While I thought that I was learning how to live, I have been learning how to die - Leonardo da Vinci

บทความเหล่านี้ หากเป็นประโยชน์กับท่าน ผมก็ดีใจ หากจะนำไปใช้ที่อื่น ผมก็ยินดี แต่กรุณาอ้างอิงที่มานิดนึง จัดเป็นมารยาทพื้นฐานในการใช้บทความของผู้อื่นใน internet หลายเรื่องผมต้องค้นคว้า แปลเอกสาร ตรวจสอบความถูกต้อง กลั่นกรอง เรียบเรียง ใช้เวลา ใช้สมอง ใช้ประสบการณ์ การก๊อปไปเฉยๆ อาจทำให้คนอื่นคิดว่าคนที่นั่งคิดนั่งเขียนแทบตายห่ากลายเป็นคนก๊อป ผมเจอเพจที่เอาเรื่องของผมไปตัดโน่นนิดนี่หน่อยให้เป็นงานของตัวเอง ไม่อ้างอิงที่มา ไม่ละอายใจหรือ .. สงสัยอะไร comment ไว้ ผมจะมาตอบ แต่ถ้าใครมาแสดงความไพร่หรือด่าทอใครให้พื้นที่ของผมสกปรก ผมจะลบโดยไม่ลดตัวลงไปยุ่งเกี่ยว อยากระบายไปหาที่ของตัวเองครับ หมายังขี้เป็นที่เป็นทางเลยจ้ะ นี่ก็เคยเจอ ไม่รู้พ่อแม่สอนมายังไง!!!

วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

บ๊าคกลับมาแล้ว / Fri. 14 Nov., 2014

ผมอ่านเจอจากบทความของต่างประเทศ เขาว่า เมื่อคนหรือสัตว์ตาย จะไปยังที่หนึ่ง เป็นที่ว่างเปล่า ให้วิญญาณได้ปรับตัวรับสภาพใหม่ จะมีเทวดานำทางคอยให้ความช่วยเหลือ บางวิญญาณอาจใช้เวลาตรงนั้นไม่กี่ชั่วโมง บางวิญญาณใช้เวลาตรงนั้นหลายปี .. ระยะเวลา ขึ้นอยู่กับสภาพของจิตวิญญาณดวงนั้น ขณะที่มีชีวิตอยู่จนถึงก่อนสิ้นใจ ..
ผมนึกสงสัย มันคือช่วงว่างก่อนไปจุติของทางพุทธรึเปล่า มันคือช่วงว่างก่อนการไปสู่ไฟชำระ สวรรค์ นรก ของทางคริสต์ใช่ไหม .. หลังจากนั้นหลุดจากตรงนี้ เขาจะกลับมาหาคนที่เขาคุ้นเคย อยู่ด้วยสักช่วงเวลาหนึ่ง แล้วไปในที่ๆ เขาควรไป
แล้วบ๊าคจะหลุดออกมาจากตรงนั้นเมื่อไหร่ .. คนอื่นๆ ผมพบแล้ว ปีละครั้ง 2 ครั้ง ล่าสุดเมื่อวันเกิดผม ก่อนนอน ผมไม่ได้คิดถึงพวกเขา แต่พวกเขาก็มา birthday ให้ผมกันครบทุกคน ในความฝัน .. คุณเคยมีประสบการณ์พรรค์นี้ไหม
เมื่อบ่าย ผมกำลังคิดถึงปัญหาเรื่องหนึ่งไม่ตก เกี่ยวกับหมาหน้าโรงงาน .. วุ่นวายใจ ก็รู้ตัว พยายามสรุปกับตัวเองให้ได้ ว่าจะเอายังไงดี ถ้าสรุปไม่ได้ ก็จะรื้อคิดอยู่เรื่อยๆ ต้องให้มันจบ
เมื่อได้คำตอบ ผมได้กลิ่นฉี่หมา วูบหนึ่ง .. บ๊าค comfirm ว่าป๊าคิดถูกแล้ว .. ก่อนที่จะเข้าใจ ว่าได้คำยืนยันจากบ๊าค ผมตกใจ กลิ่นชัดเจนมาก วูบเดียวเท่านั้น .. ใน office จะมีกลิ่นฉี่หมาได้ยังไง ผมดมตัวเองซ้ำแล้วซ้ำอีก ให้ลูกน้องดมอีกที มันก็ไม่ใช่ .. แล้วทำไมต้องกลิ่นฉี่ คำตอบคือ ให้ป๊าแน่ใจ ว่าใช่บ๊าคแน่ๆ
เมื่อวันจันทร์ที่ 3 ตอนเที่ยง ลูกน้องผมกับเพื่อนมาเอาใบตองบ้านอา ผมกินข้าวเสร็จก็นอนตามลมหายใจตัวเองอยู่ ได้กลิ่นวูบหนึ่ง ชัดๆ แบบนี้ .. เป็นกลิ่นตัวเขากับแชมพู กลิ่นที่ผมหอมหัวเขาก่อนตายน่ะแหละ .. หมา มีวิญญาณจริง .. เถียงสิ ผมจะต่อยคุณให้ดู ..
สรุปว่า ผมปลูกกันเกราไว้เหนือหลุมฝังศพบ๊าค ..
หลังจากที่คิดว่า รอให้ดินหมาดๆ หน่อย ค่อยลงบุหงาส่าหรี ที่เตรียมไว้มา 2 อาทิตย์แล้ว .. เมื่อเย็นวาน ขณะที่เดินเล่นในสวนหลังบ้าน ผมก็สังเกตุเห็นกันเกรา ที่ผมก็เห็นอยู่ทุกวันนั่นแหละ แต่กลับเพิ่งนึกได้ว่า กันเกรา น่าจะดีกว่า .. ผมว่าบ๊าคคงบอกผมนะ
กันเกรา เป็นไม้ยืนต้น ไม้ป่า สูงใหญ่ รากไม่ลอย แข็งแรงและโตเร็ว ออกดอกปีละครั้ง เขาว่าดอกหอมมาก ใบสวย ทรงต้นสวย คงเหมาะกับบ๊าคมากกว่า
เมื่อเช้า ผมเลยบอกให้พ่อหาซื้อให้สักต้น แล้วต่อท่อประปามาหน้าบ้านด้วย จะได้รดน้ำได้สะดวกและชุ่มชื่นกว่าการรดแต่โคนด้วยที่รดน้ำต้นไม้
เย็นกลับมา ผมก็เอากันเกราจุ่มน้ำริมบ่อ (ได้มาต้นตรง ทรงดีมาก สูง 3 ฟุต) แล้วเอาพลั่วเล็กไปขุดเหนือหลุมศพของบ๊าค .. ดินแข็งชะมัด ขุดไม่ได้ ต้องใช้จอบถากหญ้าขุดผิวดินออก ค่อยใช้พลั่วเล็กขุดให้ได้ขนาด เอากันเกราลง แล้วใช้ดินที่ขุดขึ้นมาแทรกไปข้างๆ จนแน่นหนาดี ค่อยรดน้ำต้นไม้ .. แล้วบอก บ๊าค โตเร็วๆ นะลูก.
Sat. 23 November, 2014
หลังจากลงกันเกราไปได้ 10 กว่าวัน ผมก็เปลี่ยนใจอีกที เมื่อโต มันคงต้นสวยดี แต่ออกดอกปีละครั้ง ป๊าอยากชื่นใจปีละบ่อยๆ อะบ๊าค จำปีดีกว่าไหมลูก .. เมื่อ 2-3 วันก่อน ผมเลยให้พ่อหาซื้อจำปีมาสักต้น เอาทรงสวยๆ รอไว้ ยัง 2 จิต 2 ใจ สุดท้าย หลังจากอ่านข้อมูลต้นไม้ 2 ประเภทนี้ไปอีก 2 วัน ก็ตกลงใจว่า จำปีดีกว่า
เมื่อเย็น กลับถึงบ้าน 5.20 pm ทำเสียเลยแล้วกัน .. ผมย้ายกันเกราไปทางซ้าย 3-4 เมตร เอาจอบใหญ่มาพลิกดิน แล้วใช้พลั่วช่วย ขุดลึกไปได้ 10 กว่านิ้ว เอาดินปลูกต้นไม้รองหลุม เอาจำปีลง ใช้ดินปลูกต้นไม้ใส่รอบๆ ไปครึ่งหลุม แล้วใช้ดินที่ขุดขึ้นมากลบกลับ ปูนขาว ไว้เติมทีหลังแล้วกันนะลูก (มันจะช่วยปรับความเป็นกรดของดิน ช่วยให้ต้นไม้โตเร็ว) ขุดไปแค่ปลายพลั่วก็เป็นดินชุ่มน้ำ ผมเอามันไว้ด้านบนแทน
เสร็จก็มืดพอดี เปิดไฟ รดน้ำต้นไม้ งานแค่นี้ ใช้จอบไป 2 อัน พลั่ว 3 อัน และเหงื่อท่วมตัว
Sun. 24 November, 2014
สายๆ ก็ไปดู ท่าจะรอดทั้ง 2 ต้น ผมตัดกิ่งจำปีด้านล่างทิ้งไป 3-4 กิ่ง จะได้พุ่งขึ้น .. บ่าย 3 ไปดูอีก ยังสดชื่นดีทั้ง 2 ต้น โตวันโตคืนนะลูก
Wed. 3 December, 2014
ราว 1 ทุ่ม ผมเดินไปหน้าบ้าน กำลังยืนอยู่บนทางเดินข้างแคนดี้ มองความงามของพระจันทร์ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเหมือนเล็บหมากระทบพื้น หน้าประตูด้านนอก 2 ครั้ง ผมหันมาดู ลักษณะเสียง เหมือนบ๊าคเวลาตื่นเต้นดีใจได้ออกมา ผมถามพ่อว่าหมาในบ้านทำเสียงอะไรรึเปล่า เขาว่าเปล่า มันนอนกันเงียบๆ .. แม่ทำอะไรหล่นรึเปล่า เปล่า ผมว่าผมได้ยินเสียงเล็บหมากระทบพื้น ไม่มีใครได้ยิน .. ผมยิ้ม บ๊าคยังอยู่ และบอกให้ป๊ารู้ว่าเขายังอยู่
Thu. 4 December, 2014
4 ทุ่มกว่า ผมตั้งคำถามกับพระเจ้าว่า บ๊าคกับคนอื่นๆ สบายดีไหม ได้อยู่กับพระองค์แล้วใช่ไหม please give me a sige เอาแบบชัดๆ .. 2-3 นาทีหลังจากนั้น ไฟดับทั้งบ้านวูบหนึ่ง แล้วสว่างขึ้นมาใหม่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม่เพิ่งเข้านอนไปได้สักครู่ วันรุ่งขึ้นผมถาม ไม่มีใครรู้เรื่อง .. นี่คือคำตอบใช่ไหม
Sat. 6 December, 2014
ผมกลับถึงบ้านราว 5.45 pm พ่อแม่ไปงานต่างจังหวัด ยังไม่กลับ ไอ้พลอยร้องดีใจ ไอ้เพชรที่ถูกขังอยู่ในบ้านร้องดีใจ ผมเปิดประตูเข้ามา ไอ้เพชรกระโดดสวนออกไป บ้านมืดแล้ว ผมได้ยินเสียงบ๊าคร้องดีใจด้วย 2-3 ครั้ง จากทางเข้าห้องผม ผมขนลุกเกลียวตอนที่เดินมาเปิดไฟที่ตำแหน่งเดียวกัน
ผมเดินเข้ามาในห้อง แล้วรู้สึกได้ว่า เขาจะเข้ามาดมๆ ขา เวลาที่เขาดีใจที่ผมกลับมาจากข้างนอก .. ความรู้สึกมันชัดเจนมาก จนผมพูดกับเขาเหมือนอย่างที่เคยว่า เอ้า ดมซะ คิดถึงเหรอลูก เขาอาจไม่ได้กลับบ้านมาหลายวัน เพราะ 2-3 วันมานี้ ผมไม่ค่อยรู้สึก
เมื่อเที่ยง ตอนผมกลับไปทำงาน ขนของบ๊าคเส้นหนึ่งตกอยู่บนโต๊ะทำงาน ผมหยิบดู มันขนหมาแน่ๆ จะว่าหมาพ่อ ขนมันก็ไม่มีสีดำสักนิด คงเป็นคำปลอบโยน ผมคิดถึงเขา ผมค่อยๆ เก็บใส่ซองยาเล็กๆ แล้วใส่ลิ้นชักไว้
Wed. 7 January, 2015
วันนี้ตอนเที่ยง ไม่มีคนอยู่บ้าน ผมเปิดประตูเข้าบ้าน พร้อมๆ กับส่งเสียงเรียก บ๊าค ๆ ป๊ามาแล้ว ผมได้ยินเสียงไม้เคลื่อนเล็กน้อยหลังโต๊ะคอม พร้อมกับเสียงบ๊าคถอนหายใจเวลาลุกขึ้น ช่างคุ้นเคย แต่กลับไม่เห็นอะไร ถึงกระนั้น ยังทำให้ผมรู้สึกเป็นสุขเหลือเกิน
ผมยังคงกลับบ้านทุกเที่ยง แม้ไม่ต้องกลับมาทำอะไร  การได้ทำอย่างที่เคยทำ มันก็ให้ความรู้สึกอบอุ่นในใจ โดยไม่ต้องหาเหตุผล
Wed. 28 January, 2015
บ๊าค จากไป 3 เดือนพอดี เมื่อคืนมันช่างทรมาณกับความคิดถึง ผมเป็นห่วงเขาเหลือเกิน ห่วงว่าเขาจะได้ไปสวรรค์ไหม สบายดีหรือเปล่า มีความสุขไหม และอยากเจอเขาอีก โหยหาสัมผัสและการโต้ตอบของเขา คิดไปคิดมาน้ำตาก็ไหล ผมยังต้องดำเนินชีวิตต่อไป ตามลำพัง
หลังมื้อเช้า ผมเดินออกไปบนทางหน้าบ้าน พอหัวพ้นชายคา ก็มีนกหางพัด 2 ตัวบินโฉบหัวผมไป เจ้า 2 ตัวนี้มีอยู่มานานแล้ว แต่มันไม่เคยแสดงพฤติกรรมอย่างนี้มาก่อน ผมค่อนข้างแปลกใจ พลางนึกไปถึงหนังสือที่ผมยังอ่านไม่จบ animal and the afterlife by Kim Sheridan บางทีข่าวสารก็ถูกส่งผ่านสัตว์อื่นในรูปแบบที่ไม่ปกติ ..
อาจไม่ใช่ หรืออาจเป็นได้ อาจเป็นคำปลอบประโลมวิญญาณผม หรืออาจไม่มีอะไรเลย
ผมมองดูจำปีที่ค่อยๆ บานมา 4-5 ดอก วาสนาอีก 5 ช่อใหญ่ๆ มันไม่ปกติเลย จำปีอีกต้นไม่ออกดอกมากเท่านี้ วาสนาไม่เคยออกเกินปีละช่อ มันหมายถึงอะไรรึเปล่า ผมมีลูก 5 คนที่จากไป มันมากกว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญไหม
เขาว่า เราจะเห็นในสิ่งที่เราอยากเห็น เชื่อในสิ่งที่เราอยากเชื่อ เราจะจับมันมาเชื่อมโยงกันเอง .. อาจเป็นได้ อาจไม่ใช่ .. บางที สวรรค์อาจส่งสารบางอย่างกับผม ในรูปแบบที่จับต้องได้ ไม่ต้องใช้จินตนาการมากนัก ไม่ต้องกังวลว่าจิตเราหลอนตัวเองรึเปล่า ทีนี้มันก็อยู่ที่เรา ว่าจะสามารถเปิดใจให้รับรู้และเข้าใจข่าวสารนั้นได้ไหม เราอาจเชื่อในสิ่งที่คนอื่นคิดว่าไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ถ้ามันทำให้วิญญาณเราลดความทุรนทุรายลง ผมว่ามันก็ไม่ได้ผิดที่ตรงไหน.

ไม่มีความคิดเห็น: