ไม่กินข้าวครับ ผมกลับมาจาก รพ. วันที่ 19 กันยา
หลังจากนั้นทั้งอาทิตย์ บ๊าคยังพอกิน Renal ได้ แต่ต้องคลุกด้วยซีซาร์
อาทิตย์ถัดมาคือ 28-30 ไม่กิน Renal แล้วครับ บางมื้อกินได้นิดหน่อย
บางมื้อไม่กินเลยผมก็เอาข้าวคลุกกับซีซาร์ พอวันที่ 1-3 ตุลา ข้าวก็ไม่กิน
แต่ยังยอมกินไข่ต้มหั่นบางๆ หรือไส้กรอกหั่นบางๆ แล้วกินหญ้า จากนั้นอ้วกออกมา
ท้องเสีย Baytril ใช้ไม่ได้ผล ผมก็ชักจะทนดูไม่ได้แล้ว
ผมเลยชวนพ่อตั้งแต่เมื่อคืน ให้พ่อขับรถให้น่ะครับ
ผมยังไว้ใจตัวเองให้ขับรถเองไม่ได้ มันเหมือนยังเบลอ การตัดสินใจไม่ดี
เช้ามา ผมก็เอาไข่พะโล้หั่นบางๆ ให้ไปลูกนึง กินครับ
ยังพอหลอกได้ ใช่ มันเป็นโปรตีน หมาโรคไตไม่ควรรับโปรตีนมากไป
แต่เขาต้องกินอะไรบ้าง เสร็จพาไปอึ ออกมานิดเดียวและเหลว เราออกจากบ้านกันราว 8
โมงเช้า
คราวนี้ผมเตรียมตัวอย่างดี เขียนอาการลูกบ๊าคอย่างละเอียด
พร้อมรายการที่อยากตรวจ มี ตรวจเลือดดูค่าตับไต, x-ray ทั้งตัว, ultrasound, EKG, ตรวจอึ,
ตรวจฉี่, ตรวจก้อนเนื้อ อันนี้ 1 หน้า A4 .. อีกหน้าเป็นรายการยาที่บ๊าคกินอยู่
รวมถึงยาหยอดตาด้วย .. สิ่งที่นำไปด้วย ชาม 1 ใบ, น้ำ 1 ขวด, ตะกร้อใส่ปาก,
ผ้าขนหนูผืนเล็ก, บัตรโรงพยาบาลของบ๊าค และเงิน
เอาใส่ถุงพลาสติกใบใหญ่ไว้ก่อน เตรียมผ้าปูที่นอนกับผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ไว้
เช้าค่อยเอาไปปูที่เบาะหลัง หิ้วถุงไปวางที่เท้า แล้วพาไปขึ้นรถได้
ไม่ลืมอะไรที่จำเป็น
รถติดเหลือเชื่อตรงช่วงทำถนน ถึง รพ. 9 โมงพอดี
มีคนมารออยู่ 3 ราย แค่ครึ่งชั่วโมงก็มาอีกเป็น 10 .. รออยู่นานเหมือนกัน
วันนี้เจอคุณหมอชาลินี ดูคุณหมอท่านหวานๆ แต่ไม่กลัวลูกบ๊าคสักนิด
ความจริงก็ไม่เห็นน่ากลัว เอาตะกร้อใส่ปากไว้ จะกัดได้ยังไง
น้ำหนักวันนี้ 30.2 ผู้ช่วยมาวัดอุณหภูมิ แล้วเอาอึไปตรวจด้วย
จากนั้น คุณหมอก็มาคลำก้อนเนื้อ ต่อมน้ำเหลือง คลำไปทั้งตัวแหละครับ ฟังเสียงปอด
หัวใจ จะเอาเลือดกับเนื้อเยื่อตรวจ ผมจับกดให้นอนไว้ก่อน
คุณหมอท่านก็ว่าเอาเลือดก่อนดีกว่าเนอะ ยังไงก็ได้เลือด
การเอาเนื้อเยื่อตรงที่บวมขึ้นมา ผมเคยเห็น coffee โดนมาแล้ว
และรู้ว่ามันต้องเจ็บมาก
การเจาะเลือดเป็นไปอย่างง่ายดาย พอคุณหมอโกนขนตรงที่จะเอาเนื้อเยื่อ
บ๊าคก็ขู่ฟอด แต่ก็ทำได้สำเร็จ มันเป็นการแทงเข็มเข้าไปที่ก้อนเนื้อ
ถอยเข็มออกไม่หมด แล้วแทงไปข้างๆ จุดเดิม พร้อมๆ กับดึงไซริ้งค์ 4-5 ครั้ง
คุณคิดดูเหอะว่า มันจะเจ็บขนาดไหน เสร็จ ท่านก็บอกให้ไปรอหน้าห้อง x-ray ก่อน
ผมบอกท่านว่า อยากตรวจฉี่ด้วย ผู้ช่วยเขาก็ส่งชามรูปไตมา เก็บได้นิดหน่อย ก็ส่งให้พ่อเอาไปให้คุณหมออีกที
ตอนตรวจ พ่อไม่ได้เข้าไปด้วย แต่ยืนดูอยู่หน้าห้อง
บ๊าคไม่ค่อยมีแรงสู้ และสภาพร่างกายผมดีขึ้น รวมถึงผู้ช่วยเป็นชาย
แรงดีและไม่พูดให้บ๊าคตื่น มันเลยง่ายกว่าที่คิด สรรพสิ่งขึ้นอยู่กับฟ้าจริงๆ
(ถ้าผมใช้คำว่า “พระเจ้า” แทน “ฟ้า” คนอ่านคงหมั่นไส้น่าดู ไม่ดีกว่า
ผมไม่ได้กะจะใช้ blog นี้เป็นที่เผยแพร่ศาสนา ผมมีอีก blog
ไว้เผยแพร่กันจะๆ อยู่แล้ว)
เข้าห้อง x-ray พวกก็ตะกุยเสียจนเชือกที่ร้อยอยู่กับตะกร้อด้านหนึ่งขาด
ทีนี้เลยหลุดง่าย แต่ผมกับคุณผู้ช่วยก็ช่วยกันจับ x-ray ได้ 3 film
เอาให้เคลียร์ ผมจะออกมาโดยลืมถอดชุดตะกั่ว ตอนใส่คุณผู้ช่วยใส่ให้
ตอนถอดคุณหมอมาช่วยถอดตรงประตู ที่ๆ ผมเอาผ้าขนหนูวางจองไว้ ฝรั่งก็นั่งลงไปไม่ดู
เลยต้องไปนั่งอีกด้านใกล้โกลเด้น เจ้านี่เจอ size ใกล้ๆ กันหรือใหญ่กว่าไม่ได้
จะไปเล่นเขา ทั้งๆ ที่ตัวเองทั้งเหนื่อยทั้งหมดแรง ต้องคอยปลอบให้นอน
เดี๋ยวเดียวก็ลุกอีก จนเจ้าของเขาต้องเปลี่ยนที่นั่งด้วยความเกรงใจบ๊าค
ผมขอบคุณเขาในใจ หมาเชื่องๆ นั่งตรงไหนก็ได้
พักใหญ่ๆ คุณหมอก็เดินมาเรียกไปดูฟิล์ม x-ray ผมให้บ๊าคอยู่กับพ่อก่อน
เดินตามท่านไปพร้อมถามท่านว่า ข่าวดีหรือข่าวร้าย ท่านไม่ตอบ ..
ดูค่าเลือดกันก่อน Cr 2.4 Bun 54 หมาปกติไม่เกิน 1.7 / 30 อันตราย ดูคล้ายเป็นประเด็นหลัก
ในการไม่กินและท้องเสีย เรื่องต่อมา ที่ขั้วปอดมีรอยขาวขนาดใหญ่
อาจเป็นต่อมน้ำเหลืองหรือเนื้องอก ต้อง ultrasound อีกที และต้องนัดครั้งหน้า
อาจไปกดพื้นที่หัวใจ เรื่องสุดท้าย กระดูกสันหลัง ที่เคยเป็นปัญหาใหญ่เมื่อปลายปีก่อน
ท่านว่า เอาเรื่องไตก่อน หมอแนะนำให้ๆ น้ำเกลือเช้า-เย็น
ครั้งละ 500cc แล้วถามว่า ทำเป็นไหม ผมหัวเราะเลย
บอกท่านว่า ทำได้ครับ มีน้ำเกลืออยู่เป็นลัง(ความจริงมีเกือบ
2 ลัง) ท่านก็ถาม อุปกรณ์มีพร้อม ผมก็บอก มีครับ ท่านคงงงๆ นิดหน่อย
ก็มันมีนี่ครับ มีเข็มเบอร์ 18 เป็นกล่อง ซื้อไว้เมื่อคราวก่อน
ตอนที่กระดูกสันหลังอักเสบก็ค่าไตสูง พอดีขึ้นแล้วผมก็หยุดให้
จะไปทำให้เจ็บทำไมทุกวันเล่า
มาพูดถึงยา ก็จะเป็นยาที่ช่วยเรื่องทางเดินอาหาร ..
ผมถามถึงปอดกับอาการไอ ท่านว่า ไม่มีน้ำท่วมปอดแน่นอน ที่ไอเพราะไอ้ขาวๆ
ที่ขั้วปอด ให้ดูว่าอาการแย่ลงไหม ต่อมาที่กระดูกสันหลัง
ท่านว่าคงให้ยาเต็มที่ไม่ได้ เพราะมีผลกับไตมาก ให้ได้แค่ตัวเดียว เอาเรื่องไตก่อน
ผมสรุปเองในใจ .. โอเค ไตจะทำให้ตายได้ทรมานที่สุดก่อนรึเปล่า
รึหายใจไม่ออกตายทรมานกว่า ท่านก็ว่าจะนัด ultrasound + echo
ให้ทีหลัง แต่ echo คิวยาวถึงเดือนหน้า
เพราะคุณหมอไม่ได้เข้าทุกวัน ถ้าแย่อาจไปโรงพยาบาลอื่นก่อนได้ ผมก็ขอคำแนะนำ
ท่านว่าอาจเป็นทองหล่อหรือศรีวรา แต่ต้องโทรไปเช็คก่อน
รอรับยาอีกครึ่งชั่วโมง มีพิทบูลเข้ามานั่งด้านข้าง
พอเห็นหน้ากัน บ๊าคก็ลุกพรวด ขนตั้งชัน ผมรั้งเขาไว้ เจ้านั่นเริ่มเห่าก่อน
ทีนี้เลยเห่าใส่กันใหญ่ ผมทำให้บ๊าคหยุดได้ก่อน เจ้าของเขาก็ว่าไม่ดุๆ มันดูตื่นๆ
มากกว่าดุจริงๆ ผมหาทางหนีทีไล่ ต้องผ่านทางนี้แหละ อีกทางมีโกลเด้นนอนอยู่ตั้ง 3
ตัว เดี๋ยวได้เกิดสงครามกลางเมือง บ๊าคคอยแต่จะลุกไปเล่นหมาตัวอื่น
เหนื่อยจนไม่ไหวก็นอนหมอบคางติดพื้น พอดีขึ้นหน่อยก็เอาอีก ผมต้องลงไปนั่งยองๆ
ข้างๆ ใกล้ๆ หัว ลูบหัวลูบไหล่พูดคุย ดึงความสนใจมาที่ผม พักนึงถึงสงบลงได้
วันนี้ได้ยามา 4 อย่าง ulsanic 500 mg สำหรับลดกรดเคลือบแผลในกระเพาะอาหาร
ให้กินก่อนอาหารเช้า-เย็น ครั้งละ 2 เม็ด / Cavumox 625 mg แก้อักเสบ ฆ่าเชื้อ
กินก่อนอาหารเช้า-เย็น ครั้งละเม็ด (ก็คงต้อง 15 นาที) / Aluminium Hydroxide 300 mg หลังอาหารเช้า-เย็น ทันทีหรือพร้อมอาหาร ช่วยเคลือบกระเพาะ และลดการดูดซึมฟอสฟอรัส
/ Vita E 400iu ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น บำรุงขน หนัง ต้านอนุมูลอิสระ
บ๊าคเป็นราไม่รู้จักหายไง คือพ่นยาจนหายที่หนึ่ง ก็ไปเจอขึ้นอีกที่หนึ่ง
ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ยา ปัญหาอยู่ที่เวลา คร่าวๆ ว่า ulsanic ต้องกินก่อนอาหาร 45 นาที ตามด้วย Cavumox ก่อนอาหาร
15 นาที ผมต้องตื่นเร็วกว่าเดิม 45 นาทีว่างั้น อาจต้องเผื่ออีกสัก 15 นาที ไว้คะยั้นคะยอให้กินข้าวเช้า
ให้น้ำเกลือหลัง ulsanic เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา
กำหนดนัด ultrasound วันที่ 11 ตอน 2 ทุ่ม
เพราะเขาถามความสะดวก และผมก็เกรงใจเจ้านายเขาแล้ว
ผมยังต้องไปตามนัดหมอโรคหัวใจอีก 2 วันในปีนี้ เลยบอกคุณหมอไปว่า
ผมหยุดวันอาทิตย์วันเดียว ท่านก็ว่า ถ้า 2 ทุ่มสะดวกไหม
ท่านคงกะเวลาเดินทางให้แล้ว เพราะประวัติคนไข้มันก็บอกอยู่ว่า มาจากต่างจังหวัด
ปกติผมจะไปกลางวัน เพราะผมขับรถกลางคืนมองไม่ค่อยเห็น
แต่พ่อผมเขาขับได้ ยังตาดีกว่าผมอีก
ผมก็คงต้องอาศัยท่านให้ขับรถไปไหนมาไหนให้อีกนาน เพราะรู้ตัวดีว่า
หลังจากฟื้นมานี่ การตัดสินใจแย่ลงมาก
รับยา จ่ายเงินเสร็จ ผมก็ถามเจ้าของพิทบูลว่า
ผมเดินผ่านได้ไหมครับ (เจตนาคือ บอกให้เขาจับหมาให้ดีก่อน ผมจะผ่านนะ) ..
เขาก็บอกได้ครับๆ ไม่ดุหรอก เออ แต่ลูกผมดุนิ่ ถ้าเห่าใส่ บ๊าคคงพุ่งใส่แหละ
ดูลูกตัวเองให้ดีแล้วกัน เขาก็กันมันไว้ใต้ขา ผมส่งถุงยาให้พ่อ
จะได้ควบคุมบ๊าคได้สะดวกขึ้นหน่อย ออกมาได้อย่างปลอดภัย คือไม่พุ่งไปทุ่มใครเขา
ใส่ปากไว้คงกัดใครไม่ได้หรอก เขาแวะฉี่ตรงทางขึ้นเลย ดีที่เป็นข้างๆ
ห้ามไม่ทันครับ พวกยกขาก็ฉี่ทันที มีหมาใหญ่อีกตัวมารอตรงที่จอดรถ
เพราะอยู่ข้างในแล้ววุ่นวาย แต่ไม่ถึงกับต้องใส่ครอบปาก มากันหลายคนก็ช่วยกันดูได้
ขึ้นรถ ผมก็เอาผ้าขนหนูพาดพนักพิงด้านข้างกระจกไว้ก่อน
เพื่อรองรับน้ำลายบ๊าค มาเที่ยวนี้เขานั่งด้านเดียวกับผมตลอด
คาดเข็มขัดเสร็จก็เอาน้ำใส่ชามให้กิน ตอนมาถึงโรงพยาบาลก็ให้กินเลยครับ
เพราะคราวก่อนเขาไปกินน้ำในอ่างเลี้ยงปลาเฉยเลย น้ำลายไหลเยอะ คงกระหายน้ำ
วันนี้ขามาให้กินน้ำ ก็กินไปนิดเดียว ขากลับจะกินมากๆ
ผมยกชามน้ำ ให้เขายื่นหัวมากินตรงไหล่ผม กินแล้วหยุด
ผมนึกว่าพอแล้ว เขายื่นหัวมาอีก จ้องชามในมือ ก็ให้กินไปเกือบชามเล็ก
ทำท่าอยากกินอีก .. ผมบอก พอก่อนลูก มากไปเดี๋ยวอ้วก เขาก็นั่งแฮ่กๆ น้ำลายยืดๆ ของเขาไป
ครั้งไหนโผล่หัวมา ผมก็เอาหัวผมชน เขาก็ถอยกลับ มาแวะ ปตท. ผมก็ให้กินน้ำอีกที
ถึงบ้าน เข้าบ้านได้ก็วิ่งไปหาถังน้ำ ซดใหญ่ ผมจับเช็ดตัว
แล้วเลยเช็ดพื้นไปด้วย พักเดียว เขาก็หลับเป็นตาย คุณอามา
เดินไปเดินมาในบ้านก็ไม่สน ปกติจะขู่ฮื่อๆ ใส่เขา คงจะเหนื่อยมาก ผมไปซักผ้า
อาบน้ำอาบท่า .. จะจับเขาอาบน้ำวันนี้คงไม่ไหว ให้พักสักวันแล้วกัน
เย็นมาก็ทำตามแผนครับ .. 5 โมงกว่ายัด ulsanic ไป
2 เม็ด ตามด้วยน้ำเกลือ มีขยับๆ และสะบัดหัว คงแสบ ด้วยความที่ไม่ได้ให้น้ำเกลือมาเกือบปี เลยลืมวิธีทิ่มเข็ม
มันก็ไหลช้า ผมใช้นิ้วประคองโคนเข็มให้แนบตัว ค่อยไหลเร็วหน่อย
แต่ก็ยังไม่เป็นสาย อีกมือก็ลูบๆ อก ลูบตัว ให้เขาอยู่นิ่งๆ แถมขวดน้ำเกลือมันแฟบ
ตรงตัวเลขไม่ลด กว่าจะนึกออกว่า ลองเอาเข็มทิ่มด้านบนดู เออได้ผล
ไม่งั้นจะดูปริมาณน้ำเกลือได้ยังไง ให้ไปได้สัก 450 cc ก็พอก่อน น่าจะ ok มากไปจะแสบมาก เพิ่งครั้งแรก .. ยัด Cavumox ตาม .. มื้อเย็นวันนี้เป็นไข่ต้ม
กินได้เอง พาไปอึก็ไม่อึ
2 ทุ่มครึ่ง ด้วยความสงสัย ผมเลยโทรหาเพื่อนที่เป็นหมอยา
ทำไม ulsanic 1000 mg ให้ๆ ก่อน 1 ชม แล้ว 500 mg ให้ๆ ก่อนครึ่งชั่วโมง เวลาแตกตัวมันไม่เท่ากันเหรอ
เม็ดยาใหญ่กว่ากันนิดหน่อยเอง มันว่า ถ้าให้ดีก็ควร 1 ชั่วโมง
น้ำเกลือ ทำไมมันมีเลขทั้งด้าน open และ
close แล้วจะดูยังไง มันว่าปกติเขาก็ดูด้าน open กัน แล้วเรื่องเอาเข็มทิ่มให้อากาศเข้าล่ะ
คนที่ร้านขายยาเขาแนะนำไว้เมื่อปีกลาย มันว่าในคนเขาก็ทำกัน แต่ของผมไม่ได้ให้ทีเดียวหมดขวด
ให้เสร็จ ผมก็เอาเข็มออกแล้วเอาเทปแปะปิดรูไว้ก่อน น่าจะดีกว่า
11.30 pm หลังมื้อดึก มีปูที่คุณอาซื้อมาฝาก
ผมว่ามันคาวดี บ๊าคอาจจะกินข้าวง่ายหน่อย
เลยแกะมาครึ่งตัว+ข้าวอีกทัพพี ใช้มือป้อนแบบคนโบราณกินข้าว กินเรียบ
แถมเลียชามอีก ค่อยยังชั่วหน่อยครับ ป๊าชื่นใจ
อ้อ วันนี้ผมไปวัดตอนเย็นกับแม่ด้วยนะ ปกติผมไม่ไปวัดหรอก
จะเอาเวลาที่ไหนไปกันล่ะ
การไปแก้บาปของผมคงทำให้คุณพ่องงชิบหายไปเลย เพราะแก้บาปไม่เป็น
แต่ผมก็บอกท่านแล้วนะว่า ครั้งสุดท้ายที่แก้บาป ราว 1 ปีแล้ว ท่านคงเข้าใจ
ผมกำลังคิดเรื่องที่คุณหมอเขาว่า ให้น้ำเกลือ 5 วัน
เช้า-เย็น แล้วตรวจเลือด ดูการตอบสนองต่อการรักษา ถ้าไม่ดีขึ้นอาจต้องให้เข้าเส้น
ต้อง admit แต่ต้องดูด้วยว่า เขาอยู่กับคนอื่นได้ไหม กัดหรือเปล่า ผมก็ว่า
ไม่ได้แน่ ก็เห็นๆ กันอยู่ แต่ผมดูๆ แล้ว set ไว้ว่า พฤหัสเย็นไปตรวจเลือด
ศุกร์เอาผล เสาร์เอาผลไปสุวรรณชาดได้เลย คือผมคิด 2 อย่าง หมอ ultrasound เขาคงลำบากไหม ถ้าต้องมาเจาะเลือดบ๊าคด้วย อีกอย่าง
ค่าตรวจเลือดที่โรงพยาบาลมันแพงชิบหาย ตรวจคลีนิคครบทุกอย่างไม่ถึง 400
ตรวจโรงพยาบาลไม่กี่อย่าง เกือบพัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น