While I thought that I was learning how to live, I have been learning how to die - Leonardo da Vinci

บทความเหล่านี้ หากเป็นประโยชน์กับท่าน ผมก็ดีใจ หากจะนำไปใช้ที่อื่น ผมก็ยินดี แต่กรุณาอ้างอิงที่มานิดนึง จัดเป็นมารยาทพื้นฐานในการใช้บทความของผู้อื่นใน internet หลายเรื่องผมต้องค้นคว้า แปลเอกสาร ตรวจสอบความถูกต้อง กลั่นกรอง เรียบเรียง ใช้เวลา ใช้สมอง ใช้ประสบการณ์ การก๊อปไปเฉยๆ อาจทำให้คนอื่นคิดว่าคนที่นั่งคิดนั่งเขียนแทบตายห่ากลายเป็นคนก๊อป ผมเจอเพจที่เอาเรื่องของผมไปตัดโน่นนิดนี่หน่อยให้เป็นงานของตัวเอง ไม่อ้างอิงที่มา ไม่ละอายใจหรือ .. สงสัยอะไร comment ไว้ ผมจะมาตอบ แต่ถ้าใครมาแสดงความไพร่หรือด่าทอใครให้พื้นที่ของผมสกปรก ผมจะลบโดยไม่ลดตัวลงไปยุ่งเกี่ยว อยากระบายไปหาที่ของตัวเองครับ หมายังขี้เป็นที่เป็นทางเลยจ้ะ นี่ก็เคยเจอ ไม่รู้พ่อแม่สอนมายังไง!!!

วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2556

สัจธรรมนำทาง / Sat. 28 Dec., 2013

วันนี้มีงานเลี้ยง มันเป็นวันบังคับที่น่ารำคาญ ถ้าไม่มา ต้องลา 1 วัน เรื่องอะไรเล่า ครึ่งวันก็กลับได้แล้ว ทนๆ เอาวะ เปิดคอมหาอะไรดูไป
เช้ามีการประกาศพนักงานดีเด่นประจำปี ผมทำงานที่นี่มาตั้งแต่ 1996 ปีนี้ 2013 ยังไม่เคยได้พนักงานดีเด่นสักครั้ง แต่เคยโดนพักงาน 7 วัน 1 ครั้ง เพื่อนๆ แซวผมอยู่นานกับคำว่า 7 วัน ครึ่งราคา
ขำๆ ครับ มันไม่ใช่ความผิดทางวินัย แต่ผิดตรงไม่ซูฮกกับผู้จัดการฝ่ายบุคคล ที่ใช้เส้นสายใหญ่โตเข้ามาทำงาน ที่ว่าขำคือ ครั้งแรกที่เขาเข้ามาทำงาน เขาเข้ามาช่วยงานผม ผมต้องสอนงานเขาทุกอย่าง แม้กระทั่งคอมพิวเตอร์ที่ใช้ไม่เป็นเลย เพราะเขาเคยทำงานเป็นหัวหน้า รปภ. มาก่อน แต่ใช้ภาษาอังกฤษได้ดี
ผ่านไปราวปีกว่า เขาก็ได้โอกาสเป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคล เพราะคนเก่าลาออก .. แล้วเขาก็สนองคุณผม ทั้งๆ ที่ผมให้เกียรติเขาในฐานะผู้ใหญ่คนหนึ่งตามปกติ สาบานได้ว่าไม่เคยก้าวร้าว แต่ไม่รู้เขาหมั่นไส้อะไรผม เป็นไปได้ว่าความสามารถผมสูงกว่า คอยหาเรื่อง สุดท้ายก็ต้องมีเรื่องจนได้ .. ผ่านมาอีกไม่เท่าไหร่เขาก็ลาออกไปเอง เพราะความกร่างของเขาทำให้ผู้ใหญ่ทนไม่ไหวกับการสร้างความวุ่นวาย และลดตำแหน่งเขา
ผมไม่ได้จะโอ้อวด ความจริงคือ ผมต้องเจอปัญหาจากความสามารถของตัวเองหลายครั้งกับพวกเส้นใหญ่ มี 2-3 ครั้งที่พวกเด็กเส้นคิดว่า ถ้าเขาเข้ามาจับงานด้านคอมพิวเตอร์หรือโปรแกรมมิ่งแล้วจะดี ซึ่งผมก็ไม่มีปัญหา เชิญได้เลย ผมดีใจเสียอีกที่จะมีคนช่วยทำมัน .. ปัญหาคือ เขาทำมันไม่ได้ หรือคนที่รู้จริงไม่ยอมรับการจัดการของเขา ทำให้เขาอึดอัดคับข้องใจ แล้วมาลงกับคนที่ทำได้ คือผม โดยมากวนตีนด้านอื่นแทน .. ซวยชิบหายที่เส้นไม่ใหญ่
เรื่องนี้สอนสัจธรรมผมหลายเรื่อง
1.  ไม่มีใครทำร้ายเราได้นอกจากตัวเราเอง ตราบใดที่ทำสิ่งที่ถูกต้องคุณจะปลอดภัย สุดท้ายคนเลวจะทำลายตัวเองเสมอ (นี่คือสิ่งที่เห็นได้จากประสบการณ์ ไม่ว่ามันผู้นั้นจะใหญ่แค่ไหน)
2.  หัวโขน มีไว้เพื่อให้รู้หน้าที่ของตน ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น .. จงรู้เอง แทนที่จะต้องให้ใครมาพูดว่า ออกจากที่ทำงานแม่งก็หมาตัวนึง
3.  ผมเป็นคนที่ทำคุณคนไม่ขึ้น ไม่ว่าจะทำดีกับใครแค่ไหน มักเจอการเนรคุณเสมอ .. เซ็งเป็ด
4.  ถึงจะพยายามเลี่ยงปัญหา ส่วนใหญ่มันก็เลี่ยงไม่ได้ แค่ยืดเวลาออกไป ทำให้ผมพอใจกับการเผซิญหน้าทันที มากกว่าวิ่งหนีหรือผลัดไปก่อน มันจะได้จบๆ ไป ไม่ต้องพะว้าพะวังให้รำคาญ
เมื่อจบเรื่องพนักงานดีเด่นประจำปี เขาก็มีแจกของขวัญปีใหม่ให้พนักงานทุกคน เป็นประเพณีที่ทำกันมานาน จากนั้นทำบุญเลี้ยงพระ ซึ่งผมไม่ขอมีส่วนร่วม คุณต้องเห็นใจผม คาทอลิกที่ไม่เคยนั่งพับเพียบ มันคงทรมาณน่าดู แล้วบ่ายผมต้องขับรถไกล ไม่ลองดีกว่า ผมเลือกที่จะนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์แทน จนราว 11 โมง คุณแม่บ้านเขามาเร่งๆ ว่าจะปิด office เขากลัวไปกินเลี้ยงไม่ทันน่ะ ผมก็ถือโอกาสกลับบ้านเลย
การไปนั่งกินเลี้ยงโต๊ะจีน ไม่เคยสร้างความรู้สึกดีๆ ให้ผม ซึ่งมักจะคิดว่ามันเสียเวลาเปล่า เสี่ยงกับโรคติดต่อบางอย่างเช่นไวรัสตับอักเสบชนิดบี ซึ่งจะไม่เป็นปัญหามากนักกับคนที่ร่างกายแข็งแรง แต่สำหรับคนกินเหล้าสูบบุหรี่และนอนดึกจะค่อนข้างอันตรายมากๆ .. ผมเข้าใจว่าบริษัทต้องการเลี้ยงดูปูเสื่อ มันเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการความพึงพอใจแบบเดียวกับการเสนอให้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกิน การพัฒนาความสัมพันธ์ ความบันเทิง หรืออะไรอื่นๆ ... เรื่องของเรื่องคือ ผมไม่ต้องการสักอย่าง และผมมีแผนแล้วสำหรับช่วงบ่าย
กลับถึงบ้าน ผมจัดการมื้อเที่ยงของตัวเองก่อน นอนสักงีบ พาไอ้ลูกชายไปฉี่ ให้ยา แล้วเข้ากรุงเทพ ไปซื้ออาหารให้บ๊าคที่สุวรรณชาด ผมโทรจองไว้เมื่อวันพฤหัสโดยบอกเขาว่าจะเข้ามารับบ่ายวันเสาร์ รถขาเข้าไม่ค่อยมาก เหยียบเพลินไปเลยครับ ถึงรถจะเก่าแต่เหยียบ 120 ก็ยังนิ่ง ใช้ได้ไอ้หนู
บอกเจ้าหน้าที่เขาว่ามาเอาอาหารหมาที่โทรจองไว้ แล้วหมาท้องเสียด้วย เขาเลยให้แจ้งรหัสที่เคาน์เตอร์ เพื่อคุยกับคุณหมอด้วย ผมไม่ได้เอาบัตรมา จำได้ว่า 19008/2 ก็บอกเขาไป แล้วบอกว่าผมไม่แน่ใจ ปรากฏว่าถูกต้อง นั่งรออยู่พักใหญ่คุณหมอก็เรียกพบ เล่าอาการให้ท่านฟัง ท่านก็สั่งยาให้ ในขณะที่รอยาคุณหมอธนิกาก็เดินผ่าน ท่านแวะคุยว่าเป็นไงบ้าง ก็เล่าให้ท่านฟังว่าดีขึ้น แต่มีขาสั่นบ้าง ท้องเสีย พบคุณหมออีกท่านแล้ว ท่านก็ถามถึงค่า creatinine กับ BUN แล้วไม่ว่าอะไร
เสร็จเรื่องราวบ่าย 2 ผมก็รีบกลับ ตั้งใจว่าจะไปซื้อของต่อ แต่ตัดสินใจเข้าบ้านก่อน ห่วงไอ้ลูกชาย ตอนออกมาเขาค่อนข้างตื่นเต้น ยัง ok อยู่ ผมหลอกเขาว่า เดี๋ยวเก็บของก่อน เขาไม่ว่าอะไร ผมก็เข้าเมืองต่อ ไปซื้อพวกของใช้ ร้านยาใหญ่ปิดหมด ผมเลยลองไปดูร้านธรรมดา ฮามากที่ พญ. ไม่รู้จัก tritace ผมก็จำชื่อหลักไม่ได้ (enarapril น่ะครับ ซึ่งซื่อการค้าก็ยังมีหลายตัว มียาในยานอก ราคาต่างกัน) จะบอกว่ากลุ่ม ACE inhabitor เขาก็คงด่าแม่ เพราะมันมีเป็น 10 ตัว เขาเปิดเนทดู แล้วว่าไม่มีค่ะ ผมเลยขอ activated charcoal มา 1 แผง สำรองไว้สักหน่อย ไว้คงต้องมาซื้อยาลูกบ๊าคอีกรอบ
ซื้อของเสร็จก็แวะเข้าไปหาคุณแม่ของเพื่อนเลย โดยที่ลืมไปว่าหมาของเขาเพิ่งผ่าตัดมดลูก เผื่อเขากระโดดโลดเต้นคงอันตราย นึกได้ตอนอยู่ปากทางเข้าบ้าน เลยโทรหาเพื่อนว่ามึงถึงบ้านหรือยัง เขาอยู่เวร เลยให้แม่เขาเดินออกมาหาผม ไปรบกวนท่านอีก สวัสดีปีใหม่ท่านแล้วก็ลากลับเลย
ถึงบ้านราว 5.30 ทำเวลาได้ดี บ๊าคดีใจมาก ดมใหญ่ จนผมต้องถามว่าคิดถึงมากเลยเหรอ เขาตอบว่า เปล่าป๊า บ๊าคหิวข้าว .. อะ งั้นกินข้าวกัน พอตักอาหารวางให้ก็กินใหญ่ เขาชินกับอาหารหมาเปล่าๆ แล้ว นั่นดีมาก ไม่เรื่องมาก พาไปอึเรียบร้อย จับหวีผม เตรียมที่นอนให้ ค่อยไปเก็บของ แล้วอาบน้ำสักหน่อย วันนี้ลุยมาเยอะ รู้สึกสกปรกจัง .. ดึกๆ ไอ้น้องชายโทรมาบอกว่า จะมาพรุ่งนี้ ฮ่ะ ได้กินเหล้ากัน ยาวล่ะครับ

ไม่มีความคิดเห็น: