ความเกี่ยวพันของคอเลสเตอรอล ค่าไต ยูริค เก๊าท์

ค่าเลือดครานิ หมอถึงกับสั่งให้ไปนั่งคุยกับนักสุขภาพบำบัด!
ยูริค 9.3 / คอเลส 218 / HDL 44 / LDL 110 /
GFR stage2 68.5 / น้ำตาล 100 พอดี ..
จำได้คร่าวๆ ราวนิ้ ทำไมผมไม่ขอถ่ายรูปมาวะ ..
อ่ะ ควรรู้สำนึกแล้วช่ะ ร่างกายคน ช่างอ่อนไหวบอบบางยิ่งนัก

ดังนั้น โพสนิจึงเป็นวิชาการล้วนๆ
เป้าหมาย เพื่อทำให้ค่าต่างๆ กลับมาอยู่ในเกณท์ปกติ
ผมมีเวลา 4 เดือน ก่อนการตรวจเลือดครั้งถัดไป
ซึ่ง ถ้าทำได้ 4 เดือน ก็คงทำได้ตลอดชีวิต หวังว่างั้น ..

จึงไล่อ่านแม่มไปทั่วๆ ได้บทสรุปมาแค่นิ :(
ผมก็เปล่าคิดเอง(ร้อยเพจต่างกันไป ขาดๆ เกินๆ)
ผมเอามารวมให้มันครบถ้วน รวบรัด ทำความเข้าใจ แล้วตั้งใจว่า กุจะใช้ตามนิ!

เลยเอามาแบ่งกันอ่าน เผื่อคุณเป็น โคตรพ่อโคตรแม่คุณเป็น อาจเอาข้อมูลไปใช้อะไรได้
(หลายอย่าง ผมจะไม่อธิบายให้ยืดยาวนะ คิดว่าใครๆ ก็รู้อยู่แล้ว เช่น การสลายตัวของเซลล์เกิดจากอะไรได้บ้าง เป็นต้น)

ผมมองว่า ถ้าคุมยูริคได้ มันก็ส่งผลไปคุมคอเลสเตอรอลได้ด้วยแหละ
จริงๆ แดกงิได้ ก็ไปแนวเกือบชีวจิตละ เอาวะ ลองดิ
ดีเสียอีกนะ เราไม่ต้องไปร่วมฆ่ากับผู้อื่นมากนัก! รุ้ป่าว คนไม่ใช่สัตว์กินเนื้อนะ

งั้นเอากระบวนการสร้างยูริคก่อน
1. การสลายพิวรีนจากอาหาร สร้างยูริคขึ้นมา ดังนั้นแดกของมีพิวรีนมาก ยูริคย่อมมากตาม
2. การสลายตัวของเซลล์ สร้างยูริคเช่นกัน
3. มีพันธุกรรม ก็เสี่ยงกว่าคนไม่มี
4. ไตบกพร่อง โรคหัวใจ การใช้ยา .. สัส เข้าข่ายทุกข้อเลย :(

ปกติเราขับยูริคออกทาง ฉี่/อึ 75/25% จึงต้องดูปริมาณพิวรีนในสิ่งที่กิน ร่วมกับน้ำและการออกกำลัง
กรดยูริคเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในเลือดด้วย ไม่มีไม่ได้ แต่ค่าปลอดภัยต้องไม่เกิน 6/7 ญ/ช
ร่างกายคนช่างซับซ้อนจนน่าประหลาดใจ

ความสัมพันธ์ของยูริค+เก๊าท์+ไต
- ยูริคสูงไม่ต้องเป็นเกาต์เสมอไป ยูริคไม่สูงอาจมีเกาต์
- เกาต์ = ยูริคตกผลึกสะสมคอยทิ่มแทงแถวข้อกระดูก(ข้อเท้า ข้อนิ้วเท้า) ทำให้อักเสบ บวมแดง ปวด
- การต้องขับออกมากเกิน ทำให้ยูเรตในปัสสาวะสูงตาม นานไปตกผลึกในไต เกิดภาวะไตวายหรือนิ่วทางเดินปัสสาวะ

ของควรแดก
นมไขมันต่ำ โยเกิตไขมันต่ำ ชีส
ไก่กินได้แค่อกเท่านั้น, ปลาบางชนิด
กาแฟดำ พอประมาณ
ผักเกือบทุกชนิด กาดขาว กวางตุ้ง สลัด กินเฉพาะใบโตเต็มที่
ผลไม้ทุกชนิด มีสารต้านอนุมูลอิสระ ลดอักเสบ (แอปเปิ้ล แก้วมังกร กีวี สับปะรด มะละกอ) ระวังน้ำตาล+แคล
ไข่ เต้าหู้ไข่ ห้ามเต้าหู้ถั่ว
ซุปผัก
เกลือ ซีอิ้วขาว น้ำส้มสายชู

ของไม่ควรแดก
เนื้อแดง วัว หมู แกะ เครื่องในสัตว์ ของแปรรูปทุกชนิด ไส้กรอก เบค่อน ห่าเหว!
พืชตระกูลถั่วและถั่วทุกชนิด ดอกกะหล่ำ เห็ด ยอดผัก เมล็ดผัก ผักกำลังโต แตงกวา(กินได้ถ้าปอกเปลือกคว้านเมล็ดออก) กระถิน ชะอม / อโวคาโด?
อาหารทะเล ซาร์ดีน แซลมอน ทูน่า เทราต์ ดุก อินทรี ไส้ตัน ไข่ปลาทุกชนิด
คาร์บขัดสี แป้ง ขนมปัง(มียีสต์) น้ำตาล+ฟรุคโตส(น้ำผลไม้ น้ำผึ้ง)
น้ำมัน ไขมันทรานส์ทุกชนิด ขัดขวางการขับยูริค
ซุปสัตว์ ซุปก้อน กะปิ ยีสต์
แอลกอฮอล ขัดขวางการขับออก
ยาแอสไพริน กลุ่มซาลิไซเลต กลุ่มเอนเสด ยับยั้งการขับ

อาหารลดยุริค
ตระกูลส้ม(ยันมะนาว) มะเขือเทศ พริกหวาน วิตามินซีเยอะ ลดกรดยูริคในเลือดได้
พืชผักสีแดงที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ไลโคปีนช่วยลดยูริค
กล้วย ลดการอักเสบ
สตรอ(แหล!) รักษาระดับความเป็นกรดด่างให้สมดุล
แอปเปิ้ล กรดมาลิก ลดยูริค ลดอักเสบตามข้อ
เชอร์รี่ แอนโทไซยานิน ลดยูริค ป้องกันการอักเสบ
น้ำมันมะกอก น้ำมันคาโนลา อะโวคาโด?
และอาหารที่มีไขมันไม่อิ่มตัวเยอะๆ ลดกรดยูริค

เพิ่มเติม
- แครอท ย่อยยากมาก ต้องต้มนานๆ ค่อยกิน ดิบมีพิษแต่ต้องกินเยอะมากๆ จึงแสดงอาการ
- แพ้นมวัวให้แดกโยเกริต์! แบคทีเรียแลคโตบาซิลัสเปลี่ยนแลคโตส(น้ำตาล)ในนมเป็นแลคติก(กรด) กินได้
- ห้ามนมถั่ว พิวรีนสูงแม้แปรรูปแล้ว
- อย่าอดอาหาร ร่างกายจะหลั่งคีโตน แล้วทำให้ยุริคเพิ่ม (วิชาคีโตเจนิค ควรศึกษาให้ถึงแก่น ค่อยเริ่มนะครับ)

ดังนั้น สิ่งที่เลี่ยงไม่ได้คือการทำอาหารกินเอง .. พระเจ้า!