While I thought that I was learning how to live, I have been learning how to die - Leonardo da Vinci

บทความเหล่านี้ หากเป็นประโยชน์กับท่าน ผมก็ดีใจ หากจะนำไปใช้ที่อื่น ผมก็ยินดี แต่กรุณาอ้างอิงที่มานิดนึง จัดเป็นมารยาทพื้นฐานในการใช้บทความของผู้อื่นใน internet หลายเรื่องผมต้องค้นคว้า แปลเอกสาร ตรวจสอบความถูกต้อง กลั่นกรอง เรียบเรียง ใช้เวลา ใช้สมอง ใช้ประสบการณ์ การก๊อปไปเฉยๆ อาจทำให้คนอื่นคิดว่าคนที่นั่งคิดนั่งเขียนแทบตายห่ากลายเป็นคนก๊อป ผมเจอเพจที่เอาเรื่องของผมไปตัดโน่นนิดนี่หน่อยให้เป็นงานของตัวเอง ไม่อ้างอิงที่มา ไม่ละอายใจหรือ .. สงสัยอะไร comment ไว้ ผมจะมาตอบ แต่ถ้าใครมาแสดงความไพร่หรือด่าทอใครให้พื้นที่ของผมสกปรก ผมจะลบโดยไม่ลดตัวลงไปยุ่งเกี่ยว อยากระบายไปหาที่ของตัวเองครับ หมายังขี้เป็นที่เป็นทางเลยจ้ะ นี่ก็เคยเจอ ไม่รู้พ่อแม่สอนมายังไง!!!

วันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ข้าพเจ้าคือ ... คนสามัญ

ขอต้อนรับสู่ blog คนสามัญครับ คุณอาจสงสัยว่าทำไมผมใช้ชื่อนี้ล่ะ ผมมองว่า blog มันเหมือนตัวตนของคนทำนะครับ (ในกรณีที่ไม่ได้ทำเพื่อการค้า) มันเป็นการรวมความถึงตัวผม ที่เป็นคนธรรมดาๆ คนหนึ่งในสังคม มีความอยาก มีรัก โลภ โกรธ หลง สุข ทุกข์ ดีใจ เสียใจ ไม่แตกต่างจากคนทั่วไป อาจบ้าและหลงตัวเองมากกว่าคนอื่นนิดหน่อย มีชีวิตที่แสนจะธรรมดา มาจากครอบครัวธรรมดา การศึกษาธรรมดา อาชีพการงานและรายได้ก็ธรรมดา คำว่าคนสามัญ น่าจะเหมาะกับผมที่สุดแล้ว

blog นี้ จะเป็นเรื่องทั่วๆ ไป ที่ค่อนข้างจะพันธุ์ทาง ในด้านอารมณ์ ความรู้สึก ประสบการณ์ ความรู้ ความคิด จิตวิทยา ปรัชญา ศาสนา และสงคราม บทกวีก็มีนะ เรื่องน้ำเน่าปัญญาอ่อนก็มี (ฮ่ะๆ มั่วดีไหม) ทีแรก ผมอยากจะแยกเรื่องราวออกเป็นหมวดหมู่ เพื่อให้ง่ายต่อการอ่านตามความสนใจของแต่ละท่าน แต่พอมาดูบทความที่เขียนไว้ใน facebook ในเรื่องหนึ่งๆ มันผสมปนเปไปด้วยกันหลายอย่าง เลยไม่รู้จะแยกยังไง จึงต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ หากมันจะทำให้ท่านเกิดความสับสนในการอ่าน

ที่ต้องขออภัยอีกเรื่อง คือเรื่องของการใช้คำที่ไม่สุภาพ อาจมีมึง-กู ให้เห็นบ้าง ไอ้เหี้ยไอ้สัดก็มี (ก็ผมมันคนธรรมดานี่ครับ) แต่ผมไม่อยากแก้ไข เพราะมันจะทำให้เสียอรรถรสในการอ่านไป ซึ่งอาจสร้างความลำบากใจให้แก่สุภาพชนบางท่านได้ ทั้งนี้รวมไปถึงแนวคิดที่ค่อนข้างแหกคอก หาสำนักที่แน่นอนไม่ได้ เนื่องจากเรียนรู้มาจากหลายสำนักมาก จากการอ่าน ฟัง ดู มันเลยกลายเป็นการเชื่อมโยงข้อมูลในรูปแบบของผมเอง ซึ่งกลายเป็นความคิดเห็นจากอีกมุมมองหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถนำไปใช้เป็นบรรทัดฐานได้ แต่อาจเปิดมุมมองใหม่ของคุณได้

ผมเชื่อว่า คนแต่ละคนจะมีรูปแบบการมองสิ่งต่างๆ คล้ายกัน คือใช้ความรู้ ความคิด และประสบการณ์ทั้งหมดที่มี ในการวิเคราะห์สิ่งที่เห็น มันจะกลายเป็นภาพที่แตกต่าง ไม่มีทางที่จะมีของใครเหมือนของใครเลย ซึ่งสำหรับตัวผมเอง ผมจะพอใจมาก ถ้าผมได้มีโอกาสเห็นความคิดที่แตกต่าง จากความคิดของตัวเอง

สุดท้ายก็ต้องขอบคุณน้องคนหนึ่ง ที่เป็นแรงกระตุ้นให้เกิด blog นี้ขึ้นมา (ไอ้ tucky) เขาบอกผมว่า พี่ไปเล่น blog เหอะ เรื่องของพี่มันไม่เหมาะกับ facebook หรอก ทีแรกผมไม่แน่ใจ เคยอ่านๆ อยู่ คิดว่ามันค่อนข้างยุ่งยาก และไม่แน่ใจว่าตัวเองจะสนุกกับการถ่ายทอดความคิดออกมาเป็นตัวหนังสือ อีกนานแค่ไหน (ตอนนี้มันเหมือนร้อนวิชา ถ้ามันเย็นลงคงหมดเรื่องเล่า) คิดอยู่ว่ามันจะคุ้มไหม กับเวลาที่ต้องใช้ไปในการศึกษาวิธีสร้าง blog แต่เขาก็พูดไม่เลิก เดินมาทีก็พูดที 2 วันผ่านไป ผมก็หวั่นไหว ผมเป็นคนเชื่อคนง่าย โดนหลอกจนเบื่อแหละครับ

จริงๆ แล้ว ผมก็ไม่ได้ชอบ facebook สักเท่าไหร่ เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยทำ website มา 2-3 web เลยรู้สึกว่า option ของ facebook มันน้อย ข้อจำกัดมากเกินไป แต่จะไปว่าเขาก็ไม่ได้ ผมใช้งานผิดประเภทเอง ที่เอาบทความไปใส่เพราะมันง่ายดี ก็เท่านั้น ไม่ต้องคิดอะไรมาก มันคือขี้เกียจนั่นแหละ แต่ถ้าจะทำเป็น website เลย ก็เป็นเรื่องวุ่นวายและเสียตังค์ ต้องจด domain ต้องเช่า host ผมไม่ได้กะจะทำรายได้จากเรื่องนี้ เลยไม่คิดว่าควรจะลงทุนอะไร -- blog จึงน่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับตอนนี้

ข้อดีอีกอย่างของ blog ที่ผมเห็น คือมัน world wide น่ะครับ ไม่ได้จำกัดอยู่ในกลุ่มคนที่รู้จักเท่านั้น เราสามารถถ่ายทอดความคิดเห็น ให้ใครก็ได้ ที่อ่านภาษาไทยออก สามารถอ่านมันได้ (ยังไม่คิดจะเล่น 2 ภาษาครับ) โดยไม่จำเป็นต้องมี facebook ยังมีคนอีกมากที่ไม่ชอบ facebook และไม่เคยคิดจะใช้มัน นอกจากนี้มันยังสามารถแก้ไขข้อความ จัดรูปแบบ และตั้งค่าต่างๆ ได้ค่อนข้างมาก และขอขอบคุณ คุณปรีดา ลิ้มนนทกุล ที่คู่มือการสร้าง blog ของท่าน ช่วยให้ผมสามารถทำความเข้าใจและสร้าง blog นี้ขึ้นมาได้ในเวลาอันรวดเร็ว

9 กุมภาพันธ์ 2013
วิคเตอร์ พิชัยศรีสวัสดิ์

(นามแฝง แต่นามสกุลของจริง ซึ่งมีคนใช้ไม่มาก ท่านที่ใช้นามสกุลร่วม หากท่านรู้สึกว่า บทความของผมอาจนำความเสื่อมเสียมาสู่วงศ์ตระกูล บอกผมได้เลยนะ ผมยินดีแก้ไข อ้อ..ผมเป็นหลานคนโตนะ เผื่อท่านจะนึกไม่ออกว่า มันเป็นใครกันวะ)

ไม่มีความคิดเห็น: