ก็ช่างหัวมันเถอะ บางทีอาจเป็นความไร้สติของตัวผมเองแหละ ที่เปิดโอกาสให้เจ้ากรรมนายเวรทำงานของเขาได้ ก็นะ..แต่มันไม่ใช่ประเด็นที่เราจะมาพูดถึงกันตอนนี้ แค่อยากยกตัวอย่างให้ดูน่ะครับ ถ้ามีอะไรแบบนี้เกิดชึ้นกับคุณ จงใช้สติให้มาก อย่าใช้ความรู้สึกอย่างเดียว มันจะลำบากทีหลัง

กลับมาที่ตัวบทโคลงดีกว่า โคลงบทนี้เขียนขึ้นโดย John Milton กวีชาวอังกฤษ ในปี 1628 เป็นเรื่องเกี่ยวกับโรคระบาดที่ทำให้เด็กๆ ตายกันมาก (On the Death of a Fair Infant Dying of a Cough) ถ้าผมจำไม่ผิดนะ ผมได้มีโอกาสอ่านทั้งเรื่องแล้ว ก็แค่ไม่กี่หน้ากระดาษ บทที่นำมาพูดถึงนี้ เพราะที่สุดแล้วครับ จินตนาการได้มากหลายด้วย ทั้งๆ ที่มันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ เลย 

นอกจากนี้ยังมีโคลงที่น่าอ่าน เช่น paradise lost แต่งโดย John Milton เหมือนกัน เป็นเรื่องเกี่ยวกับพระธรรมเก่า สวยงาม แต่ภาษายากสุดๆ ผมอ่านได้ไม่จบ, psalm ก็เป็นเกี่ยวกับพระคัมภีร์อีกแหละ อันนี้มีแปลไทยด้วยมั๊ง ผมไม่แน่ใจ, อีกอันที่ควรอ่านอย่างยิ่งครับ บทกวีของ Dante Alighieri เรื่อง The Divine Comedy ชื่อไทยคือ สายน้ำแห่งความตาย ซึ่งไม่ยาวเท่าไหร่ แค่ 398 หน้าเอ4 เท่านั้น แต่ผมขอแนะนำว่า อย่าไปอ่านตัวที่แปลเป็นไทยเลย มันจะเสียอรรถรสไปมาก อ่านอังกฤษไปแหละ เปิดดิกเอาแล้วดูภาพไปด้วย คุณจะไม่ถูกจำกัดเรื่องจินตนาการ อยากให้ลองอ่านกันดูครับ เพราะ Dante ถูกขนานนามว่าเป็นมหากวีเลยทีเดียว และเป็นบิดาแห่งภาษาอิตาลีด้วย  เรื่องนี้ถูกเขียนขึ้นในระหว่างปี 1308 - 1321 เป็นการอธิบายเกี่ยวกับโลกหลังความตายในคริสตศาสนา แบ่งเป็น 3 ตอน ได้แก่ Inferno (นรก) Purgatorio (ดินแดนที่วิญญาณรอการพิพากษา) และ Pasadiso (สวรรค์) บทกวีเขียนด้วยมุมมองบุคคลที่หนึ่ง กล่าวถึงการเดินทางของ Dante ผ่านอาณาจักรแห่งความตายทั้งสามโดยมีผู้นำทาง เป็นบทกวีที่ได้รับการยอมรับกันในระดับอภิปรัชญาและเป็นกวีนิพนธ์ชิ้นเอกของภาษาอิตาลีและของโลก ไม่ควรพลาดครับ, ขอผมแนะนำนิทานฝรั่งสักเรื่องนะครับ เรื่อง Rime of the ancient mariner ก็ดีทีเดียว เรื่องนี้ผมรู้จักมาจากบทเพลงของ iron maiden ดนตรีมันสวยงาม จนเกิดความอยากรู้อยากเห็น ต้องหามาอ่าน ลองดูครับ เป็นการเปิดหูเปิดตาตัวเองให้กับงานศิลป์บ้าง อย่าให้ชีวิตมันเคร่งเครียดนักเลย

ไม่มีความคิดเห็น: