While I thought that I was learning how to live, I have been learning how to die - Leonardo da Vinci

บทความเหล่านี้ หากเป็นประโยชน์กับท่าน ผมก็ดีใจ หากจะนำไปใช้ที่อื่น ผมก็ยินดี แต่กรุณาอ้างอิงที่มานิดนึง จัดเป็นมารยาทพื้นฐานในการใช้บทความของผู้อื่นใน internet หลายเรื่องผมต้องค้นคว้า แปลเอกสาร ตรวจสอบความถูกต้อง กลั่นกรอง เรียบเรียง ใช้เวลา ใช้สมอง ใช้ประสบการณ์ การก๊อปไปเฉยๆ อาจทำให้คนอื่นคิดว่าคนที่นั่งคิดนั่งเขียนแทบตายห่ากลายเป็นคนก๊อป ผมเจอเพจที่เอาเรื่องของผมไปตัดโน่นนิดนี่หน่อยให้เป็นงานของตัวเอง ไม่อ้างอิงที่มา ไม่ละอายใจหรือ .. สงสัยอะไร comment ไว้ ผมจะมาตอบ แต่ถ้าใครมาแสดงความไพร่หรือด่าทอใครให้พื้นที่ของผมสกปรก ผมจะลบโดยไม่ลดตัวลงไปยุ่งเกี่ยว อยากระบายไปหาที่ของตัวเองครับ หมายังขี้เป็นที่เป็นทางเลยจ้ะ นี่ก็เคยเจอ ไม่รู้พ่อแม่สอนมายังไง!!!

วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ขี้หมาฮาเฮ 1 / Mon. 6 Oct., 2014



เช้านี้ ผมงัดตัวเองขึ้นมาจากที่นอนตอน 6.10 เอา ulsanic 2 เม็ดยัดปากเจ้าบ๊าคไป แล้วหันไปหาขวดน้ำเกลือ เปลี่ยนเข็ม กลายเป็นดึงเข็มออกมาจากปลอก พอจะเก็บเข้า ดันทิ่มนิ้วตัวเอง เลือดออกบานเลย เข็มเบอร์ 18 แถมผมกินยาโรคหัวใจที่มีส่วนผสมของ aspirin อยู่ด้วย ก็กดห้ามเลือดไปด้วย ทำไปด้วยจนเรียบร้อยดี ตามด้วย cavumox แล้วไปเตรียมอาหาร
วันนี้ผมลองเอาขนมปังห่ออาหารเม็ด ยัดปาก ก็กลืนนะ แต่ไม่กินเอง ผมเริ่มกลัว ให้กินมั่วซั่วคงไม่ดี .. จากนั้นพาไปฉี่ ไม่ยอมอึ ราวครึ่งชั่วโมงต่อมาก็อ้วกออกมาหมด อะไม่เป็นไร ผมให้ยาแก้อาเจียนตัว ondensetron 8 mg แล้วไปหาอะไรใหม่มาให้ มะกี้มันอาจแข็งไป ระคายเคือง เปลี่ยนเป็นข้าว ไข่ต้ม หมูขยี้ น้ำ ไม่สนใจ ผมวางทิ้งไว้ให้ .. ต้องไปทำงานแล้วลูก
เที่ยงกลับมา (วันนี้ไม่มีคนอยู่บ้าน) ผมก็เรียกก่อนเลย บ๊าคอยู่ไหนลูก นอนกระดิกหางดุ๊กๆ อยู่ข้างหัวเตียงโน่น ในชามมีอาหารเหลืออยู่นิดหน่อย .. โอ้ ดีมากเลย ที่ไม่ดีคือ ที่พื้นห้องเจออึอยู่ 4-5 ที่ ลักษณะเหมือนไหลออกมาเอง พอรู้ตัวก็ลุกหนี เอาแล้วไง ถ้าควบคุมการอึเองไม่ได้ล่ะงานใหญ่ หรือเดินไม่ได้ไปแล้ว ได้ดิ ก็เขาย้ายตัวเองไปจากกองอึได้นี่ .. ผมไม่ได้กรี๊ดหรอกครับ ลืม เพราะไม่ว่าจะกรี๊ดหรือไม่ ก็ต้องจัดการกับปัญหาตรงหน้าอยู่ดี กรี๊ดให้เปลืองพลังงานเปล่าๆ
สภาพของอึ เป็นก้อนเกือบเหลว ขนาดสักหัวแม่มือ (ของผมนะ) มีกองเล็กกองน้อย สีดำ และเหนียวหนึบ ผมเก็บแล้วเอาแอลกอฮอล์+เดททอล ที่ผมผสมใส่ foggy ไว้เช็ดโน่นนี่ ถูๆ ไป ถูไม่ออกทั้งหมด อ่ะเก็บไว้ก่อน เย็นค่อยว่ากันใหม่(เวลามันน้อย)
เช็ดก้นให้ก่อน แล้วเชิญเขาไปฉี่ .. เขานอนมอง ทำหางดุ๊กดิ๊ก ตลอดเวลาที่ผมเก็บกวาด คงคิดว่าทำเลอะเทอะไว้ ผมจะดุด่า ผมก็พูดกับเขาว่า ทำไม กลัวป๊าด่าเหรอ ไม่เป็นไรลูก บ๊าคไม่สบาย ป๊าเข้าใจ ป๊าไม่ด่าหรอก
ตอนออกไปฉี่ก็เดินได้นิ่หว่า ถึงจะดูไม่มั่นคงนัก ผมอัด vetmedin ไป 2 เม็ด หยอดตา 3 อย่าง (ไม่ได้หยอดพร้อมกันนะครับ) แล้วกลับไปทำงาน เมื่อวันเสาร์ก็ลาไปวันนึงแล้ว คือผมเกรงใจเขาน่ะ เรารับเงินเดือนเต็ม จะหยุดโน่นนี่มากมาย มันก็รู้สึกไม่ดีเอง ไหวก็ไป มันไม่ใช่งานแบกหาม ไม่ได้หนักหนาอะไร
กลับไปทำงานอย่างสบายใจขึ้นนิดหน่อย ลูกกูกินข้าวแล้วโว๊ย
เย็นกลับมา เจออึสีดำอีก 2 ที่ มันเหม็นสุดๆ เลยว่ะ ก็เช็ดพื้น เช็ดก้นให้สะอาด เท่าที่การเช็ดมันจะทำได้น่ะนะครับ .. จับอาบน้ำคงไม่ไหว ร่างกายเขาคงรับไม่ไหว ผมเช็ดแล้วดมๆ ดู (ที่ข้างๆ ก้นเขาน่ะ) ไม่เหม็นแล้ว น่าจะใช้ได้
ผมวางแผนมาตั้งแต่บ่ายว่าจะเอา Renal มาปั่นคลุกข้าวให้กิน แต่คิดว่ากลิ่นนี้เขาเบือนหน้าหนี เลยคลุกแบบที่ปั้นเป็นก้อนได้ แล้วยัดปากไปราวๆ 1 ถ้วย ตอนบังคับให้กลืน เขามองตาแบบว่า ป๊าอ่ะ บ๊าคไม่กินไม่ได้เหรอ แต่ไอ้ที่หลุดๆ ออกมาจากปาก เขาก็เลียกินนะ ผมเลยคิดว่า เขาคงอยากกินอยู่เหมือนกัน พาออกไปฉี่ก็ดูเดินดี ชวนให้อึก็ไม่อึ คงหมดแล้วมั๊ง มานั่งให้น้ำเกลือกัน เขารับได้แล้ว (คือผมไม่ลืมขย้ำหนังให้น่ะครับ) .. ความสุขมาเร็วก็ไปเร็ว .. 1.30 ชั่วโมงต่อมาเขาก็อ้วกออกมาหมด เป็นก้อนเข้าไปยังไง ก็ออกมายังงั้น มีเลือดแดงๆ ออกมานิดนึง ทุกข์มาเลยครับ
ผมหยิบมือถือมาตอน 7.50 pm คงต้องโทรหาหมอแล้ว กลายเป็นว่าเมื่อ 4.45 คุณหมอธนิการท่านโทรมา ผมก็โทรกลับแล้วไม่มีคนรับสาย เลยโทรเข้าเบอร์โรงพยาบาล เขาถามให้แล้วบอกว่าคุณหมอไม่ได้โทร ผมนึกได้ หรือผม memory ไว้ตอนคุณหมอธนิกาโทรมา แต่มันอาจเป็นเบอร์มือถือที่ทางโรงพยาบาลมีไว้ให้คุณหมอใช้กัน ผมก็ถามเขาไปอย่างงั้น เขาก็ขอชื่อสุนัข ผมก็บอกชื่อบอกหมายเลข เขาหายไปพักใหญ่แล้วว่า อยู่บ้านเดียวกับ Coffee รึเปล่า ก็ว่า ใช่ครับ เขาว่ายังหาแฟ้มของน้องเขาไม่เจอเลย เดี๋ยวเขาหาให้ ว่าคุณหมอท่านไหนเอาไปโทรหาผม แล้วจะให้โทรกลับ .. ด้วยความที่วันนี้ต้องทำหลายอย่าง ผมก็เริ่มเพลีย แต่ไม่กล้าทำอะไรต่อ เพื่อรอให้คุณหมอโทรมา ได้แต่เอนๆ พนักพิงไป จะนอนก็กลัวหลับ
พอ 8.30 pm คุณหมอไม่โทรมาแน่แล้ว ผมก็ล่อบ๊าคที่นอนขดตัวกลมอยู่ตรงซอกใต้หน้าต่างให้ออกมา ด้วยกัสเซน มาครับ กินหมดด้วย แล้วทำท่าจะวิ่งกลับไปนอนที่เดิม แต่ผมจับขาไว้ บอก นั่งตรงนี้แหละ โปรดรอสักครู่ แล้วเขาก็จะนอนลงไปอย่างรู้งาน ว่าท่าไหนที่ป๊าจะจับพ่น nanowound .. ความจริง ผมก็ไม่อยากวุ่นวายกับเขามากหรอกครับ แต่ถ้าไม่พ่น ความคันมันคงทำให้รำคาญนานกว่า และถ้าไม่หวีผม มันก็หลุดรุ่ยเลอะเทอะเกินไป เลยต้องฝืนใจกันไปอย่างนี้แหละ
วันนี้เสร็จเรื่องราว 3 ทุ่มครึ่ง เขาวิ่งไปนอนข้างหัวเตียง ที่ผมขัดถู จนคราบอึไม่มีเหลือแม้แต่ปลายเข็มแล้วน่ะครับ (เล่นเอาความร้อนขึ้น) ผมเฝ้า check รูก้นเขาเรื่อยๆ มาตั้งแต่เย็น เหมือนเป็นโรคจิตเลยครับ แต่ก็ยังไม่กล้าเอาที่นอนลงมาให้ ยังไงเขาก็ไม่ค่อยนอนอยู่แล้ว รอพรุ่งนี้ให้พ่อซื้อผ้ายาง และชัวร์ๆ ก่อน น่าจะดีกว่า ผมเอาผ้าแพรห่มให้ เขาก็นอนขดตัวกลม แล้วผมก็คอยไปเปิดตรงก้นดูเป็นระยะๆ ว่ามีอึเล็ดลอดออกมาบ้างรึเปล่า ปรากฎว่าถึงเช้า ไม่มีเลย
เพื่อนผมโทรมาตอน 4 ทุ่ม คุยกันราวครึ่งชั่วโมง ผมค่อยไปอาบน้ำ กลับมาพอดีเวลายัด ulsanic แล้วประคบหลังให้บ๊าคอีกพักนึง ก็หิว กินมื้อดึกอีก กลับมาให้ vetmedin มื้อดึก หยอดยาหยอดตา พาบ๊าคไปฉี่ ก็เที่ยงคืนครึ่ง วันนี้นอนช้าไปครึ่งชั่วโมง กินยาช้าไป 1 ชั่วโมง เรื่องมันเยอะน่ะครับ

ไม่มีความคิดเห็น: