While I thought that I was learning how to live, I have been learning how to die - Leonardo da Vinci

บทความเหล่านี้ หากเป็นประโยชน์กับท่าน ผมก็ดีใจ หากจะนำไปใช้ที่อื่น ผมก็ยินดี แต่กรุณาอ้างอิงที่มานิดนึง จัดเป็นมารยาทพื้นฐานในการใช้บทความของผู้อื่นใน internet หลายเรื่องผมต้องค้นคว้า แปลเอกสาร ตรวจสอบความถูกต้อง กลั่นกรอง เรียบเรียง ใช้เวลา ใช้สมอง ใช้ประสบการณ์ การก๊อปไปเฉยๆ อาจทำให้คนอื่นคิดว่าคนที่นั่งคิดนั่งเขียนแทบตายห่ากลายเป็นคนก๊อป ผมเจอเพจที่เอาเรื่องของผมไปตัดโน่นนิดนี่หน่อยให้เป็นงานของตัวเอง ไม่อ้างอิงที่มา ไม่ละอายใจหรือ .. สงสัยอะไร comment ไว้ ผมจะมาตอบ แต่ถ้าใครมาแสดงความไพร่หรือด่าทอใครให้พื้นที่ของผมสกปรก ผมจะลบโดยไม่ลดตัวลงไปยุ่งเกี่ยว อยากระบายไปหาที่ของตัวเองครับ หมายังขี้เป็นที่เป็นทางเลยจ้ะ นี่ก็เคยเจอ ไม่รู้พ่อแม่สอนมายังไง!!!

วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ใช้สายคล้องอกกันดีกว่า / Thu. 23 Oct., 2014



การอึรอบดึกเมื่อคืน เป็นไปอย่างทุลักทุเล บ๊าคไปฉี่ข้างแท้งค์น้ำ  น่าจะห่างประตูบ้านไปสัก 5-6 เมตร แล้วล้มฟึ่บ ผมช่วยพยุงให้ลุกขึ้นมา ยังไปต่ออีก ฉี่ได้อีกหลายที่แบบซวนเซ จากนั้นลากผมไปอึเกือบถึงต้นมะขาม ครั้งแรกที่จะอึ นั่งลงไปเลย ดีนะที่อึยังไม่ออกมา ครั้ง 2 อึได้ ผมคอยรั้งไว้ ไม่ให้นั่งทับลงไปบนอึ อีกเมตรครึ่งถึงประตูบ้าน ก็ล้มลงไปอยู่ท่าหมอบ ผมช่วยประคองเขาขึ้น ปัดๆ เนื้อตัว ให้เขาเข้าบ้านไป
ตอนนั้นราวเที่ยงคืน ผมจะให้อาหารมื้อดึก แต่เขาหอบมาก ไม่ให้ดีกว่า เดี๋ยวสำลักตายพอดี  ปล่อยเขานอนกับพื้นเย็นๆ ครึ่งชั่วโมง เห็นตัวสั่นๆ หนาวรึเปล่า เจ็บตรงไหนรึเปล่า .. อยากให้เขานอนสบายๆ ผมก็เอาเบาะลงมาวางให้เขา เอาผ้ายางปูทับเก็บชายไว้ แล้วพยายามทั้งงัด ทั้งดึง ทั้งลากเขาขึ้นไปนอน (มันเป็น topper ยางพาราพับครึ่งน่ะ หนาสัก 3-4 นิ้วได้) จัดท่าให้เรียบร้อย ดูเขาหายใจดี หลับดี ผมก็เตรียมตัวนอน ก่อนนอนยังนึกๆ ผมมีสายคล้องอกนิ่ คราวก่อนใช้ตอนกระดูกสันหลังเขาอักเสบ ก็ไปรื้อมาเตรียมไว้ก่อน น่าจะช่วยพยุงน้ำหนัก ไม่ให้เขาล้มได้ หัวถึงหมอนตอน 12.40 ลงมานอนกับเขาท่าเดิมแล้วครับ
ตี 2 เขาหอบแรงๆ สั้นๆ หนักๆ ผมก็คิดว่าสงสัยจะไปคืนนี้ล่ะมั๊ง ผมไม่ลุกขึ้นมาเปิดไฟตรงหัว (มีอีกดวงที่เปิดทิ้งไว้ด้านไกล ให้แสงราว 30%) ผมนอนอยู่ท่าเดิม ลูบๆ ไหล่เขา (เขาหันหน้ามาทางผมอยู่น่ะ) แล้วก็ลุ้นว่าจะเฮือกๆ เมื่อไหร่ พักใหญ่มากๆ เขาลุกลงไปนอนที่พื้นตรงปลายขา อ้าว ลุกได้เหรอ คราวนี้ต้องเปิดไฟดูกันหน่อย ว่าจะรอดไหม .. เอาหล่ะ ฉี่แตกบนที่นอน ดีนะที่ปูผ้ายางข้างบน ทำความสะอาดง่ายกว่า ที่พื้นระหว่างทางที่ไปนอนที่ใหม่ ฉี่กระจาย ตรงที่นอนลงไปฉี่นองอยู่ใต้ตัว
ผมเช็ดบนเบาะก่อน แล้วโยนขึ้นเตียงไป หมาจะตายไม่ง่ายขนาดนี้หรอก เช็ดพื้นรอบตัว แล้วพลิกตัวเขาขึ้นหน่อย เอาทิชชู่ใหญ่ 4 แผ่นทบครึ่ง วางแล้วปล่อยตัวเขาลงไป รอให้มันซับฉี่สักพัก เปลี่ยนใหม่ 2 รอบก็แห้ง ..
ผมน้ำที่ผสมกับน้ำส้มสายชูไว้ พ่นใส่ทิชชู่ใหญ่แล้วถูตามขน กลิ่นฉี่ แค่น้ำไม่พอ .. จากนั้นจัดการกับพื้น กว่าจะเสร็จ เขาก็หายใจดีขึ้นมากแล้ว เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เล่นเอาผมหิว เลยไปหาอะไรกิน นั่งอ่านหนังสือที่เพื่อนให้ยืมมาเกือบบท แล้วข่มตาให้มันหลับ
ผมเก็บที่นอนชุดใหญ่ของผมโยนขึ้นเตียงไปแล้ว ผ้านวมรองนอน เปียกฉี่บ๊าคที่มุม ผ้าแพรเขาเปียกเยอะเลย เอาล่ะ ผ้าแพรต้องซัก เช้าค่อยว่ากัน ผ้านวม ผมเอาวางกับพื้น ใช้ เดทตอล+น้ำ+น้ำส้มสายชู พ่นให้ชุ่ม เ ดี๋ยวระเหยหมดก็โอเค .. เลยดันตัวเขาไปใกล้ปลายเตียงอีกหน่อย ผมใช้แค่หมอนขวางกับผ้าแพรตัวเอง ขอบคุณพระเจ้าที่หลับไม่รู้เรื่อง นาฬิกาที่ตั้งปลุกไว้ตอนตี 5 ก็กดปิดแล้วไม่ลุก ไม่รู้ตัวด้วย แต่ผมกดเองแหละ บ๊าคคงทำไม่ได้
เขาอยู่ท่าเดิมจนเช้า 6.05 แล้ว ulsanic ไม่ต้องแล้ว อัดยาแก้ไข้ของยาประดงไป 2 เม็ด มันต้องลอง ยังไงก็ต้องตาย ไม่ตายก็รอดวะ ไปกินข้าวก่อน ตอนหุงเสร็จใหม่ๆ มันก็กำลังดี 1 คืนผ่านไป แม่งติดคอชิบหายเลย ล้างชามสักหน่อย แล้วมาชวนลูกบ๊าคไปอึ นอนเฉยครับ .. ดี ใส่สายคล้องอกง่ายดี ดูเหมือนเขาจะจำได้ ใส่ตัวล๊อกเรียบร้อย เอาสายจูงคล้อง ผมก็อ้อมไปออกอีกด้าน คิดว่าเขาจะไม่ยอมลุก หรือลุกไม่ไหว คงได้เหนื่อยกันล่ะ ปรากฎว่าแค่รั้งนิดหน่อยเขาก็ลุกเอง เซน้อยกว่าเมื่อคืนหน่อย แต่ผมไม่กังวลแล้ว สายคล้องอกช่วยได้มากจริงๆ
ช่วยเขาได้มาก แต่ผมก็ต้องออกแรงหิ้ว เล่นเอาเหนื่อย หลังจากแค่เดินตามเขาไปเรื่อยๆ มาหลายอาทิตย์ ถือว่าดีได้ออกกำลังเพิ่มอีกนิดยามเช้า วนจนพอใจก็ไปอึได้ 1 ที ยังจะเดินอีก ก็ให้เดินอีกพักนึง ดูท่าแย่มากแล้วก็ชวนเข้าบ้าน เขาไม่เผื่อกำลังไว้เดินกลับเลยแฮะ เดินจนหมดแรงค่อยคิดกลับ กว่าจะถึงก็แทบแย่
เช็ดก้นก่อน แล้วไปเอาอาหารใส่ชามเล็กมา นึกได้ว่า aluminium hydroxide วางในน้ำก็ละลายเป็นเกล็ดเล็กๆ แล้ว เลยเอาหมกไว้ในอาหาร เช้านี้ผมป้อนน้ำด้วย ตั้งแต่ยาแก้ไข้แล้ว หันไปจัดการกับขวดน้ำเกลือ แ ล้วลองเขี่ยยาที่หมกไว้ดู ไม่ละลายว่ะ ผมเลยเช็ดๆ วางบนช้อน เอาน้ำใส่นิดหน่อยคราวนี้ละลายง่ายเลยครับ คือ วัตถุประสงค์ของผมให้จับฟอสเฟตในอาหาร ควรกินพร้อมอาหารหรือหลังอาหารทันที ต้องบดด้วย ที่ผมทำน่าจะโอเคนะ
ให้น้ำเกลืออีกด้านที่ผมไม่ถนัด แรกๆ ผมให้เขานอนหมอบโดยขาหลังไปด้านตรงข้ามกับผม .. 2-3 วันมานี่ดูเขาเปราะบางเสียจนผมไม่อยากบังคับอะไร .. ผมก็ให้ในท่านอนตะแคงหันหลังให้ผม วันนี้หันขามา จะไปอีกด้านก็เสียบเข็มไม่ได้ เพราะมันต้องเสียบไปด้านหัวเขา จะจับบ๊าคพลิกตัวก็เกรงใจ เลยคุกเข่าเอื้อมเอา
ทรงตัวให้ดีๆ เดี๋ยวพลาด เขาจะเจ็บหลายที เลยได้เรียนรู้อีกท่า คราวนี้ป๊าไม่ต้องจัดท่าบ๊าคแล้ว นอนยังไงก็ไม่มีปัญหา .. 500 cc ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ผมยังสวดไม่ครบเซ็ทเลย พักนี้ต้องการทุกอย่างครับ ทุกอย่างที่จะช่วยบ๊าคได้ ผมก็ไม่กล้าหวังมาก นับวันยิ่งแย่ลง ผมก็ได้แต่หวังว่าเขาจะดีขึ้น หรือไปอย่างไม่ต้องทรมานมากนัก
หยุดดราม่า .. กินข้าวกัน ดูท่าจะหิว ไม่ต้องใช้ความพยายามในการทำให้เขานั่งท่าชันศอก ผมคลุก aluminium hydroxide ไปกับอาหารเลย สิ้นเรื่อง แล้วป้อนไปเรื่อยๆ ก็ยังกลืน ไม่สำลักไม่แหวะก็ยังดีครับ หมุนไปหมุนมา พ่นยาก่อนดีกว่า เสร็จก็พอดีได้เวลายาเช้า ซักผ้าแพรของเขาไปตาก คืนนี้จะได้มีห่ม ถ้าหนาว .. ผ้าอย่างอื่นมันไม่ให้ความรู้สึกสบายเหมือนผ้าแพรนะ
ผมชักไม่แน่ใจ neurontin คิดๆๆ จากที่น้องเภสัชเพื่อนของเพื่อนเขาว่า ถ้าไตเสื่อมการขับออกจะน้อยกว่าคนปกติ เท่ากับว่าเวลาที่มันควรถูกขับออกหมด มันยังไม่หมด ถ้าการขับออกมันช้า ผมให้วันละครั้งก็น่าจะพอ สังเกตุจากที่ 6 ชม. หลังให้ยา เขาจะแย่จัด ที่ 12 ชม. ดีขึ้นมาหน่อย แต่กลางวันผมไม่อยู่ (ก็ใช่ว่าอยู่แล้วจะช่วยอะไรได้ นอกจากนั่งดู อย่างน้อยควรได้รู้ไง) เพราะงั้นไปงดมื้อเย็นแล้วกัน กินวันละครั้งตอนเช้า แล้วดูสิว่ากลางคืนจะชักอีกไหม เอางี้แหละ คิดได้แล้วก็ยัดไป 1 เม็ด น้ำตาม นั่งลูบๆ ตัวเขา แถวอก แถวคอ
พักนึงก็ต้องร่ำลาไปทำงาน .. ไม่รู้สิ ผมก็คิดๆ ไป ไม่รู้เวลาไหนจะได้เห็นแบบเป็นๆ เป็นครั้งสุดท้าย ได้แต่หวังว่า ผมจะได้มีโอกาสอยู่เคียงข้าง ก่อนจากลา
เปิดคอมมาก็ได้รับเมล์ตอบจากคุณหมอธนิกาตอน 2 ทุ่มกว่า คงเพิ่งเลิกงานก็รีบตอบเลย แต่บ้านผมไม่ใช้เนท ต้องมาดูในช่วงเวลาทำงานเอา ก็ดูเรื่องนี้ไปบ้าง แล้วนึกถึงที่เขานอนขาสั่น บางช่วงสั่นทั้งตัวตอนหายใจเข้า ผมวัดไข้เมื่อคืนได้ 102 ก็ยังอยู่ในช่วงปกตินี่นา อาการสั่น มาจากฤทธิ์ยาก็ได้ สมองก็ได้ ขาดน้ำตาลก็ได้ สมองขาดเลือด ค่าไตสูง อีกหลายอย่าง จริงดิ แล้วบ๊าคกูล่ะ ..
คนจีนคงว่า แล้วแต่สวรรค์ .. คริสต์บอก แล้วแต่พระเจ้า .. พุทธว่า มันเป็นเรื่องของกรรม .. เหรอ คนที่เจอกับตัว มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก ที่จะวางใจให้นิ่งได้
เที่ยงกลับไป เขาย้ายที่จากแถวหน้าทีวีไปอยู่หน้าประตู ผมเปิดไฟดูก่อน ว่ายังหายใจอยู่มั๊ย นอนฉี่แตกรึเปล่า จับ vetmedin ยัดปากไปเม็ดนึง พลางคิดเรื่องเปลี่ยนเวลาให้ vetmedin ระยะห่างระหว่างยากับอาหารเที่ยงน้อยเกินไป ผมไปให้เช้าเย็นกับยาประดง ที่ดูดซึมดีตอนท้องว่าง และขอ 1 ชั่วโมงเหมือนกัน ไม่ดีกว่าหรือ ความจริงผมควรจัดเวลาให้ยาใหม่
5.00      ulsanic 1000 mg
6.00      ยาประดง 1 เม็ด 15 วัน / ยาแก้ไข้ 2 เม็ด 1 วัน สลับไปเรื่อย
            Vetmedin
            กินข้าวตัวเอง
6.15      พาไปอึฉี่
6.30      ให้น้ำเกลือ
6.45      พ่น
nanowound
7.00      มื้อเช้า +
Aluminium Hydroxide
7.15      tritace + lasix + spironolectone + digoxin
7.45      neurontin
12.10    พาไปอึฉี่
12.20    มื้อเที่ยง + vit C 500mg + multi B + E + spirulina
17.10    ulsanic
17.20    พาไปอึฉี่
17.40    ให้น้ำเกลือ
18.00    ยาประดง
1 เม็ด 15 วัน / ยาแก้ไข้ 2 เม็ด 1 วัน สลับไปเรื่อย
            Vetmedin
            กินข้าวตัวเอง พ่นยา หวีผม กวาดบ้าน
19.00    มื้อเย็น +
Aluminium Hydroxide
19.15   
amlopidine + lasix + spironolectone + digoxin + renovet
23.30    มื้อดึก + vit C 500mg + fish oil + spirulina
น่าจะโอเคนะ เริ่มเย็นนี้เลยแล้วกัน ต้อง print ไปติดฝาบ้านด้วย งานนี้ไม่ตายก็รอด  .. เราจึงได้ตารางมา เช่นนี้
AM
5.00      ulsanic 1000 mg
6.00      ยา
แก้ไข้ 2 เม็ด 1 วัน / ยาประดง 1 เม็ด 15 วัน
            Vetmedin
            กินข้าวตัวเอง
6.15      พาไปอึฉี่
6.30      ให้น้ำเกลือ
6.45      พ่น
nanowound
7.00      มื้อเช้า +
Aluminium Hydroxide
7.15      tritace + lasix + spironolectone + digoxin
7.45      neurontin
12.10    พาไปอึฉี่
12.20    มื้อเที่ยง + vit C 500mg + multi B + E + spirulina
PM
5.10      ulsanic
5.20      พาไปอึฉี่
5.40      ให้น้ำเกลือ
6.00      ยา
แก้ไข้ 2 เม็ด 1 วัน / ยาประดง 1 เม็ด 15 วัน
            Vetmedin
            กินข้าวตัวเอง
            พ่นยา หวีผม กวาดบ้าน
7.00      มื้อเย็น + Aluminium Hydroxide
7.15      amlopidine + lasix + spironolectone +
             digoxin + renovet

11.30    มื้อดึก + vit C 500mg + fish oil + spirulina
C          F
41+      106+  พยายามลดอุณหภูมิขอสุนัขลง
                    
แล้วรีบนำไปพบสัตวแพทย์โดยด่วน
40.6      105
  พาไปพบสัตวแพทย์ภายในวันนั้น
40         104
  มีไข้
39.4      103
  มีไข้
C          F
38.9      102   ปรกติ
38.3      101
  ปรกติ
37.8      100
   ปรกติ
37.2      99
   พาไปพบสัตวแพทย์ภายในวันนั้น
ผมกินข้าวเที่ยงก่อน แล้วมาชวนเขาออกไปฉี่ ลุกไม่ไหวอะครับ เหมือนขาไม่มีแรง ผมก็คอยพยุง ใช้ที่คล้องอกน่ะครับ ยังเดินไปฉี่ได้ตั้งไกล อึด้วย พอถึงหน้าประตู ผมปลดล็อคให้เขาเดินออกไป แค่ก้าวแรกก็ล้มแล้วครับ ผมก็โอบใต้อกกับใต้ท้อง เขาลุกมาเดินเข้าไปได้ ทีนี้ไม่นั่ง ยืนโซเซ ผมเลยเข้าไปช่วยให้นั่งลง
ไม่ต้องคิดอะไรมาก กินมื้อเที่ยงกัน ตายเป็นตายดิ ไม่กินก็ตายเหมือนกัน ป้อนไปจนหมดแบบคอพับคออ่อน ตอนเช็ดปากให้ เพิ่งเห็นน้ำมูกเขียวๆ ในรูจมูกขวา ทีแรกตกใจ คิดว่าสำลัก Aluminium Hydroxide ขึ้นจมูก ข้างๆ จมูกน่ะใช่ แต่ในรูมันไม่น่าใช่ เช็ดปากรอบ 2 ด้วยทิชชู่ชุบน้ำบีบหมาดๆ แล้วเอาคัตตั้นบัดอันเล็กมา แบบมินิน่ะครับ ค่อยๆ เช็ดในรูจมูกเท่าที่มองเห็นน่ะ เผื่อจะช่วยให้เขาสบายขึ้นบ้าง เดี๋ยวไปอ่านเรื่องหมาขี้มูกไหลก่อนดีกว่าครับ .. โอ้ สาเหตุเยอะเลย ไปหาอ่านเอาเองเถอะครับ เล่าไม่ไหว
เย็นกลับมาก็ดูก่อน ตายไปรึยัง ยังก็ยัด ulsanic ผมวนไปมา เอาอาหารให้หมาพ่อ แล้วชวนบ๊าคไปอึ เขาชันศอกขึ้นมา ทำให้ใส่สายคล้องอกได้ง่ายขึ้นหน่อย แต่ต้องช่วยช้อนใต้ท้องพยุงให้ลุกขึ้น เดินได้ดีกว่าเมื่อเที่ยง แต่ก็เดินไม่นานเท่าไหร่ พออึได้ก็ปล่อยให้เดินเล่นอีกพัก ผมก็ชวนกลับ จะว่าว่าง่ายก็ไม่ง่าย แต่ก็ยากน้อยกว่าเมื่อวาน ถึงหน้าประตูก็หยุด หมดแรงไปดูบ่อปลา คราวนี้ผมส่งถึงที่ ค่อยเอาสายคล้องอกออก บ๊าคยังเป๋ไปชนขอบประตู ผมรีบขยี้ๆ ไหล่ให้ จะได้ไม่เจ็บมาก
ผมไปล้างชามกองใหญ่ เตรียมมื้อเย็นให้หมาพ่อ มาป้อนยาแก้ไข้ มีเวลาอีกชั่วโมงก่อนกินมื้อเย็นของบ๊าค ให้น้ำเกลือก่อน ผมหิวหน้ามืดแล้ว แต่ต้องรอไปก่อน กินอิ่มๆ แล้วทำงานต่อลำบาก มันจุก .. เลยกวาดบ้านไปบางส่วน มาพ่นยา หวีผมให้ ไปกวาดที่เหลือ ทำไข่เจียวไว้กินสัก 2 มื้อ อาหารหมาพ่อหมด พ่อก็ช่างไม่ดูแลหมาตัวเอง .. renal ละกัน บ๊าคไม่กินแล้ว ได้กินของแพงนะมึง เพราะบ๊าคคงต้องกินอย่างอื่นแล้ว
มาป้อนอาหารแบบเละเทะ แต่ผมเพิ่งฉลาดขึ้นมานิดนึง เอาทิชชู่ใหญ่วางพาดบนขา อย่างน้อยหกก็ไม่เลอะขาเขา ป้อนไปเรื่อยๆ เขาก็อดทนดีนะ กินได้จนหมด ไปล้างชามอีก แล้วค่อยมายัดยาหลังมื้อเย็น มีเวลาเหลือเยอะแฮะ ทำตาม schedule ก็ดีนี่หว่า เลยไปเอาปลามาแกะไว้ก่อน ปลาโอแม่งแกะยาก วันนี้มีเวลาก็เตรียมไว้เลยดีกว่า
คุณหมอวรรณพงศ์โทรมา ท่านว่าดูเมล์ไม่ได้ เนทที่ท่านใช้มันไม่ค่อยเสถียรด้วย ผมเลยถาม คุณหมอใช้ line รึเปล่า ท่านว่าใช้อยู่ id เบอร์นี้แหละ ทันสมัยโว๊ย ก็ถามเรื่อง neurontin กินแล้วไม่ชักอีกเลย แต่ไม่มีแรง ท่านก็ว่ามี 2 อย่าง อาจเป็นที่ยาหรือที่โรคมะเร็ง มะเร็งจะเร่งการเผาผลานโปรตีน ทำให้ใช้มากกว่าสร้าง มวลกล้ามเนื้อลดลง อันนี้โชคดีที่อ่านมาก่อน เลยคุยรู้เรื่องง่ายหน่อย
ท่านว่าลองหยุดยาสัก 2-3 วันสิ ดูว่าชักอีกไหม เพราะท่านว่า มันเป็นยากันชักตัวอ่อนๆ ไม่รู้ว่าหายเองหรือหายเพราะยาเหมือนกัน คุยเรื่องยากับค่าไต ท่านว่าเคยมีเคส ให้กินแล้วเช็คค่าไต ไม่ขึ้นนะ 1.9 นี่ยังขั้น 1 ไม่แสดงอาการด้วยซ้ำ ที่ออกอาการมากๆ น่าจะเป็นเรื่องมะเร็ง มันจะทำให้เกิด multi-disorder คำนี้เกิดมาไม่เคยเจอ แต่ฟังแล้วเข้าใจได้ทันที ใจเสียทันทีเหมือนกัน
ในกรณีของบ๊าค มันคือ การแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งไปทั่ว แล้วทำให้เกิดอาการแสดง จากการควบคุมแต่ละส่วนไม่ได้ เลยเป็นทีเดียวหลายอย่าง หลายเรื่อง ทำได้แค่แก้ตามอาการ ผมฟังแล้วก็ได้แต่นั่งทำตาปริบๆ คุยได้อีกนิดหน่อยมีเคสเข้า ผมก็ขอบคุณท่านไป ทีแรกคิดว่าท่านลืมไปแล้วเสียอีก
ปั่นข้าวเสร็จก็ 3 ทุ่มครึ่ง ว่าจะไปอาบน้ำ มานอนกอดเขาอยู่ครึ่งชั่วโมง จะหลับไปด้วย ต้องตัดใจไปอาบน้ำก่อน จะได้หลับดีขึ้น กลับมา ดูเขากระสับกระส่าย ผมลงไปนั่งลูบๆ ให้พักใหญ่ เขาลุกหนี เออ ยังหนีไหวโว๊ย ผมนั่งหลับคาปากกาไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นมาเที่ยงคืนกว่า ก็จับป้อนข้าวปั่นกับวิตามินทั้งหลาย แล้วค่อยพาออกไปฉี่ การเดินดูดีกว่าเมื่อเย็นนะ อ่ะ นอนไปลูก ผมห่มผ้าแพรให้ แต่พักใหญ่เขาก็ไปมุดใต้หัวเตียง ตามใจ ตี 1 แล้ว นอนกันเถอะ ต้องตื่นเช้า อยู่คนเดียวจะไม่มีใครปลุก

ไม่มีความคิดเห็น: