While I thought that I was learning how to live, I have been learning how to die - Leonardo da Vinci

บทความเหล่านี้ หากเป็นประโยชน์กับท่าน ผมก็ดีใจ หากจะนำไปใช้ที่อื่น ผมก็ยินดี แต่กรุณาอ้างอิงที่มานิดนึง จัดเป็นมารยาทพื้นฐานในการใช้บทความของผู้อื่นใน internet หลายเรื่องผมต้องค้นคว้า แปลเอกสาร ตรวจสอบความถูกต้อง กลั่นกรอง เรียบเรียง ใช้เวลา ใช้สมอง ใช้ประสบการณ์ การก๊อปไปเฉยๆ อาจทำให้คนอื่นคิดว่าคนที่นั่งคิดนั่งเขียนแทบตายห่ากลายเป็นคนก๊อป ผมเจอเพจที่เอาเรื่องของผมไปตัดโน่นนิดนี่หน่อยให้เป็นงานของตัวเอง ไม่อ้างอิงที่มา ไม่ละอายใจหรือ .. สงสัยอะไร comment ไว้ ผมจะมาตอบ แต่ถ้าใครมาแสดงความไพร่หรือด่าทอใครให้พื้นที่ของผมสกปรก ผมจะลบโดยไม่ลดตัวลงไปยุ่งเกี่ยว อยากระบายไปหาที่ของตัวเองครับ หมายังขี้เป็นที่เป็นทางเลยจ้ะ นี่ก็เคยเจอ ไม่รู้พ่อแม่สอนมายังไง!!!

วันเสาร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เมื่อคน คิดอย่างหมา / Sat. 13 July., 2013


เมื่อเย็น พ่อบอกผมว่าเจอกำนันศักดิ์ เขาว่าเจ้า hector ตายแล้ว ตายบนบ้านน่ะแหละ 2-3 วันหลังจากที่เขาเจอพ่อครั้งก่อน คราวก่อนเขาเล่าว่า ยังอยู่นะแต่แก่มากแล้ว ให้ลูกไปเยี่ยมบ้างก็ได้ ... ผม อ่อนแอเกินกว่าจะทำได้ .......... ประมาณว่า เขาน่าจะตายราวกลางเดือนก่อน ก็อายุเกือบ 10 ปี เพราะเขาเกิดพร้อมเจ้า bach - 22 July 2003 .. เล่นเอาผมกินมื้อเย็นทั้งน้ำตา ..  ผมเข้าใจสัจธรรมอีกข้อ ความรู้สึกที่เกิด ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเรื่องมันเกิดหรือไม่ แต่ขึ้นอยู่กับว่า เรารู้หรือไม่
เจ้าบ๊าคเองก็ใช่ว่าจะดี ที่เห็นคึกๆ อยู่ บางวันก็ดูดี บางวันก็ดูแย่ วันไหนที่ดูแย่ ผมก็หลับไม่ลงเอาเหมือนกัน เพราะอาการแย่ของเขาอาจหมายถึงชีวิต ทุกวันนี้เขาอยู่ได้ด้วยยา .. ยาตัวหนึ่งใช้ตอนเที่ยงวันกับเที่ยงคืนตอนท้องว่าง ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจบีบตัวแรงขึ้น ถ้าไม่ใช้ เลือดจะไม่สูบฉีดไปมากพอ น้ำจะคั่งในเยื่อหุ้มหัวใจกับปอด .. หลังอาหารเช้าเย็น แต่ผมให้ห่างกัน 12 ชั่วโมงเป๊ะ ต้องใช้ยาที่ทำให้หัวใจบีบตัวช้าลงเพื่อให้การส่งเลือดดีขึ้น ร่วมกับยาขยายหลอดเลือด ยาขับน้ำ แล้วยังมียาโรคข้อกระดูกอีก .. ตอนห้าทุ่ม ต้องกินยาบำรุงไต .. กินยา 17 เม็ดต่อวัน น้องคนหนึ่งเคยถามว่าถ้าไม่มียาจะอยู่ได้อีกกี่วัน ผมว่าน่าจะไม่เกิน 3-5 วัน .. อาการดีคือ ยังวิ่งได้ ลากผมไหว สนใจโน่นนี่ ดูสดชื่น มีอารมณ์เล่นกับผม และนอนหลับได้ มีละเมอเห่า ตะกุยขา .. ถ้าซึมๆ เชื่องๆ หรือหลับไม่ได้ นั่งหอบเอาเป็นเอาตาย ก็ได้ลุ้นกัน เพราะยามันเกือบจะ maximum แล้ว .. เดี๋ยววันจันทร์บ่ายๆ ก็ต้องไปโรงพยาบาลอีก ยาที่เคยซื้อในเนทหมดครับ เจ้าหน้าที่เขาบอกว่าต้องให้หมอสั่งถึงขายให้ได้ ผมเลยต้องไปให้เจอคุณหมอธนิกา ซึ่งจะเข้าบ่าย 3 ถึง 2 ทุ่มวันจันทร์ หมอเฉพาะทางมันมีน้อย ท่านก็ต้องเดินสายหลายที่
กลับมาที่เจ้า hector .. ถึงผมจะไม่ได้เจอเขาอีกเลย แต่ก็ยังได้ยินเรื่องของเขาอยู่บ้าง คุณกำนันเขาไม่ได้เปลี่ยนชื่อและยังรักษาอยู่กับคุณหมอวรรณพงศ์ ครั้งหนึ่งผมไปช่วงบ่าย แล้วที่คลีนิคเล่าว่ากำนันเขาพาเฮกเตอร์มาฉีดวัคซีนเมื่อเช้า อีกครั้งคือเอามาถอนเขี้ยวก่อนหน้าผมไปวันนึง เพราะไปกัดกับคนอื่นแล้วแผลอักเสบ .. พ่อผมเจอกับกำนันทีไร ผมก็จะได้ข่าวของเฮกเตอร์ทุกครั้ง
ตอนเขาเล็กๆ ผมสนิทกับเขามากที่สุด เขาว่าง่ายที่สุด แต่ก็ดุที่สุดด้วย .. เรามีกรงขนาดใหญ่ 1.5 x 3 เมตร สูง 2 เมตร มีหลังคาเรียบร้อย แบ่งเป็น 2 ห้อง เปิดประตูถึงกันได้ คุณอาอุตส่าห์สั่งต่อมาให้จากพัทยา .. ผมให้เขาอยู่ห้องละ 2 คน .. ราวอายุ 3 เดือน เขากับ max ทะเลาะกัน ปากกัดปากไม่ยอมปล่อย ผมใช้มือง้างปากข้างละคน เพราะกลัวว่าเขาจะกัดกันหน้าตาแหก ไม่คิดว่าแรงกัดของหมาอายุ 3 เดือนจะมากขนาดนั้น เขางับกันอย่างเมามัน มือผมมันคงนุ่มน่างับด้วยมั๊ง .. แยกได้สำเร็จครับ แต่มือผมเละเลย ได้รูตามรอยเขี้ยวรอยฟันครบ กว่าแผลจะหายต้องกรีดกรายอยู่เกือบเดือน .. วันนั้น ผมอุ้ม max ออกมาวางบนโต๊ะ เจ้า hector กล้าลงจากกรงเดินตามมา ยังมันส์ไม่เลิก .. จำได้ว่าตอนนั้นมือผมมันเจ็บจนชา ก่อนที่ความชามันจะหายไป ผมจับเช็ดตัวเสียทั้งคู่ ตรวจดูบาดแผลด้วย มีเลือดนิดหน่อย หาแผลไม่เจอ เช็ดรอบ 2 ก็ไม่มีเลือดอีก ผมต้องเอาเจ้า max มาไว้กรงเล็กชั่วคราว เลยไม่รู้ว่าไอ้เลือดที่เช็ดได้จากหน้าเขา มันเป็นเลือดของผมเองรึเปล่า
นั่นเป็นครั้งแรกในชีวิตที่โดนหมากัด .. ครั้งที่สองเกิดขึ้นตอน bach กับ max ทะเลาะกันเมื่ออายุ 2 ขวบ แล้วผมพยายามแยก คราวนี้ได้แผลเดียวครับ ยาวราว 2 เซนต์ ลึกครึ่งเซนต์ ที่หลังมือ ห่างเส้นเลือดใหญ่ไม่ถึงครึ่งเซนต์ และทุกวันนี้ผมก็ยังไม่รู้ว่าเขี้ยวใคร .. ดีที่น้องชายมาบ้านพอดี เขาเห็นแผลเขาก็ว่า มึงต้องเย็บแล้วล่ะ เขาลากผมไปหาหมอ เจ็บจนจะเป็นลม มันตลกมากที่ทุกคลีนิคไม่รับรักษาให้ต้องไปโรงพยาบาล คุณพยาบาลบอกให้นอน ผมก็คิดอยู่ในใจ แผลแค่นี้ต้องนอนด้วยเหรอวะ แต่ก็ทำตามอย่างว่าง่าย เขาว่าพยาบาลดุกว่าหมาอีกนะ แล้วก็นึกดีใจที่นอนซะดีๆ การล้างแผลโดนหมากัดนี่มันเจ็บชิบหายเลย และเขาไม่ยอมเย็บให้ มันก็เป็นร่องเหมือนหุบเขา ต้องเอาผ้ากอซยัดไว้ซับหนอง ล้างแผลที พยาบาลท่านก็ถูอย่างได้อารมณ์ กว่าจะหาย เป็นเดือนครับ .. เรื่องนี้สอนผมว่า เรื่องของหมา คนอย่าเสือก หลังจากนั้นถ้าใครตีกัน ผมกระโดดหลบก่อนเลย แล้วค่อยใช้สติ หาวิธีที่ถูกต้อง .. และผมไม่ยอมฉีดยากันบ้าทั้ง 2 ครั้ง ก็หมามันฉีดแล้วนี่ ผมจะต้องไปฉีดอีกทำไม เหตุผลที่แท้จริงคือ ผมกลัวเข็มครับ แค่เห็นก็ใจเต้นโครมๆ
หลังจับคู่ใหม่ก็จบปัญหา ผมให้ max อยู่กับ bach และให้ hector อยู่กับ nikolai เพราะ hector ก็เคยทะเลาะกับ bach ด้วย แต่พอมาอยู่กับสาวน้อย nikolai กลับไม่มีปัญหา เท่าที่จำได้เธอเป็นสาวขี้อ้อนครับ ตอนเล็กมากๆ ผมเอาไม้ต่อคอกขนาด 1.5 x 1.5 เมตร สูงฟุตกว่าๆ ให้อยู่กัน เธอเล่นแล้วกระโดดหลุดออกไปนอกคอก เธอตกใจครับแล้วรีบกระโดดกลับเข้ามาเอง ทำให้ผมขำมากเลย เธอตายหลังจากไปอยู่กับกำนันศักดิ์ไม่กี่เดือน ก็ดีครับ หมดกรรมของหมาเร็วดี ..
เมื่อแบ่ง 2 ห้อง ผมก็ต้องแบ่งเวลาให้ทั้ง 2 ห้องเท่าๆ กัน คือเข้าไปให้เขาฟัดน่ะครับ กอดรัดฟัดเหวี่ยง นอนหนุนตัก อะไรแบบนี้ บางทีผมก็หลับอยู่ในนั้น ตื่นมาคือพวกเขามานอนซุกอกอยู่ .. ที่น่าตลกคือตอนพาหาหมอ เนื่องจากกรงอยู่สูงจากพื้นราว 1 ฟุต และมีไม้กั้นปากประตูสูง 1 ฟุต มันเลยง่ายกับการอุ้มพาดบ่า เมื่อผมบอกว่า มาป๊าอุ้ม พวกเขาจะรู้ว่าต้องเอาขาหน้าพาดบ่าทั้งสองข้างของผม เอาขาหลังไว้ที่เอว เหมือนอุ้มลิงเลยครับ ใครเห็นเป็นต้องหัวเราะกันทุกคน .. พอโตหน่อยเราก็จูงเดินกัน แต่ครั้งหนึ่งตอน max 5 ขวบ เราเจอหมาดุที่คลีนิค พอผมบอกว่าป๊าอุ้ม เขาก็ยังจำได้ว่าต้องทำยังไง แม้แต่ครั้งสุดท้ายตอนเขา 7 ขวบ ตอนอุ้มลงจากเตียงพักฟื้น เขาก็ยังจำวิธีได้ และเจ้า bach ตอน 9 ขวบ ก็ยังจำได้เหมือนกัน เมื่อผมอุ้มเขาลงจากโต๊ะตรวจที่โรงพยาบาล แถมกอดไม่ปล่อย .. กลัวครับป๊า .. ต้องบอกเขาว่าอ่ะลงดิ เล่นเอาคุณหมอขำ .. วิธีการนี้ใช้กับ coffee และ candy ไม่ได้ครับ ไม่ได้ฝึกมา เวลาจะอุ้มเลยทุลักทุเลกว่ามาก
ตอนพวกเขาอายุราว 4 เดือน โคนเล็บของ hector โดนขอบกลอนประตูบาด ผมเลยแยกเขาออกมาก่อนใคร ต้องพันแผลให้เนื้อติดกันอยู่หลายอาทิตย์ เขาน่ารักมาก ไม่เคยกัดผ้าพันแผลเลย ซึ่งในคนอื่น เผลอเป็นต้องทำแผลใหม่ .. เราเลยนอนด้วยกันตลอด พออายุได้ 5-6 เดือนก็ตัวโตเกินกว่าจะอยู่ในกรงกันแล้วครับ แล้วผมก็นอนกับหมา
ความจริงผมเริ่มนอนกับหมามาตั้งแต่ก่อนที่ candy จะออกลูกได้ 2-3 วัน และเป็นคนทำคลอดให้เองกับมือ ลูกหมาต้องได้รับการดูแลมากจริงๆ ต้องเช็ดตัว เช็ดอึ ป้อนนม ป้อนน้ำ เปลี่ยนผ้าปูที่นอนทุกวัน ผมห่วงทั้งแม่หมาทั้งลูกหมาจนต้องนอนเฝ้า เลยมีเวลาให้ตัวเองน้อยลง ได้อาบน้ำตัดขนให้ตัวเองบ้างก็บุญละ
จากนั้น .. ผมก็เริ่มมองเข้าไปในตาของพวกเขา เริ่มเข้าไปนั่งในใจของพวกเขา แล้วคิด .. ว่าพวกเขาคิดอะไร รู้สึกยังไง ต้องการอะไร เริ่มเรียนรู้ที่จะเข้าใจ นั่นทำให้ผมเริ่มใช้ชีวิตแบบหมาๆ อย่างจริงจัง และมันเป็นประสบการณ์ที่ดีจริงๆ .. มันเหมือนคุณได้อยู่กับเด็กๆ พวกเขาจะสอนคุณ ให้มีความอ่อนโยนมากขึ้น ละเอียดอ่อนมากขึ้น มีความเข้าอกเข้าใจมากขึ้น คิดอะไรลึกซึ้งมากขึ้น และมีความสุขมากขึ้น .. เงินและเวลาที่เสียไป ไม่อาจเทียบได้กับคุณค่าของสิ่งดีๆ ที่พวกเขามอบให้.

ไม่มีความคิดเห็น: