While I thought that I was learning how to live, I have been learning how to die - Leonardo da Vinci

บทความเหล่านี้ หากเป็นประโยชน์กับท่าน ผมก็ดีใจ หากจะนำไปใช้ที่อื่น ผมก็ยินดี แต่กรุณาอ้างอิงที่มานิดนึง จัดเป็นมารยาทพื้นฐานในการใช้บทความของผู้อื่นใน internet หลายเรื่องผมต้องค้นคว้า แปลเอกสาร ตรวจสอบความถูกต้อง กลั่นกรอง เรียบเรียง ใช้เวลา ใช้สมอง ใช้ประสบการณ์ การก๊อปไปเฉยๆ อาจทำให้คนอื่นคิดว่าคนที่นั่งคิดนั่งเขียนแทบตายห่ากลายเป็นคนก๊อป ผมเจอเพจที่เอาเรื่องของผมไปตัดโน่นนิดนี่หน่อยให้เป็นงานของตัวเอง ไม่อ้างอิงที่มา ไม่ละอายใจหรือ .. สงสัยอะไร comment ไว้ ผมจะมาตอบ แต่ถ้าใครมาแสดงความไพร่หรือด่าทอใครให้พื้นที่ของผมสกปรก ผมจะลบโดยไม่ลดตัวลงไปยุ่งเกี่ยว อยากระบายไปหาที่ของตัวเองครับ หมายังขี้เป็นที่เป็นทางเลยจ้ะ นี่ก็เคยเจอ ไม่รู้พ่อแม่สอนมายังไง!!!

วันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2564

Mysterain วง Symphonic Metal จากจีน

ผมเพิ่งเจอวงนี้เมื่อปลายอาทิตย์ก่อน เพิ่งรู้ว่าจีนมีการทำเพลงแบบนี้ด้วย เขาเอาดนตรีจีนโบราณแท้ๆ อย่างขลุ่ย เจิ้ง ระฆังเปียนจง มาผสมดนตรียุคใหม่เช่น เบส กีต้าร์ กลอง คีย์บอร์ด ได้อย่างน่าประทับใจ คล้ายทางฝั่งเยอรมันชอบเอา violin, panflute มาผสมดนตรี power metal มันจะกลายเป็น symphonic metal ซึ่งผมชอบที่สุด แต่หาคนทำยาก หาเพราะๆ ฟังยาก

ดนตรีประเภทนี้จะมีความพลิ้วไหวอ่อนโยน แต่หนักแน่นเร่งเร้าไปพร้อมๆ กัน จากประสบการณ์การฟังเพลงมาหลายพันเพลงบอกว่า เพลงไหนที่มันจะเพราะ มันต้องเพราะตั้งแต่ห้องแรกเลย ส่วนเพราะสำหรับใคร ก็ขึ้นอยู่กับรสนิยมในการฟังเพลงของแต่ละคนนะครับ

สำหรับเพลงที่ชอบ ผมจะฟังวนไปจนจำได้ทุกตัวโน๊ต แล้วฟังมันในหัวตัวเองทุกที่ทุกเวลา จนกว่าจะเบื่อ การฟังรายละเอียดของเสียงเป็น ear training อย่างหนึ่ง ซึ่งนักดนตรีต้องฝึก แต่ผมได้มาจากความชอบและการฟัง มันช่วยให้หูแยกเสียงได้ละเอียดขึ้นทั้งโทนและจังหวะ ผลข้างเคียงจะได้กับสมองน้อยๆ EQ การใช้ตรรกะ และความบันเทิง

 

วงนี้จัดอยู่ในกลุ่ม symphonic power metal หรือ metal opera เริ่มฟอร์มวงมาตั้งแต่ปี 2005 ทำเพลงอิสระไม่ขึ้นกับค่ายเพลงใดๆ บ้านเราเมื่อ 20 ปีก่อนเรียกจะเพลงใต้ดิน มีที่น่าฟังอยู่ไม่น้อย เดี๋ยวนี้คงเป็นยูทูปเบอร์กันไปหมดแล้ว ปัจจุบันคนกระสันต์ทำยูทูปกันมาก แต่กลับหาช่องที่ดีมีคุณภาพได้น้อย

จากการค้นหาไปทั่ว ผมพบ 5 อัลบั้ม แต่หาดาวน์โหลดเป็นเพลงๆ ได้แค่ 1 กับ 4 อีกทีคือมัดรวมในไฟล์เดียว ยาว 2 ชั่วโมง 43 นาที! ปัญหาคือมันจะไม่รู้ ว่าเพลงที่ฟังอยู่นั่นชื่อเพลงอะไร อัลบั้มไหน ถ้าจะมานั่งตัดทีละเพลง ต้องไปหาเพลย์ลิสต์ของแต่ละอัลบั้มมาก่อน ยึดเพลงที่รู้จักเป็นหลัก ไม่ยาก แต่ใช้เวลา จะเอาเวลาที่ไหนไปทำ
1. Fall of the Song Dynasty : Oct
2020
2. The Heroine : Oct 2018
3. After the end of the valley (Unplugged Ver.): Feb 2017
4. After The End Of The Valley : Oct 2016
5. The sprout from deadwood : Nov 2015

 

หลังจากฟังมาหลายวัน ผมพบว่า เพลงที่ 3 辜瓣 (sinful petals) น่าสนใจที่สุดในอัลบั้ม Fall of the Song Dynasty* มันน่าประทับใจจนอยากแหกปากร้องตาม ติดที่ผมอ่านอักษรจีนไม่ออกสักตัว พินอินก็ไม่กระดิก

เพลงนี้อินโทรด้วยขลุ่ยทำนองโบราณไปได้ 2 ตัวโน๊ต กลองกับกีต้าร์ก็โหมขึ้นมารับด้วยจังหวะเร่งเร้าแบบที่ผมชอบ แต่ขลุ่ยก็เล่นของกูไป ไม่สน (ใช้รูปแบบ polyphony คือการเอาดนตรีหลายแนวมาบรรเลงไปพร้อมกัน ทำให้เนื้อดนตรีหลากหลายน่าฟังขึ้น ฝั่งยุโรปเริ่มใช้กันตอนต้นศตวรรษที่ 9) ตามมาด้วยเสียงคีย์บอร์ดที่แทรก riff ได้น่าฟัง

จบอินโทรด้วยการที่เจิ้งเริ่มเล่นโน๊ตห้องแรก ไม่ทันจบห้องดี โคลงก็เริ่มขับลำนำด้วยผู้หญิงน้ำเสียงนุ่มละมุน ท่วงทำนองสวยงามน่าฟัง ให้ความรู้สึกอบอุ่นอ่อนโยนแบบโบราณๆ จากนั้นเสียงร้องชายสไตล์เดชคัมภีร์เทวดาภาคแรกก็แหกปากออกมา ตามด้วยเสียงโซปราโนของฝ่ายหญิง ร้องสลับกันไปตลอดเพลง

นาทีที่ 5.54 กีต้าร์โซโลได้นุ่มนวลแต่กระชากใจ พร้อมกับเบสเพิ่มความหนักแน่น ลากอารมณ์ได้สุด ยังมีกลิ่นไอร็อคเอเชียช่วงปี 88-96 ในการเดินทำนอง

  

มันน่าสนใจตรงที่เครื่องดนตรีแต่ละอย่างค่อนข้างลงตัวกับจังหวะช้าเร็วในแต่ละช่วง ที่มีทั้งสงบ เรื่อยๆ เร่งเร้า สลับกันไปทั้งเพลง แต่กลับไม่น่าเบื่อ ผมว่าส่วนผสมกำลังพอดี ไม่มีอะไรโดดขึ้นมาให้รู้สึกว่ามากไปหรือน้อยไป แต่ละคนยังเล่นไปได้สุดทิศสุดทางของมัน เดินเรื่องคล้ายซิมโฟนีที่มีการแยก part แบบ allegro-vivace-presto-finale วนลูปไปเรื่อย ทำให้อารมณ์ดนตรีมันไปได้สุดทางไม่ค้างคา

ถ้าใช้ขลุ่ยเน้นๆ จะเป็น เพลงที่ 5 歸牧 บรรเลงได้ครื้นเครงจนผมอยากเป่าขลุ่ยขึ้นมาเลย! เพลงนี้ใช้ขลุ่ย 2 เลานะครับ ฟังดีๆ จะเห็นความแตกต่างในโทนเสียงขลุ่ย แบบเป่าด้านข้างจะให้เสียงแหลมใส แบบเป่าตรงให้เสียงทุ้มกังวาล ใช้สลับกันไปมาในแต่ละท่อน น่าสนใจและช่างคิดได้ ว่าทำอย่างนี้แล้วเพลงจะมีเนื้อเสียงน่าฟังยิ่งขึ้น มี 苦林破青 อีกเพลงที่ขลุ่ยกับกีต้าร์เล่นได้มันส์ดี กลางเพลงปล่อยให้คีย์บอร์ดบรรเลงนุ่มๆ อยู่พักนึง จากนั้นกีต้าร์ก็โซโลแหลกราญ แต่เพราะทุกตัวโน๊ต

เพลงที่ 4 幽蘭  โย่วหลาน แปลว่าดอกกล้วยไม้! จะฟังสบายๆ เน้นความเสถียรของเสียงร้อง ช่วงเสียงกว้างมาก แต่ไม่ได้ใช้พลังขับ(วัตต์!)มากอย่าง 霧山歸途 การเรียบเรียงท่วงทำนองน่าสนใจ เจิ้งค่อนข้างโดดเด่น โชว์เทคนิคการอุดสาย สไลด์ ฮาร์โมนิค ทางเบสเดินสวยสอดรับตลอดเพลง กีต้าร์ใช้อคูสติกฟรุ้งฟริ้งดี ยังเล่นฮาร์โมนิคเยอะมาก คีย์บอร์ดเล่นเสียงเปียนจง ยังทำเสียงน้ำไหลคลอแผ่วเป็นแบคกราวน์ได้ดี ขลุ่ยเป่าได้นิ่งมาก กลองก็ช่างพอดิบพอดีเสียจนโหยหา ผมอยากเห็นวิธีเล่น แต่หา live ไม่ได้เลย

อีกเพลงที่ต้องไม่พลาด จากอัลบั้ม After the End of the Valley เป็นเสียงระดับโซปราโนที่ลากอารมณ์คนฟังไปได้ไกลกว่าสวรรค์ชั้นเจ็ด! (ฤๅจะเป็นนรกขุมลึกสุด) ตัวเพลงเรียบเรียงเมโลดี้และท่วงทำนองได้น่าฟังมากครับ คนที่ร้องได้แบบนี้มีไม่มาก แม้กับวงโอเปร่า

อินโทรมาด้วยกีต้าร์อคูสติกเล่นฮาร์โมนิค กับขลุ่ยแบบเป่าตรงเลียนเสียงซุน แล้วเริ่มร้องด้วยคีย์สูง จากนั้นสูงขึ้นไปอีก! เบสจะโผล่มาโชว์ skill ห้องนึงหลังการร้องรอบแรก เมื่อผ่านท่อนฮุคอีกรอบ เครื่องดนตรีทุกอย่างก็เริ่มออกลายด้วยท่วงทำนองสวยๆ แต่เทคนิคแพรวพราว จัดเป็นเพลงที่สมบูรณ์แบบเพลงหนึ่ง เนื้อหาอยู่ตอนท้ายนะครับ ผมก็อยากรู้ว่าเขาพูดถึงเรื่องอะไร

 

เมื่อได้ภาพรวมแล้ว ลองมาแยกฟังแต่ละเสียงกันดูดีกว่าครับ

- นักร้องหญิง เสียงชวนฝัน ยังเสถียรจนน่าทึ่ง เปลี่ยนคีย์ได้นิ่งมาก เสียงระดับนี้มีแต่นักร้องโอเปร่าเสียงโซปราโน ผมประมาณจากการใช้เสียงของเขานะครับ มันไปได้สูงจนขนหัวลุก แต่เวลาที่เธอแหกปากคุยกับผู้ชม เนื้อเสียงนั่นเอาไปร้องเพลง death metal ได้สบายๆ (ยกตัวอย่างวง arch enemy)

เธอชื่อ liang hongyu คาดว่าอ่าน เหลียง ฮงหยู คนแซ่เหลียง! (เทียนกี้แซยี่ ฮ่อปิดแซเหลียง : ฟ้าให้ยี่มาเกิด ใยให้เหลียงเกิดมาด้วยเล่า จากวรรณกรรมสามก๊ก) มีชื่อเล่นว่า 小小 เสี่ยวๆ แปลว่าเล็กๆ เช่น เสี่ยวเอ้อ คือ เล็ก ลำดับสอง! ถ้าใหญ่อันดับหนึ่งก็เถ้าแก่ไง เรียกมาแต่โบราณจนเป็นที่รู้กัน เหมือนเราเรียกเพื่อนว่าไอ่สัส ถ้าเรียกชื่อดีๆ มันก็จะสงสัยว่าเราป่วยรึเปล่า ...

ในการขับโคลงจีน เขากลับใช้น้ำเสียงอ่อนโยนแต่หนักแน่น เมื่อแรกไม่รู้ความหมาย ผมรู้สึกถึงความอบอุ่น ปลอบประโลม มันเป็นความรู้สึกแบบจีนโบราณสุดๆ ราวกับผมนั่งฟังอาจารย์หญิงท่องโคลงให้ฟังในยุคชุนชิวจ้านกว๋อ!

ยุคนี้อยู่ในช่วงราชวงศ์โจวตะวันออก(770-221 BC) มีแต่สงครามยาวนาน 500 กว่าปี แต่ปราชญ์ งานศิลป์ ดนตรี และบทกวี กลับเฟื่องฟู เขาจึงเรียกชุนชิว(วสันตสารท, ฤดูใบไม้ผลิ) ส่วนจ้านกว๋อ(รณรัฐ) จะเด่นเรื่องการเมืองการปกครอง ตำราพิชัยสงคราม เป็นยุคที่นักวิชาการจีนให้ความสนใจสูงสุด เพราะเป็นช่วงสุดท้ายก่อนรวมแผ่นดิน คนดังยุคนี้ก็เช่น ซุนวู(ตำราพิชัยสงคราม), ขงจื่อ(ลัทธิ/คำสอน/ศีลธรรม/จรรยา), ไซซี(หญิงงามล่มเมือง), อ๋องโกวเจี้ยน(สงครามเยว่-อู่)

แล้วอิ๋งเจิ้งฉินอ๋องก็รวม 7 รัฐให้เป็นหนึ่ง กลายเป็นครั้งแรกของจีนที่รวมตัวเป็นจักรวรรดิ และเป็นจักรพรรดิ(ฮ่องเต้)คนแรกของจีนด้วย ฉินซีตั้งราชวงศ์ฉินเมื่อ 221 BC กลายเป็น จีน, chin, china, chinese ในปัจจุบัน เด่นๆ จะเป็นเรื่อง วิธีการรวมแผ่นดิน การปฏิรูปซางยาง หลี่ซือ จางเหลียง หานเฟย การปกครองคนจาก 7 รัฐด้วยกฎหมายเดียวกัน ให้ใช้อักษรและมาตราชั่งตวงวัดแบบเดียวกัน การรวมศูนย์อำนาจ ทำทางด่วนขนาดใหญ่เชื่อมต่อทั้งแผ่นดิน ระบบชลประทาน เพื่อปูพื้นสู่การพัฒนาแบบจักรวรรดิ แล้วทำไมจึงล่มสลายภายใน 15 ปีเท่านั้น แต่บางสิ่งที่ฉินซีทำไว้ ยังคงใช้มากว่า 2000 ปี

- นักร้องชาย ใช้สไตล์การร้องแบบจีนโบราณ น้ำเสียงทรงพลังจนผมคิด ถ้าได้แหกปากอย่างนี้ คงให้ความรู้สึกที่ดี บางครั้งการแหกปากร้องเพลง เป็นการเพิ่มพลังวัตรได้เหมือนกัน!

การร้องแบบนี้มี 2-3 อย่างที่ผมนึกออก คือ เพลงจีนโบราณแนวสงครามหรือท่องยุทธจักร กับ death metal เท่าที่ดูการแสดงคอนเสริต มือกีต้าร์เป็นคนร้องเสียงชายทั้งหมด (ยกเว้นเพลงที่ 6 The Heroine) เก่งที่แยกประสาทได้ คนเล่นกีต้าร์-ร้องเพลง แล้วทำได้ดีทั้ง 2 อย่างพร้อมๆ กัน มีน้อยมาก เช่น เดฟ มัสแตงค์ แห่งวง megadeth นอกนั้นเคยเห็นอยู่บ้าง แต่ไม่เท่าเดฟ

อีกเพลงที่รูปแบบการร้องน่าสนใจคือ เพลงที่ 6 赤綾 The Heroine Remastered อันนี้เป็นนักร้องชายโดยตรง ขับโคลงสไตล์งิ้ว (เป็นนักแสดงงิ้วด้วยไหม ผมไม่รู้ แต่การแต่งงิ้วขึ้นเวทีด้วยใบหน้าเช่นนี้ ทำให้ผมนึกถึงเลสลี่จางใน Farewell My Concubine) มีกลองกับขลุ่ยแบคอัพ ช่วงร้องจะสลับชาย-หญิง ฝ่ายหญิงร้องปกติแบบเสียงสูงมาก ฝ่ายชายใช้เสียงแนวงิ้ว แปลกหูแต่น่าฟัง เพลงนี้องค์ประกอบของดนตรียุคใหม่จะมีกลิ่นไอร็อคฮ่องกงปี 91 (ยุคผู้หญิงข้านั่นแหละ) รูปแบบกีต้าร์ริทึมมันบอก จังหวะกลองที่ใช้ในช่วงขับโคลงน่าสนใจมากครับ แต่ด้วยความที่ผมไม่เคยดูงิ้วเลย นี่จึงทำให้ผมนึกถึงกลองสงครามมากกว่ากลองงิ้ว

- ขลุ่ย ชูโรง โดดเด่น เล่นสไตล์จีนโบราณแท้ๆ การเปลี่ยนสำเนียงในหนึ่งตัวโน๊ต นิ่ง เนียน พลิ้ว บ่งบอกทักษะของผู้เล่น ที่ผมรู้ว่ามันโบราณ เพราะเคยฟังดนตรีจีนโบราณมาพอสมควร คุณอาจค้นหาด้วยคำว่า ancient chinese music จะมีให้ฟังตั้งแต่ซุน ที่มีอายุ 7-8 พันปี!

ซุนจัดเป็นต้นตระกูลของเครื่องเป่าในโลกหล้า พบเก่าสุดจากราชวงศ์เซี่ย เดิมเป็นกะโหลกสัตว์ กระดองเต่า ภายหลังใช้ดินเผา มีลักษณะกลมรี เป็นโพรง มีรูให้เป่าลมเข้าไป กับรูสำหรับวางนิ้วเปิดปิดให้เกิดเสียงแตกต่างตามโน๊ตที่ต้องการ เสียงที่ได้จะออกทุ้ม ก้องกังวาล

ขลุ่ยมีอายุพอๆ กับซุน เก่าสุดพบที่เจี่ยหู เหอหนาน ทำจากกระดูกท่อนขานกกระเรียนเจาะรู แต่เมื่อ 5 พันปีก่อนก็มีคนคิดได้ว่า ไม้ไผ่มีลักษณะที่จะใช้ทดแทนกันได้ ยังงดงามด้วยสีและลวดลาย น้ำหนักเบา แข็งแรง ทนทาน ใช้เป็นอาวุธฟาดหัวคนก็ได้ ยังให้เสียงที่ดี เลยหันมานิยมใช้ไผ่แทน ไผ่จีนมีให้เลือกหลายชนิด ให้เสียงแตกต่าง มีบ้างที่ใช้ไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้มะเกลือ(ebony), ไม้แดง แต่ไม่ได้รับความนิยมมากนัก อาจเพราะทำได้ยากกว่า น้ำหนักมากกว่า เสียงที่ออกมาไม่ได้ฟิลลิ่งของขลุ่ยที่คุ้นเคย

หมวดขลุ่ยในจีนมีเกิน 10 ชนิด! บางชนิดใช้ยาวสั้นหลายเลามามัดรวมกันกลมๆ แผ่ไปแบนๆ แบบ panflute ของเยอรมันก็มี (ลองฟัง mana:equilibrium ไปได้สุดและเพราะมาก) บางชนิดผลิตออกมาหลายคีย์ แยกโทนเสียง C-D-E-F-G ไปเลย พบมากในขลุ่ยแบบเป่าข้างที่เรียกว่าเหิงซุย แปลว่า เป่าตามขวางจ้ะ (55 กำปั้นทุบดินดี) ลองนึกถึงหัว notation/tablature จะบอกคีย์ จังหวะ และความเร็ว ผมเคยเห็นภาพนักดนตรีฟังเพลงด้วยการอ่านโน๊ต! เสียงมันคงมาในหัวเขาเลยมั๊ง

ในจีน ขลุ่ยได้รับความนิยมสูงสุดตลอดกาล มันเล็ก พกพาง่าย ราคาไม่แพง (แต่เป่าให้เพราะยากสัส) เป็นของที่ขาดไม่ได้ในดนตรีโบราณและงิ้ว มีการเปิดสำนักสอนกันอย่างจริงจังมาตั้งแต่สมัยโบราณ กล่าวกันว่า เซียนขลุ่ยสามารถสร้างเสียงจากขลุ่ยเลาเดียวได้ถึง 3 octave! แล้วอะไรคือ octave, หนึ่งออคเทฟคือการไล่เสียงโน๊ต 7 ตัวไปหนึ่งรอบ ออคเทฟถัดไปก็ไล่ 7 ตัวเหมือนเดิมด้วยโทนเสียงที่สูงขึ้นไปจากออคเทฟแรก กีต้าร์ไฟฟ้ามี 6 สาย 22 เฟรท มี 3 ออคเทฟ กีต้าร์อคูสติกมี 2 ข้อดีของการมีออคเทฟมากคือ ให้เสียงได้มากกว่า

- เจิ้ง บางท่วงทำนองให้ความรู้สึกเหมือนทางเพลงฉิน ฝีมือดี ฟังจากสำเนียงใน 1 เสียงที่ออกมา เทียบกับที่เคยฟังชั้นครูเล่น บางครั้งผมก็อยากรู้ไง ว่าเครื่องดนตรีแต่ละอย่าง ถ้าถูกเล่นโดยปรมาจารย์ในสายของมัน จะไปสุดแค่ไหน ทำอะไรได้บ้าง เป็นการเปิดหูเปิดตา และสร้างความสำราญได้อย่างหนึ่ง

เมื่อเทียบกับฉินที่มีเพียง 7 สาย กว้างคืบ ยาวเมตรสามสิบ อายุ 4 พันปี รูปแบบการเล่นค่อนข้างต่างกับเจิ้งมาก แม้เป็นเครื่องสายตระกูลเดียวกัน ฉินจะไม่นำมาใช้เล่นกับวงดนตรี แต่จะบรรเลงเดี่ยวแบบตามใจกู ยุคโบราณจัดเป็นของปราชญ์และชนชั้นปกครอง คนธรรมดาไม่เล่น เล่นไม่เป็น เล่นไม่ได้ ไม่มีการส่งต่อ บางยุคถึงกับห้ามคนทั่วไปมีไว้ในครอบครอง ที่เรียกฉินเพราะได้รับความนิยมและเติบโตจากรัฐฉิน

เจิ้ง มีอายุราว 2500 ปี พบครั้งแรกในยุคจ้านกว๋อ ใช้หลากหลายในวัฒนธรรมจีน ไม่ว่าจะเล่นเดี่ยวหรือเป็นวง ความที่มันมี 21 สาย ยาวเมตรหกสิบ ทำให้ช่วงโน๊ตกว้างกว่า ให้เสียงมากกว่า ขนาดใหญ่กว่าก็ทำโพรงได้ใหญ่ขึ้น ให้เสียงก้องคมใสกว่า ติดที่ตัวเบ้อเริ้ม ไม่สามารถวางพาดตักนั่งบรรเลงในเรือชมลำน้ำได้แบบฉิน ผู้เล่นเจิ้งจึงต้องแสวงหาความสุนทรีย์ที่ต่างออกไป เช่น ชมสวน ชมจันทร์ (ว่าแล้วก็นึกถึงหลี่ไป๋)

เก่าเท่าฉินยังมีเส้อ อายุ 4 พันปี เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าทื่อๆ ยาวเมตรกว่า หนัก 20 โล! คล้ายเจิ้งแต่มี 25 สาย รูปแบบการวางหย่องรองสายจะวาง 2 แนว เอียงราว 15 องศาตามยาว (เจิ้งวางหย่องแนวเดียว) ฟังจากเสียง เหมือนไม้เนื้อแข็ง ความหนาแน่นสูง และโพรงคงไม่ใหญ่เท่าเจิ้ง ไว้ต้องหาดูวิธีผลิต ใช้เล่นเฉพาะในวัง ในพิธีการ ขุดพบในหลุมฝังศพราชวงศ์โจวตะวันตกที่คาบเกี่ยวอยู่ในยุคชุนชิวจ้านกว๋อ ปัจจุบันแทบไม่มีคนเล่น นอกจากนักวิจัย และในวงดนตรีย้อนยุคของจีน

ส่วนคำว่ากู่ แปลว่าโบราณ เขาแค่เอามาใส่เป็น prefix ไม่ต้องสนใจ

- ระฆังเปียนจง อายุ 3600 ปี ยังเอามาเล่น! เลียนเสียงโดยใช้คีย์บอร์ด บ้างใช้กีต้าร์ฮาร์โมนิค (การจะเอาของจริงมาใช้ คือเรื่องเป็นไปไม่ได้) พบมากในเพลงที่ 5 สอดแทรกได้ถูกที่ถูกทาง ผมทึ่งเพราะมันโบราณและใหญ่โต จนไม่คิดว่าจะเอา sound มาเล่น เก่าสุดขุดพบจากสุสานของเจิงโหวอี่ในเมืองสุยโจว พบระฆัง 65 ใบในสภาพสมบูรณ์ เมื่อบูรณะแล้วเอามาจัดเรียงได้ 3 แถวเป็นรูปตัว U ใช้คนเล่น 4 คน ในหนึ่งแถวมีความยาวราว 10 ก้าว แขวนระฆังได้ 3 ชั้น สูงเกินหัว น้ำหนักรวมราว 2-3 ตัน มันมโหฬารมาก

โหวอี่เป็นขุนพลที่ปกครองดินแดนแถบสุยโจวคนหนึ่งในยุคชุนชิวจ้านกว๋อ(443 BC)ที่รวยสัสๆ แต่กลับไม่พบบันทึกอ้างอิงจากที่อื่นมากนัก อาจจะแค่ยังไม่พบ หลุมฝังศพใหญ่โต มีโถงกลาง 1 ห้องใหญ่ ไว้วางโลงศพตัวเองกับเมียอีกสิบ! โลงศพสุนัขก็มี มีห้องบริวารอีก 4 เจอข้าวของเครื่องใช้เกิน 15000 ชิ้น!

โชคดีที่หลังฝังศพไม่นาน น้ำใต้ดินก็ท่วมหลุม ทำให้รอดจากโจรขุดสุสาน ทั้งไม่มีบันทึก โจรเลยไม่รู้ด้วยกระมัง ของแช่น้ำโคลนทำให้อับอากาศ จึงคงสภาพมาได้ 2400 ปี ปัจจุบันตั้งแสดงในพิพิธภัณท์เหอเป่ย (ดาบของโกวเจี้ยนก็อยู่ที่นี่) นี่ขนาดไม่ดัง ที่ดังๆ แต่โดนปล้นสุสาน จะมีข้าวของมากขนาดไหน น่าเสียดายที่มันควรอยู่ในพิพิธภัณท์ ให้ปวงประชาได้ชื่นชม

แม้ขงจื่อยังคลั่งเสียงเปียนจง มีบันทึกว่าครั้งแรกที่เขาได้ยิน เขาฟังเสียงมันทั้งวันทั้งคืนไม่กินไม่นอน เปียนจงมาได้รับความนิยมสูงสุดในยุคฉิน ใช้เล่นในวังหลวง

ความโดดเด่นของมันคือ สวยงามเข้มขลัง เสียงไพเราะ มีหลายขนาดและรูปแบบ แบบครบชุดก็หลาย 10 ใบ แขวนเป็นราว เรียงตัวโน๊ต ค่อนข้างอลังการ ประมาณด้วยความคิดส่วนตัว มันน่าจะผลิตได้ยากสัส เพราะทำจากสำริดหล่อ เสียงที่ออกมาจะขึ้นอยู่กับขนาด ความหนาแน่น ตำแหน่งที่ตี เขาทำให้เสียงมีความเที่ยงตรงตามตัวโน๊ตที่ต้องการได้ยังไง ถ้าอยากฟังชัดๆ ให้ลองค้นหาด้วยคำว่า ancient chinese bell หรือเจาะจงไปเลยว่า 编钟

- กลอง จังหวะแปลกหูแต่น่าฟัง ด้วยความที่ไม่รู้เรื่องกลองสักนิด ทำให้ไม่รู้ถึงความยากง่ายในการเล่น แต่ในการทำดนตรีส่วนใหญ่ให้น่าฟัง ความยากง่ายไม่ได้สำคัญเท่ากับมันโดนใจคนฟังแค่ไหน ผมว่ากลองแน่นดี แต่ไม่ได้มีมากจนเกินไป มันอยู่ในที่ๆ ควรอยู่ ค่อนข้างลงตัว

หลัวกู่ เป็นกลองที่ใช้กับทุกงาน พอตั้งใจฟังดีๆ ก็รู้สึกน่าหลงไหล ยิ่งเจอคนตีเก่งๆ ยิ่งเพราะ ผมไล่ดูคลิปกลองนี้ไปเรื่อยอย่างเพลิดเพลิน จากเพลงที่ 6 ในคอนเสริต นักร้องหญิง มือกีต้าร์ มือกลอง ต่างตีได้ดี

- เบส คลอไปกับกลองและกีต้าร์ ต้องฟังดีๆ บางเพลงแบคอัพให้เจิ้งที่เล่นอยู่ตามลำพัง เพิ่มความซับซ้อนให้น่าฟัง

- กีต้าร์ มีซาวด์และสไตล์การเล่นแบบที่ผมชอบ มันก็แนว power metal ผสมคลาสสิคนั่นแหละ ซึ่งผมจะตราหน้ามันว่า symphonic metal บางครั้งกีต้าร์ก็เลียนเสียงเจิ้ง บางทีใช้ฮาร์โมนิคเลียนเสียงเปียนจง ตัวกีต้าร์ไปได้สุดทิศสุดทางทั้งริทึมและโซโล

ลักษณะของ riff ค่อนข้างจะเอเชี๊ยเอเชีย ใช้สารพัดเทคนิคการเล่น ครบเครื่อง ฝีมือดี เล่นได้ละเอียด บางทียังใช้คันโยก+ดันสายให้มีเสียงเอื้อนสไตล์เอ้อหูด้วย ส่วนความสามารถด้านความเร็ว พี่แกเล่นเขบ็ตสี่ชั้นได้ลื่นไหล แล้วมันเพราะด้วยสิ ท่วงทำนองโดยรวม ฟังแล้วเข้าหูคนเอเชียที่มีโคตรพ่อโคตรแม่เป็นเจ๊กอย่างผมมาก

- คีย์บอร์ด ฝีมือดี เทคนิคแพรวพราว เล่นล้อเสียงได้ดี สเกลสวย ยังเลียนเสียงเครื่องดนตรีอื่นที่ไม่มีในวงได้หลากหลาย

 

จีนพบบันทึกโน๊ตดนตรีเก่าแก่ที่สุดราว 3 พันปีก่อน เป็นเพลงฉินในยุคจ้านกว๋อ จากนั้นก็เจอโน๊ตของเครื่องดนตรีชนิดอื่น ส่วนใหญ่พบในหลุมฝังศพขุนนางและราชวงศ์ เป็นการบันทึกระดับเสียงไว้บนซีกไม้ไผ่ด้วยอักษรจีน ทำให้เราได้รู้กันว่าเพลงโบราณเป็นยังไง ใช้ท่วงทำนองและจังหวะแบบไหน บรรเลงร่วมกันได้อย่างไร คงเหมือนการเอาโน๊ตเพลงของบ๊าคที่เขียนแยกเครื่องดนตรีแต่ละชนิดไว้ โยนให้นักดนตรีแต่ละอย่างเอาไปฝึก แล้วเอามาเล่นร่วมกันในวัดได้อย่างนั้นกระมัง

 

*Fall of the Song Dynasty* การล่มสลายของราชวงศ์ซ่ง พอดีผมเพิ่งได้ดูสารคดีเรื่องนี้ไปสัปดาห์ก่อน ยังพอจำได้ เลยจะเอามาเล่าอย่างย่อสุดๆ ไปด้วยแล้วกันครับ

ราชวงศ์ซ่งหรือซ้อง ฮ่องเต้ใช้แซ่สกุลจ้าว ปกครองจีนอยู่ 319 ปี ฮ่องเต้พระองค์แรก เป็นผู้รวมแผ่นดินในยุคห้าราชวงศ์แล้วตั้งราชวงศ์ซ่งขึ้นมา

ซ่งเหนือ (ค.ศ. 960-1127) มีเมืองหลวงคือไคฟง(ไคเฟิง, เปี้ยนจิง) ท่านเปาบุ้นจิ้นก็เกิดในยุคนี้แหละครับ ปลายยุคช่งเหนือภายในอ่อนแอ ชาวจินนอกด่านเริ่มเข้มแข็งรวมตัวกันบุกเข้ามา ฮ่องเต้องค์สุดท้ายและพระญาติถูกจับเป็นตัวประกัน

ซ่งใต้ ( ค.ศ. 1127–1279) แต่ยังเหลือพระญาติอีกคน รวมกับขุนนางภักดีและราษฎร ย้ายลงใต้ ตั้งเมืองใหม่ที่หลิงอัน เริ่มจากการเกษตร แต่กลับรุ่งเรืองกว่าในการค้าขาย ใช้เครื่องบรรณาการต่อรองให้จินอย่ามารุกราน

สุดท้ายก็สิ้นราชวงศ์ช่งใต้ กลายเป็นชาวมองโกลเข้ามาตั้งราชวงศ์หยวน (ค.ศ. 1271-1367) ซึ่งเป็นยุคของเจงกิสข่าน นวนิยายมังกรหยก ราชวงศ์หยวนออกกฎหมายกีดกันชาวฮั่นเข้ารับราชการอย่างชัดเจน ทำให้บันฑิตในยุคนี้หันไปเป็นศิลปินอิสระ ซึ่งเป็นยุคที่งานศิลป์รุ่งเรืองเอาการ

 

Timeline ราชวงศ์จีน อย่างย่อ

*ยุคโบราณ
สามราชาห้าจักรพรรดิ 2852
2070 BCE
ราชวงศ์เซี่ย 2100
1600 BCE
ราชวงศ์ชาง 1600
1046 BCE
ราชวงศ์โจว 1045
256 BCE
- ราชวงศ์โจวตะวันตก 1046
771 BCE
- ราชวงศ์โจวตะวันออก 771
256 BCE
ยุคชุนชิว (วสันตสารท) 770-365
BCE
ยุคจ้านกว๋อ (รณรัฐ) 481
221 BCE

*ยุคจักรวรรดิ
ราชวงศ์ฉิน 221
206 BCE
ราชวงศ์ฮั่น 206
BCE–220 CE
- ราชวงศ์ฮั่นตะวันตก 206
BCE - 8 CE
- ราชวงศ์ซิน 9-23
CE
- ราชวงศ์ฮั่นตะวันออก 25-220
CE
ยุคสามก๊ก 220
280 CE (เว่ย โจโฉ / ฉู่ เล่าปี่ / อู๋ ซุนกวน)
ราชวงศ์จิ้น 265
420 CE
- จิ้นตะวันตก 265-280
CE
- จิ้นตะวันออก 317-420
CE
- ยุคห้าชนเผ่า สิบหกรัฐ 304
439 CE
ราชวงศ์เหนือ-ใต้ 420
589 CE
ราชวงศ์สุย 581
618 CE
ราชวงศ์ถัง 618
690, 705907 CE
ราชวงศ์อู่โจว 690
705 CE
ยุคห้าวงศ์สิบรัฐ 907
960 CE       
ราชวงศ์เหลียว 907
1125 CE
ราชวงศ์ซ่ง 960
1279 CE
- ราชวงศ์ซ่งเหนือ 960-1127
CE
- ราชวงศ์ซ่งใต้ 1127-1279
CE
- ราชวงศ์เซี่ยตะวันตก 1038-1227
CE
- ราชวงศ์จิน 1115-1234
CE
ราชวงศ์หยวน 1271
1368 CE
ราชวงศ์หมิง 1368
1644 CE
ราชวงศ์จินยุคหลัง 1616
1636 CE
ราชวงศ์ชิง 1636
1912 CE

*ยุคใหม่
สาธารณรัฐจีน (บนแผ่นดินใหญ่) 1912
1949 CE
สาธารณรัฐประชาชนจีน (จีนแผ่นดินใหญ่) 1949
ปัจจุบัน
สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) 1949
ปัจจุบัน

------------------------

ทีนี้เรามาลองร้องกันหน่อยไหม

辜瓣 (Gu Ban) Sinful Petals / Singer: 小雨乐队

'薄霧濃雲愁永晝,瑞腦銷金獸。
佳節又重陽,玉枕紗廚,半夜涼初透。
東籬把酒黃昏後,有暗香盈袖。
莫道不銷魂,簾卷西風,人比黃花瘦。'

'Bó wù nóng yún chóu yǒng zhòu, ruì nǎo xiāo jīn shòu.
Jiājié yòu chóngyáng, yù zhěn shā chú, bànyè liáng chū tòu.
D
ōnglí bǎjiǔ huánghūn hòu, yǒu àn xiāng yíng xiù.
Mò dào bù xiāohún, lián juǎn xīfēng, rén bǐ huánghuā shòu.'

Misty clouds, Rui Brain Selling Golden Beast
Double Ninth Festival, Jade pillow yarn kitchen, Cool in the middle of the night,
Dongli put the wine after dusk, There are dark fragrance sleeves
Can’t be ecstasy, West Wind, People are thinner than yellow flowers

月出風涼亭孤
惜憶花曾開
落掃塵土
歎得才如仙玉
奈得一身愁緒
孑然終了去

Yuè chū fēng liángtíng gū
xī yì huā céng kāi
luò s
ǎo chéntǔ
tàn dé cái rú xiān yù
nài dé yīshēn chóuxù
jiérán zhōngliǎo qù

Moonrise wind pavilion solitary
Xi Yihua once bloomed
Sweep the dust
Sigh like a fairy jade
Nide is sad
Lonely end

一縷輕塵離岸
誰起漣漪
誰聽孤歎
一夜瀑雨風殘
何處花香
何處悲傷

yīlǚ qīng chén lí àn
shuí q
ǐ liányī
shuí tīng gū tàn
yīyè pù yǔfēng cán
hé chù hu
āxiāng
hé chù b
ēishāng

A wisp of dust offshore
Who makes ripples
Who listens to loneliness

A night of rain and wind
Where is the floral fragrance
Where is sad

'道是梨花不是,道是杏花不是。
白白與紅紅,別是東風情味。
曾記,曾記,人在武陵微醉。'

'Dào shì líhuā bu shì, dào shì xìng huā bu shì.
Báibái yǔ hóng hóng, bié shì dōng fēngqíng wèi.
Céng jì, céng jì, rén zài wǔlíng wēi zuì.'

Tao is Ewha is not, Tao is apricot flower is not
White and red, Don’t be Dongfeng
Zeng Kee Zeng Kee, People are slightly drunk in Wuling

夜寒闌珊夢枯
旦如清平去
花愁滿樓
驚如傾城花
亦得君子節
恨那世情
伊人何辜

Yèhán lánshān mèng kū
dàn rú qīngpíng qù
huā chóu mǎn lóu
j
īng rú qīngchéng huā
yì dé jūnzǐ jié
hèn nà shìqíng
y
īrén hé gū

The night is cold and the dream is dry
Dan Ruqingping
Sorrowful
Astonished as a flower
Yide Junzi Festival
Hate the world
Yi Ren He Gu

更多更詳
盡歌詞
魔鏡歌詞網
一詞千古流芳
獨留破鑒
獨留空悵
伊人悲世辜瓣
蘭居空穀
梅澤冬寒

gèng duō gèng xiángjìn gēcí zài
mó jìng gēcí wǎng
yī cí qiāngǔ liúfāngdú liú pò jiàn
dú liú kōng chàng
y
īrén bēi shì gū bàn
lán jū kōng gǔ
méizé dōng hán

A word that has passed through the ages
Leave alone
Left alone
Yi Ren sad world
Lanjukong Valley
Mei Ze Donghan

三百載清平
歌臺舞榭春繞亭
三兩杯不過風景

sānbǎi zài qīngpíng
gē tái wǔ xiè chūn rào tíng
sān liǎng bēi bùguò fēngjǐng

Three hundred years of Qingping
Song stage dance pavilion spring around the pavilion
Three or two cups but the scenery

薄惡世人情
雨盡花落淚痕殘
此恨錯去再無盡
玉尊空 飄瓣何去

báo è shìrén qíng
yǔ jǐn huā luò lèi hén cán
cǐ hèn cuò qù zài wújìn
yù zūn kōng piāo bàn hé qù

Shameless
The rain is gone
This hate goes wrong and never ends
Yu Zunkong

幸此生 歎此生
悲此生 花落去香殘可否有人問
餘音終

Xìng cǐshēng tàn cǐshēng
bēi cǐ shēnghuā luò qù xiāng cán kěfǒu yǒurén wèn
a yúyīn zhōng chè

Where is the floating petal
Fortunately in this life
Sigh this life
Sad this life

一縷輕塵離岸
誰起漣漪
誰聽孤歎

一夜瀑雨風殘
何處花香
何處悲傷

一詞千古流芳
獨留破鑒
獨留空悵
伊人悲世辜瓣
蘭居空穀
梅澤冬寒

yīlǚ qīng chén lí àn
shuí qǐ liányī
shuí tīng gū tàn

yīyè pù yǔfēng cán
hé chù huāxiāng
hé chù bēishāng

yī cí qiāngǔ liúfāng
dú liú pò jiàn
dú liú kōng chàng
yīrén bēi shì gū bàn
lán jū kōng gǔ
méizé dōng hán

Can someone ask if Hua Luo Qu Xiang Can?
Ah lingering sound
A wisp of dust offshore
Who makes ripples

Who listens to loneliness
A night of rain and wind
Where is the floral fragrance
Where is sad

A word that has passed through the ages
Leave alone, Left alone
Yi Ren sad world
Lanjukong Valley
Mei Ze Donghan

 

เพลงที่มีร้องงิ้วก็น่าสนใจ เก็บไว้อ่านเล่นครับ

赤綾 (Chi Ling) The Heoine

山河殘缺雲掩星,蠻寇縱兵起狼煙,
未完夢覺滄桑變,江山風雨災劫現,
昨夜繁華,今日凋零。
淮安義女落紅塵,遺訓未忘誦兵陣,

Shanhe canque yun yan xing, man kou zong bing qi langyan,
weiwan meng jue cangsang bian, jiangshan fengyu zai jie xian,
zuoye fanhua, jinri diaoling.
Huai’an yi nu luo hongchen, yixun wei wang song bing zhen,

The mountains and rivers are incomplete,
the clouds occult the stars, and the barbarians are in the air,
Unfinished dreams feel the vicissitudes of life,
the wind and rain disasters appear,
Prosperous last night, withered today.
The righteous daughter of Huai’an fell into the dust,
and her legacy has not forgotten to recite the army formation,

青眼把得英雄識,共志登馬請長纓,
褪紅妝,卸羅裙,桴鼓震天報國恨,
紅顏忠烈男兒志,縱使鬚眉亦難甚!
時逢亂世,狼煙襲四方,

qingyan ba de yingxiong shi, gong zhi deng ma qing changying,
tui hongzhuang, xie luo qun, fu gu zhen tian baoguo hen,
hongyan zhonglie nan’er zhi, zongshi xumei yi nan shen!
Shi feng luanshi, langyan xi sifang,

The blue eyes have gained the heroic sense,
and the common aspiration is to join the horse.
Fading red makeup, removing the skirt,
creaming to the sky to repay the country’s hatred,
Hongyan Zhonglie male ambition,
even with beard and eyebrows is difficult!
In times of chaos, wolves hit the places,

雖落流燕,家志未忘。
英烈巾幗,只求戰沙場
執戟安國,女兒又何妨。
烽火降臨,氣勢如洪荒,

sui luo liu yan, jia zhi wei wang.
Yinglie jinguo, zhi qiuzhan shachang
zhi ji an guo, nu’er you hefang.
Fenghuo jianglin, qishi ru honghuang,

Although Liu Yan has fallen, the family record has not been forgotten.
her#ines only seek battle on the battlefield
What’s the matter with your daughter if you are in peace.
The beacon fire descends, the momentum is like a prehistoric,

存亡之秋,誰來保家鄉。
血甲襤褸,兇狠似虎狼,拿繡紅來換刀槍。
為我披甲 再征山河那戰煙肆亂
飛馬萬里雲星與月

cunwang zhi qiu, shui lai bao jiaxiang.
Xue jia lanlu, xionghen si hulang, na xiu hong lai huan daoqiang.
Wei wo pijia zai zheng shanhe na zhan yan si luan
fei ma wanli yun xing yu yue

In the autumn of survival, who will protect the hometown.
The blood armor is ragged and fierce like a tiger wolf,
and he uses embroidered red for swords and spears.
Put on my armor, and then conquer the mountains and rivers
Pegasus, Stars and Moon

赤綾丹心,可憐故土已焚盡焦亡。
隨君護國,任重 而路長。
英烈巾幗,只求戰沙場,
執戟安國,女兒又何妨。

chi ling danxin, kelian gutu yi fen jin jiao wang.
Sui jun hu guo, ren zhong er lu zhang.
Yinglie jinguo, zhi qiuzhan shachang,
zhi ji an guo, nu’er you hefang.

Chi Ling’s heart, the poor homeland has been burned to death.
Following the emperor and protecting the country,
the task is heavy and the road is long.
heroines only seek battle on the battlefield,
What’s the problem with your daughter when you are in peace.

烽火降臨,氣勢如洪荒,
存亡之秋,誰來保家鄉。
血甲襤褸,兇狠似虎狼,
箭矢鋒,刀刃利,風疾戰鼓擊。

Fenghuo jianglin, qishi ru honghuang,
cunwang zhi qiu, shui lai bao jiaxiang.
Xue jia lanlu, xionghen si hulang,
jian shi feng, daoren li, feng ji zhangu ji.

The beacon fire descends, the momentum is like a prehistoric,
In the autumn of survival, who will protect the hometown.
The blood armor is ragged, fierce like a tiger and wolf,
The arrows are sharp, the blade is sharp,
and the wind is swift and beaten.

家國起烽煙,金邦禍續延,
時危勢險,國土漸難全,
忍看江山多疾苦,百姓流離哀恨怨!
操鼓練兵多時日,誓把歸寇江上殲!

Jia guo qi fengyan, jin bang huo xu yan,
shi wei shi xian, guotu jian nan quan,
ren kan jiangshan duo jiku, baixing liuli ai hen yuan!
Cao gu lianbing duo shi ri, shi ba gui kou jiangshang jian!

There is a beacon in the country,
and the disaster of the Golden State continues,
The time is dangerous and the country is getting harder to complete,
To bear with the sufferings of the country,
the people are displaced with sorrow and resentment!
I have been training the soldiers for a long time,
and vowed to wipe out Gui Kou Jiang!

忽見霧障臨,萬里雲欲變,虎帳升,計謀施,
三軍將士齊領命,梁氏操鼓親督戰!
蕩裡迷陣,氣勢掀江天地轉!
黃天蕩,殺氣現!

Hu jian wu zhang lin, wanli yun yu bian, hu zhang sheng, jimou shi,
sanjun jiangshi qi ling ming, liang shi cao gu qin duzhan!
Dang li mi zhen, qishi xian jiang tiandi zhuan!
Huangtiandang, shaqi xian!

Suddenly seeing the fog barrier,
thousands of miles of clouds want to change,
the tiger’s account rises, tactics,
The soldiers of the three armies led the battle,
and the Liang family supervised the battle!
Dangli lost the formation,
the momentum has turned the world!
Huang Tiandang, murderous look!

月華濃烈 迷霧臨江 箭在弦
擂鼓聲 響徹蔓延 震江揮戰義
箭似風破煙 過江心屠敵
幟展赤豔 氣勢翻江 困敵心

Yue hua nonglie miwu linjiang jian zai xian
lei gu shengxiang che manyan zhen jiang hui zhan yi
jian shi feng po yanguo jiang xin tu di
zhi zhan chi yan qishi fan jiang kun di xin

The moonlight is strong, the mist is lining the river
The drum beat resounded and spread,
Zhenjiang waved the war
Arrows are like wind and smoke,
crossing the heart of the river to kill the enemy
Zhan Zhan Chi Yan, the momentum turns the river,
the enemy’s heart is trapped

寒敵膽 破敵陣前 劍鋒濕戰衣
烽煙靖雲散 功表傳忠烈(浩氣照雲星)
山河破碎 奈何惡敵來犯我邊疆
女兒忠貞國恨不忘

han di dan po dizhen qian jian feng shi zhan yi
fengyan jing yunsan gong biao chuan zhonglie (haoqi zhao yun xing)
shanhe posui naihe e di lai fan wo bianjiang
nu’er zhongzhen guo hen bu wang

Cold enemy bravery before breaking the enemy line
Fengyan Jingyunsan, the merits are passed on to loyalty
Mountains and rivers are broken,
but the enemy comes to attack my frontier
The daughter of loyalty and hatred

旗語揮舞 戰鼓英豪再劍指我願
誓屠敵虜 護君平戰亂
為我披甲 再征山河那戰煙肆亂
悲我大半河山城殤

qi yu huiwu zhangu yinghao zai jian zhi wo yuan
shi tu di lu hu junping zhanluan
wei wo pijia zai zheng shanhe na zhan yan si luan
bei wo daban he shancheng shang

Waving the semaphore,
the hero of the war drum points to my wish again
Swear to slaughter the enemy
Put on my armor, and then conquer the mountains and rivers
Sad for most of me

旗語揮舞 戰鼓英豪再劍指我願
誓屠敵虜 護君平戰亂
息戰共暢餘暉

qi yu huiwu zhangu yinghao zai jian zhi wo yuan
shi tu di lu hu junping zhanluan
xi zhan gong chang yuhui

Waving the semaphore,
the hero of the war drum points to my wish again
Swear to slaughter the enemy
End the war and share the afterglow

 

ส่วนเพลงแนวโอเปรา ที่ผมว่าไม่ควรพลาด

雾山归途 (Misty Mountain Home)

溪流低吟 归途无声
花木入梦 雾笼山径 待初醒
惫的身躯 渐渐湿润的呼吸
初晨归路 如入梦

xīliú dī yín guītú wúshēng
huāmù rùmèng wù lóng shān jìng dài chū x
ǐng
píbèi de shēnqū jiànjiàn shīrùn de hūxī
chū chén guī lù rú rùmèng

The stream whispers silently on the way home
Flowers and trees dreaming, foggy mountain trail, waiting for the first awakening
Tired body, gradually moist breathing
The way home in the early morning is like a dream

朝露轻聚 润物有色
枯叶铺石 青草引路 向晨光
迷茫的黑夜
缓缓远离的步伐
日初升 雾将散

zhāolù qīng jù rùn wù yǒusè
kū yè pū shí qīngcǎo yǐnlù xiàng chénguāng
mímáng de hēiyè hu
ǎn huǎn yuǎnlí de bùfá
rì chū shēng wù jiāng sàn

The morning dew gathers lightly, moisturizes things
Paving stones with dead leaves, green grass leads the way, Xiang Chenguang
Confused night, slowly far away
At the beginning of the day, the fog will clear

穿过高山 心途辽阔
万物在黑暗中生
吹散迷 晨光路明
忧伤伴随露珠消散

chuānguò gāoshān xīn tú liáokuò
wànwù zài hēi'àn zhōng shēngzh
ǎng
chuī sàn míwù chénguāng lù míng
yōushāng bànsuí lùzhū xiāosàn

Through the mountains, my heart is vast
Everything grows in the dark
Blow away the mist, Chenguang Luming
Sadness dissipates with dew

Ahh 离开这高山 重回尘嚣
Ahh 我心已洗 黑夜高山 宁静永恒

Ahh líkāi zhè gāoshān chóng huí chénxiāo
Ahh w
ǒ xīn yǐ xǐ jìng hēiyè gāoshān níngjìng yǒnghéng

Ahh leave this mountain and return to the hustle and bustle
Ahh, my heart is cleansed, the night, the mountains, the quiet and eternal

 

Lyric From - https://jspinyin.net

ไม่มีความคิดเห็น: