While I thought that I was learning how to live, I have been learning how to die - Leonardo da Vinci

บทความเหล่านี้ หากเป็นประโยชน์กับท่าน ผมก็ดีใจ หากจะนำไปใช้ที่อื่น ผมก็ยินดี แต่กรุณาอ้างอิงที่มานิดนึง จัดเป็นมารยาทพื้นฐานในการใช้บทความของผู้อื่นใน internet หลายเรื่องผมต้องค้นคว้า แปลเอกสาร ตรวจสอบความถูกต้อง กลั่นกรอง เรียบเรียง ใช้เวลา ใช้สมอง ใช้ประสบการณ์ การก๊อปไปเฉยๆ อาจทำให้คนอื่นคิดว่าคนที่นั่งคิดนั่งเขียนแทบตายห่ากลายเป็นคนก๊อป ผมเจอเพจที่เอาเรื่องของผมไปตัดโน่นนิดนี่หน่อยให้เป็นงานของตัวเอง ไม่อ้างอิงที่มา ไม่ละอายใจหรือ .. สงสัยอะไร comment ไว้ ผมจะมาตอบ แต่ถ้าใครมาแสดงความไพร่หรือด่าทอใครให้พื้นที่ของผมสกปรก ผมจะลบโดยไม่ลดตัวลงไปยุ่งเกี่ยว อยากระบายไปหาที่ของตัวเองครับ หมายังขี้เป็นที่เป็นทางเลยจ้ะ นี่ก็เคยเจอ ไม่รู้พ่อแม่สอนมายังไง!!!

วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

การให้น้ำเกลือใต้ผิวหนังสำหรับสุนัข


ทำไมจำเป็นต้องให้น้ำเกลือในหมาป่วยโรคไต .. เพราะถ้าไม่กินน้ำให้มากพอก็ต้องอัดเข้าไป ให้เขาอยู่รอด
ผมคำนวนปริมาณน้ำที่ต้องได้รับต่อวันไม่เป็นนะ (ในเนทมี ลองศึกษาดูได้ ของผมคุณหมอคำนวนมาให้แล้ว) อย่างลูกผม หนัก 35 โล ควรกินน้ำอย่างน้อยวันละลิตรครึ่ง ถ้าให้ดีต้อง 2 ลิตรครึ่ง ถึงจะเพียงพอให้ผ่านไต ขับของเสียออกมา ค่าของเสียคือ BUN ดูร่วมกับค่า Creatinine ซึ่งบอกความเสียหายของหน่วยไต (หรืออาจเป็นเลือดไปเลี้ยงไตไม่พอสำหรับหมาที่เป็นโรคหัวใจร่วมด้วย อย่างลูกผม) ค่าปกติคุณหาดูได้ในเนท ไว้มีอารมณ์ผมจะมาเล่าสรุป ตอนนี้ยังครับ .. รายละเอียดมันมากอยู่เหมือนกัน ต้องศึกษา และผมไม่ใช่หมอ ยังไม่บังอาจ
แต่สรุปคร่าวๆ คือ ถ้ากินน้ำไม่มากพอ อาการเขาจะแย่ลง 2 ค่านั้นจะเพิ่มขึ้นเรื่อย สุดท้ายการอาเจียนก็คุมไม่ได้ อันนี้คุณหมอธนิกาท่านบอกมา โดยท่านกรุณาไม่ใช้คำว่า แล้วก็ต้องตาย ..
การให้มีน้ำในร่างกายมากพอ ทำได้โดยการป้อนน้ำ (ใช้ไซริงค์ค่อยๆ ดันเข้าไปที่กระพุ้งแก้มให้เขาค่อยๆ กลืน ไซริงค์ใหญ่สุดที่มีขายก็ 25 cc คิดเอานะ เมื่อไหร่จะได้ 1000 ของลูกชายผมลืมได้เลย 30-40 cc เขาก็ทำท่าสำลักแล้ว), เอาน้ำผสมในอาหารบังคับให้ต้องกิน ถ้าเขากินนะครับ (ปกติผมผสมน้ำเย็นไปด้วย ในสัดส่วนที่อาหารจะพองตัวได้เต็มที่ โดยไม่ไปดึงน้ำในร่างกาย เอาส้อมคนๆ หน่อย น้ำแกงก็อร่อยแล้ว) สุดท้ายคือให้น้ำเกลือ ซึ่งคุณหมอธนิกาท่านว่า ง่ายสุดแล้ว ก็จริงครับ
ถ้าอาการหนักก็ต้องให้น้ำเกลือเข้าเส้นเลือดดำ (ซื่งได้ผลเร็วกว่า) โดยสัตวแพทย์เท่านั้น ต้องใช้เวลา (นับ 1 2 3 หยด อย่างนี้) .. ไม่หนักก็เข้าใต้ผิวหนังให้ซึมผ่านเนื้อเยื่อเข้าไป เจ้าของทำเองได้ ไม่ยากครับ สะดวก, ไม่ต้องเดินทางให้หมาบักโกรก, ให้ตอนไหนก็เลือกเอาเอง (ควรเป็นเวลาเดิมๆ), หมาไม่ตื่น (สำหรับหมาไม่เชื่อง) และค่าใช้จ่ายถูกกว่ามาก เพราะต้องให้ทุกวัน จนกว่าจะกินน้ำมากพอ ผมภาวนาอยู่ .. เดิม ที่ไม่ได้ให้ เพราะความสงสาร กลัวว่าเขาต้องเจ็บทุกวัน และเขาก็ดูสบายดี แข็งแรงดี .. แต่เมื่อจำเป็น มันก็ต้องทำ เพื่อให้เขาได้อยู่แบบดีๆ มีความสุขตามสมควร ยังไงก็ดีกว่าปล่อยให้เขาตาย ทั้งๆ ที่รู้ว่าช่วยได้ แต่ไม่ช่วย ถูกไหมครับ
เอาล่ะ วิธีการและรายละเอียด .. ผมใช้เวลาค้นหาข้อมูลอยู่ 4-5 วัน อ่านแม่งเรื่อยไป (ส่วนใหญ่ print มาอ่านบ้านตอนนั่งลูบลูกบ๊าค) กับที่คุณหมอธนิกาบอกมา ที่ถามคุณหมอฝน ที่คนร้านขายยาเล่าให้ฟัง .. อาจเป็นประโยชน์กับคนอื่นได้บ้าง
1.       การเช็ดแอลกอฮอล์กว้างๆ หน่อย เอาแฉะๆ ไปเลย เดี๋ยวไม่ถึงหนัง
2.       ขย้ำๆ หนังระหว่างไหล่ (หรือขึ้นมาด้านคอหน่อยก็ได้ จะมีพื้นที่ให้น้ำเกลืออยู่มากหน่อย) จะทำให้ชา เวลาทิ่มเข็มเขาจะไม่รู้สึกเจ็บ
3.       ใช้มือซ้าย (หรือข้างที่ไม่ถนัด) ดึงหนังขึ้นตามแนวเดียวกับคอให้เป็นกระโจม (นึกถึงหลังคาบ้านเรือนไทย ทิ่มด้านหน้าจั่ว จะได้ไม่ทะลุออกข้าง)
4.       ใช้เข็มทิ่มเข้าไป 45 องศา จริงๆ แล้วผมทิ่มแค่ 15 องศา กลัวโดนเนื้อ โดนไปครั้งหนึ่ง บ๊าคร้องลั่นบ้าน ดีไม่หันมากัด หมอนี่ดุจริง แต่ไม่เคยกัดผมเลย เว้นตอนเมายา (coffee ที่เชื่องๆ งับมือผมบ่อยๆ แต่เหมือนจับมือไว้มากกว่า พอบอกงับทำไม ปล่อยสิ เขาก็ปล่อยอย่างว่าง่าย) ก็ดูเอาครับ ตามความเหมาะสม ลูกบ๊าคมีลักษณะทางกายภาพเหมือนร็อตไวเลอร์ หนังที่คอเขาเยอะมาก
เบอร์เข็ม .. ถ้าใช้เข็มเบอร์ 18 จะเร็วมาก (เหมาะกับหมาขี้รำคาญ) น้ำเกลือไหลเป็นสายเลยครับ ใช้เวลาราว 5-7 นาทีเท่านั้น (ที่ 500 cc) เข็มความยาว 1 นิ้วก็พอ จะได้ไม่ต้องกลัวทะลุหนังออกมา
การแทง .. เอาด้านแหลมไว้ด้านล่าง (ถ้าไว้ด้านบน พอเราปล่อยเข็ม หน้าตัดมันจะกดลงบนเนื้อเขา เจ็บและน้ำเกลือไม่ไหล ลองแล้วครับ) ดันให้สุดเข็ม อย่าเพิ่งปล่อยหนังที่ดึงขึ้นไว้ เปิดน้ำเกลือแล้วกดโคนเข็มแนบผิวหนัง ราว 10 วินาที จากนั้นค่อยปล่อย มันจะลื่นไหล หมาไม่เจ็บ น้ำเกลือที่เข้าไปจะพยุงเข็มไว้ ไม่ให้ปลายทิ่มลงบนเนื้อ  (อันนี้จากประสบการณ์ 1 สัปดาห์)
เข็มที่มากับสายน้ำเกลือเป็นเข็มเบอร์ 21 ยาวนิ้วครึ่ง เสียบเข้าง่าย แต่ต้องระวังทะลุหนัง เสียบครึ่งเข็มก็พอ ที่ 500 cc ใช้เวลาราว 15 นาที .. เข็มเบอร์ 21 ยาว 1 นิ้วก็มีครับ คงดีกับหมาตัวเล็ก ได้รูเล็กๆ แผลปิดเร็ว แต่ใช้เวลานานกว่า 2 เท่า .. ผมกำลังจะเปลี่ยนมาให้ตอนเย็นแทน สัปดาห์ที่แล้วผมตื่น 6 โมงกว่า (ปกติ 7 โมงเกือบครึ่ง) ให้น้ำเกลือ เตรียมอาหาร คะยั้นคะยอให้กิน พาไปฉี่ไปอึ (พ่อคุณโยกโย้ ใช้เวลานานกว่าเดิมมาก) ป้อนยา ป้อนน้ำนิดหน่อย หมดเวลา .. ตอนนี้กินเองแล้ว เดินได้ดีขึ้นมากแล้ว มาให้น้ำเกลือตอนเย็น ผมจะได้ไม่ต้องลนลานมากตอนเช้า คงดี
เข็ม ให้ใช้ครั้งเดียวเท่านั้น ไม่งั้นอาจติดเชื้อแล้วเป็นหูดเป็นฝีขึ้นมา ลำบากต้องตัดออกอีก เข็มราคาไม่แพงครับ ประหยัดไปจะไม่คุ้ม .. ระวังมือให้ดีด้วย ใช้สติในการเก็บเข็ม ผมโดนไปทีนึงแล้วครับ หลังใช้แล้วด้วยสิ เลือดออกเยอะเลย ไล่สิ่งสกปรกให้เสร็จ เลยไม่จำเป็นต้องใส่ยา ช่างเป็นนวัตกรรมที่น่าทึ่งจริงๆ ครับ (ความจริงลืมครับ เรื่องมันเยอะจนความสนใจตัวเองลดลงไปมาก ช่วงนี้โสโครกสุดๆ)
ตอนดึงเข็มออก อย่าชักช้ามากนัก เดี๋ยวมันจะไปโดนเนื้อให้เจ็บ แล้วเอาสำลีกดปิดปากแผล ให้แผลปิด เข็มใหญ่จะมีเลือดกับน้ำเกลือซึมออกมานิดหน่อย ไม่ต้องตกใจ กดแป๊ปนึงก็หยุด
น้ำเกลือ 1 ขวด ใช้ได้กี่มะน้อย .. ถามคุณฝนมา (ท่านเป็นสัตวแพทย์เกรียตินิยมจุฬา เชื่อได้แน่นอน) ท่านว่า เมื่อเปิดขวดแล้วปกติก็ใช้แค่ 2-3 วัน ถ้าเป็นหมาตัวเล็กๆ ซื้อขนาดเล็กๆ ก็คงมี ผมเคยเห็นอยู่นะ แต่เรื่องราคาไม่รู้เหมือนกันครับ
สายน้ำเกลือ ถ้าเป็นคุณหมอเขาคงบอกให้ใช้ต่อขวด แต่ตอนผมไปซื้อที่หมอไฝ คนขายเขามาคุยด้วยเมื่อเห็นผมระบุชนิดน้ำเกลือ เขาถามว่าเอาไปให้หมาเหรอ ผมก็งงว่ารู้ได้ยังไง ของเขาก็ต้องให้ เป็นมินิเอเจอร์ตัวกระปิ๋ว .. อันนี้คุณต้องใช้วิจารณานกันเอาเองนะครับ ผมจะเล่าสิ่งที่เขาเล่าให้ฟัง .. เขาใช้แบบ 1000 cc ให้ได้ 5 วัน สายน้ำเกลือใช้ต่อไปได้เรื่อยๆ เหตุผลคือน้ำเกลือขวดใหม่ เปิดให้ไหลผ่านไล่น้ำเกลือเก่าออกไป มันก็สะอาดแล้ว เข็มน่ะแหละที่ต้องเปลี่ยนทุกครั้ง ไม่งั้นอาจติดเชื้อ
น้ำเกลือที่ใช้ได้ .. 2 ตัวนี้เหมือนกันครับ ตัวแรกสุวรรณชาดให้มา ตัวหลังซื้อร้านขายยา
ACETAR – each 100 mL contains
Calcium Chloride .2H2O             0.02 g
Potassium Chloride                    0.03 g.
Sodium Chloride                        0.60 g.
Sodium Acetate .3H2O               0.38 g.
Water for injection                      q.s. to 100 mL
ACETATE RINGER’S INJECTION
Calcium Chloride                       20 mg
Potassium Chloride                    30 mg
Sodium Chloride                        600 mg
Sodium Acetate                         380 mg
อ่านในเนทให้ตายห่า เขาว่าคนละตัว คนขายเขาบอกตัวเดียวกันแค่คนละแบรน ผมยังว่าเขาว่า ชัวร์นะ เขาบอกเขาใช้อยู่ ผมซื้อมา 7 ขวด เอากลับมาก็มานั่งเทียบดู (กูไม่เชื่อเลยหรอก ถ้าไม่เหมือนคงต้องซื้อคลีนิค แล้วค่อยหาทางใหม่) ปรากฎว่าเป็นสารประกอบตัวเดียวกันและสัดส่วนเท่ากันจริง สิ้นสงสัยครับ .. น้ำเกลือ 2 ตัวนี้ ใช้ได้กับหมาโรคไตและตับ อย่างปลอดภัย
น้ำเกลือ NSS 0.9% จะมีปริมาณของ Sodium Chloride 0.9 g หรือ 900 mg มากเกินไปสำหรับหมาโรคไต .. แต่ถ้าหาไม่ได้ ก็อาจใช้แก้ขัดได้ หรือเปล่า กรณีอย่างช่วงน้ำท่วมใหญ่แล้วน้ำเกลือ ACETATE ขาดตลาด
น้ำเกลือที่ป้ายมีบอกว่า 5%D/NSS, 5% D in 1/3 NSS ตัว D หมายถึง Dextrose มันคือน้ำตาล ใช้ไม่ได้กับหมาที่เป็นโรคตับ เพราะน้ำตาล ไปกระตุ้นให้ตับทำงานหนักขึ้น และจะทำให้เนื้อเยื่อเน่าได้กับหมาทั่วไป .. ผมรู้เท่านี้พอครับ เพราะลูกผมไม่ได้เป็นโรคตับ แต่ที่แน่ๆ ตัว Acetate จะปลอดภัยที่สุด
ยังไงก็อย่าเชื่อผมมากนักนะครับ ลองปรึกษาคุณหมอดูอีกที .. condition ในอาการป่วยของหมาแต่ละตัว ต้องการการรักษาที่ไม่เหมือนกันครับ.

23 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เป็นประโยชน์มากค่ะ กำลังเจอปัญหานี้พอดี ขอบคุณเจ้าของกระทู้มากๆเลยค่ะ

arKee กล่าวว่า...

ให้ความรู้ตรงประเด็นกับทีอยากรู้ทั้งหมดเลยค่ะ
น้องหมากีกี้เป็นแบบลูกของคุณเลยค่ะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ
ได้บุญมากๆเลยค่ะ ขอให้คุณประสบแต่สิ่งดีๆในชีวิตนะคะ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุนค่ะ...ลองทำแล้วทำได้ค่ะ....ดีใจมาก..น้องๆๆหมาได้น้ำเกลือกัน...ดีเรยยย!!!

Unknown กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกลบโดยผู้ดูแลระบบของบล็อก
แม่มด กล่าวว่า...

ลูกสาวอายุ 15 ปี เริ่มเป็นโรคไต ต้องให้น้ำเกลือ แต่น้ำเกลือไม่เดิน(ไหลหน้อย ถึงไม่ไหลเลย)คะ
ทั้งๆที่ก่อนให้ก็ปล่อยน้ำเกลือล้างสายฯ ก็ไหลดี แต่พอแทงเข็มเข้าไปที่ผิวหนัง(ประมาณต้นคอฯ)น้ำเกลือกลับไม่ไหล อยากทราบว่าเป็นเพราะอะไรคะ

victor phichaisrisawad กล่าวว่า...

คุณแม่มด .. อาจไม่พ้นหนังรึเปล่าครับ หรือปลายเข็มอยู่ในช่วงผังผืด ดันเข็มช้าๆ ครับ จะรุสึกได้เวลามันหลุดไปเจอที่ว่างใต้ผิวหนัง ค่อยปล่อยน้ำเกลือ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

พี่คะ สุนัขหนูพันผสมพุดเดิ้ลมั้ง หนัก 7.1 โล ใช้เข็มเบอร์ 25 ได้มั้ย (เผอิญซื้อมาแล้ว)

ส่วนสายน้ำเกลือขนาด 15 drops/ml ตรงนี้ใช้ได้มั้ยคะ

ขอบคุณมากค่ะ

victor phichaisrisawad กล่าวว่า...

เข็มเบอร์ 25!!! เล็กมาก แต่น่าจะโอเคกับหมา 7 โลกว่านะ ลองดูครับ เรื่องขนาดสายน้ำเกลือไม่น่ามีผล เพราะมันมีลูกล้อสำหรับปรับความเร็วในการไหลอยู่แล้ว ปรับตรงนั้นเอาครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณมากๆค่ะ 🙏🏻

Unknown กล่าวว่า...

น้ำเกลือใต้ผิวหนังควรให้ตลอดไปเลยมั้ยคะ หากอาการดีขึ้นแล้วควรหยุดมั้ยคะ

victor phichaisrisawad กล่าวว่า...

ถ้ากินน้ำพอก็หยุดได้ครับ เช็คปริมาณน้ำที่เขากินต่อวันนะครับ

Unknown กล่าวว่า...

ต่อวันนี้กินน้ำน้อยมากเลยค่ะ แสดงว่าต้องให้ไปเรื่อยๆใช่มั้ยคะ คือกินข้าวได้ เดินเล่นได้ พึ่งให้น้ำเกลือต่อเนื่องมา4วัน น้องอาการดีขึ้น ก็เลยไม่มั่นใจว่าควรให้ต่อหรือหยุดดีน่ะค่ะ

victor phichaisrisawad กล่าวว่า...

ไม่กินน้ำ ต้องให้น้ำเกลือครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณมากนะคะ ตอนนี้ให้น้ำเกลือทุกเย็น เป็นตัว ARI ฉลากสีเหลือง เพราะหาซื้อตัวที่จขกท.แนะนำไม่ได้น่ะค่ะ ร้านขายยาเค้าบอกตัวยาเดียวกันคนละบริษัท ✌✌

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ น้องหมาที่บ้านเพิ่งเป็นโรคไตต้องมาให้น้ำเกลือเอง หมอก็บอกให้ใช้แบบ Acetate ให้เอาตัวอย่างของ รพ. ไปซื้อ
ก็จัดการไปซื้อเลยคนละยี่ห้อกับของ รพ. แต่ดูส่วนประกอบแล้วเหมือนกัน ซื้อมาให้เองถูกกว่าซื้อ รพ. เกือบ 5 เท่าเลยค่ะ แต่บางวันไม่ว่าง
ก็หิ้วน้ำเกลือแล้วพาน้องไปฝากให้ รพ. จัดการให้ แต่ล่าสุดหมอดันคิดว่าน้ำเกลือที่หิ้วไปเป็นขวดเก่าที่เหลือจาก รพ. เมื่อครั้งหลายวันมาแล้ว
หมอเลยเปิดขวดใหม่ให้ (เสียเงินฟรี ๆ 250 บาท เบอร์โทรก็มีหมอไม่ยักโทรมาถามเลย) แถมเป็นน้ำเกลือแบบ NSS หมอบอกใช้แทนกันได้
แต่อย่าให้รวมกันในครั้งเดียว ก็ถามว่าทำไมหมอบอกบางตัวมันทำให้ร้อน … ตอนหมอบอกก็ตะหงิด ๆ ค่ะว่าทำไมหมอเอาตัวนี้ให้แล้วไม่
โทรมาถามเพราะน้ำเกลือเราก็หิ้วไปด้วย

พอวันนี้กลับมาให้เองเลยให้ของเก่าที่เป็น acetate แล้วอีกวันเปิดขวดใหม่เลย ตัว NSS ที่หมอเปิดมาใช้ไป 250 ml. ทิ้งเลยดีกว่า
แล้วมาหาข้อมูลว่ามันต่างกันยังไงก็เจอข้อมูลนี้ค่ะ ไม่อยากเสี่ยงให้ต่อไปเพราะแอดมิทไป 2 รอบแล้ว ไม่อยากมีรอบที่ 3 ค่ะ

Unknown กล่าวว่า...

น้ำเกลือต้องไปซื้อที่ไหนคะ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณมากๆๆ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณมากค่ะ เป็นประโยชน์มาก ๆ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ ค่ะ ตัดสินใจให้น้ำเกลือน้องหมาพันธุ์ทางที่บ้านเอง หมาอายุ 9 ขวบแล้ว เลี้ยงทั้งหมด 5 ตัว กินอาหารเหมือนกัน ตัวแม่ 12 ขวบแล้วยังสุขภาพดีอยู่ ตัวอื่นพี่น้องก็ยังไม่มีอาการอะไร เลยเปลี่ยนอาหารตัวอื่น ๆ เป็นพรีเมี่ยมขึ้น ตัวที่ไตเสืาอมค่า cr ยังอยู่ในเกณฑ์ แต่ sdma สูงเกินมาตรฐานเท่านึง เลยต้องรีบฟื้นฟูค่ะ

Kimjilee beauty life กล่าวว่า...

น้องเพิ่งเสียไปพยายามยื้อ ชีวิตน้องไว้ หมอให้น้ำเกลือทางเส้นเลือด แต่น้องคงแก่มากแล้วแล้ว( 11 ปี )หมาพันธุ์เล็กด้วย

Unknown กล่าวว่า...

น้ำเกลือ​ LRI ใช้ได้ไมค่ะ

victor phichaisrisawad กล่าวว่า...

Lactated Ringer’s Solution และ Acetate Solution มีข้อบ่งใช้เป็น fluid resuscitation ในผู้ป่วยที่มีการสูญเสียเลือดหรือ plasma เช่น trauma, hemorrhagic shock และ burn หรือใช้เป็นสารน้ำทดแทนในระหว่างการผ่าตัดได้เหมือนกัน

ในด้านประสิทธิภาพพบว่า acetate ringer’s solution และ lactate ringer’s solution ไม่มีผลแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญในการเพิ่มอุณหภูมิร่างกายขณะวางยาสลบเพื่อผ่าตัด แต่ acetate ringer’s solution อาจจะคงระดับอุณหภูมิ (central temperature) ในช่วงแรกของการวางยาสลบเพื่อผ่าตัดได้ดีกว่า[1]

ดังนั้นหากพิจารณาด้านประสิทธิภาพของสารน้ำทั้งสองชนิดให้ผลในการรักษานั้นไม่ค่อยพบความแตกต่าง การเลือกใช้จึงต้องพิจารณาข้อบ่งใช้ในด้านความปลอดต่อสภาวะโรคของผู้ป่วยร่วมด้วย

โดยสารน้ำทั้งสอง ประกอบไปด้วยอิเล็กโตรไลท์ ที่เหมือนกัน[2] ได้แก่ Sodium, Potassium, Calcium, Chloride โดยมีความแตกต่างกันที่ Lactated Ringer’s Solution นั้นประกอบด้วย lactate ซึ่งเมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะถูกเปลี่ยนแปลงที่ตับเป็น bicarbonate ดังนั้นในผู้ป่วยโรคตับชนิดรุนแรง จึงจะมีปัญหาในการเปลี่ยน lactate เป็น bicarbonate ได้ ทำให้เกิดการคั่งของ lactic acid แล้วเกิดภาวะ lactic acidosis ตามมา แต่ในส่วนของ acetate solutions ประกอบด้วย acetate ที่สามารถเปลี่ยนแปลงเป็น bicarbonate ภายนอกตับและในเซลล์กล้ามเนื้อทั่วไปได้ และ acetate ยังสามารถเปลี่ยนเป็น acetyl CoA เข้าสู่ citric acid cycle ลดโอกาสในการคั่งของ acetate ได้

จากการศึกษาของ Attalla HA และคณะ[3] พบว่าในผู้ป่วยโรคตับ acetate solutions มีประโยชน์ใช้เป็นสารน้ำทดแทนในระหว่างการผ่าตัดได้มากกว่า Lactated Ringer’s Solution ในการลดภาระทางเมตาบอลิคของตับ และช่วยเพิ่มการทำงานของตับได้ acetate solution จึงสามารถใช้เป็นยาทางเลือก ในผู้ป่วยที่มีการทำงานของตับบกพร่องชนิดรุนแรงได้

ดังนั้น Lactated Ringer’s Solution และ Acetate Solution จึงมีความแตกต่างในด้านการพิจารณาเลือกใช้ให้มีความเหมาะสมต่อสภาวะโรคร่วมของผู้ป่วยเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้

ที่มาครับ
http://www.prachanath.su.ac.th/DIS/prachanath/answerq/ansform.php?Q_id=65
https://www.si.mahidol.ac.th/th/division/cpr/content/IV%20fluid.pdf

Unknown กล่าวว่า...

แมวป่าวต้องให้น้ำเกลือ300mlพนักงานที่รพ.เป็นคนให้ พนักงานปีบขวดน้ำเกลือเพื่อให้เร็ว จะเป็นอันตรายมั้ยค่ะ พนักงานบอกก็แค่ใต้ผิวหนัง